อแมนด้า โต้ดราม่าได้มงเพราะธุรกิจ ควงทีม MUT 2020 แจงปมนางงามเล่นของ


ให้คะแนน


แชร์

เราผ่านเวทีมาเยอะ แล้วก็ได้รับตำแหน่งมาเยอะ แบบนี้มันเหมือนเป็นการเอาเปรียบคนอื่นหรือเปล่า?
อแมนด้า : ด้าคิดว่ามันคือประสบการณ์มากกว่า เวลามีโอกาสเข้ามาด้าจะเข้าหาโอกาสตลอด แล้วเหมือนเป็นการเพิ่มประสบการณ์ ด้ามองว่ามันเป็นเรื่องดีนะคะ

อแมนด้าผ่านการเป็นนักแสดงมาแล้ว เซ็นสัญญากับช่องมากสีด้วย?
อแมนด้า : ใช่ค่ะ

แล้วอะไรที่ทำให้เราตัดสินใจมาประกวด?
อแมนด้า : ด้าได้เห็นว่าคนที่ชนะเขาได้เป็นแรงบันดาลใจให้กับผู้หญิงคนอื่นได้ แล้วเขามีกระบอกเสียงที่ยิ่งใหญ่มากขึ้นที่จะสามารถพูดได้ ด้าดูการประกวดแล้วรู้สึกว่าอยากเป็นผู้หญิงคนนี้จัง เราอยากจะเอาชนะตัวเองให้ได้ เราอยากจะมาแข่งขันอีกครั้ง

แต่หลายคนก็สงสัยเพราะว่าทางช่องไม่ดันหรือเปล่า เราถึงต้องมาทางด้านการประกวด?
อแมนด้า : ใจด้าเป็นคนที่รักการประกวดอยู่แล้ว จะเห็นได้อย่างชัดเจนว่าประกวดมาหลายเวทีก็เลยมาลงประกวดอีกครั้ง

หลายคนก็มองว่าเราก๊อบปี้คาแรกเตอร์ของแคทรีโอนา เกรย์ Miss Universe 2018 อันนี้เรารู้สึกยังไงบ้าง?
อแมนด้า : ไม่ได้ก๊อปเลย เวลาคนบอกว่าเหมือน หนูก็งงว่าจะเอาไปเปรียบได้ยังไง เพราะเราไม่ได้ก๊อป ไม่ได้พยายามที่จะเป็นเหมือนเขา เพราะด้าก็อยากเป็นด้า อาจจะด้วยหน้าตาหรือเปล่าที่คล้ายเขา คนก็เลยเอาไปเปรียบเทียบ แต่จริงๆ จะบอกตรงนี้เลยว่าด้าไม่ได้พยายามก๊อปใคร

มีเพื่อนนางงามไปโพสต์ว่าจริงๆ แล้วได้ตำแหน่งเพราะธุรกิจ?
อแมนด้า : มันไม่ใช่เรื่องจริงเลย ตั้งแต่ด้าตัดสินใจมาลงประกวดมิสยูนิเวิร์ส มันไม่ใช่ด้าตัดสินใจแล้วมาลงเลย แต่มันคือความตั้งใจ การฝึกฝนมากกว่า 1 ปี ถ้าด้ามีคอนเน็กชั่นเยอะขนาดนั้น ด้าจะฝึกฝนมาทำไม

อยากบอกอะไรกับคนที่ดราม่าอยู่?
อแมนด้า : ก็อยากให้ทุกคนรู้ว่าด้ามีความตั้งใจมาประกวดครั้งนี้ จะเห็นจากช่วงเวลาการประกวด ด้าตั้งใจกับทุกๆ วัน ไม่ว่ากองจะให้ทำกิจกรรมอะไรด้าทำหมด ก็อยากให้มองจุดนี้ด้วยว่าด้าได้มาเพราะศักยภาพของตัวเอง

ส่วนตัวได้คุยกับเพื่อนนางงามคนนั้นไหม?
อแมนด้า : ยังไม่ได้คุยค่ะ ถ้ามีโอกาสเจอกันก็จะถาม อยากเคลียร์ใจกันมากกว่า ยังไงเราก็เป็นเพื่อนกัน

แต่ก็มีบางคอมเมนต์ บางคนที่บอกว่าหน้าไม่ใช่คนไทย ไม่เหมาะที่จะได้ตำแหน่ง อันนี้เรารู้สึกยังไงบ้าง?
อแมนด้า : จริงๆ ด้าอยากให้ทุกคนเปิดใจ ด้าเป็นลูกครึ่ง แต่ด้าเกิดและโตที่ภูเก็ต ด้าเป็นคนไทย มีคุณแม่ที่เป็นคนไทย เวลาด้าอยู่ประเทศไทยทุกคนจะมองว่าไม่ใช่คนไทย แล้วเวลาด้าไปอยู่เมืองนอกเขาก็จะมองว่าไม่ใช่คนที่นั่น เป็นคนเอเชีย บางทีรู้สึกว่าไม่มีจุดยืนเลย ทั้งๆ ที่เรานี่แหละคนไทย เราเกิด โตที่นี่ แล้วมีวัฒนธรรมที่เป็นคนไทย

เห็นว่าตอนออดิชั่นคุณพ่อไม่สบาย คุณพ่อเป็นอะไร?
อแมนด้า : เป็นโรคไขข้อเสื่อม คุณพ่อก็เลยต้องไปเปลี่ยนสะโพก แต่ว่ามันเกิดการซับซ้อนนิดหน่อยก็เลยเป็นเส้นเลือดตีบถึงขั้นเข้า ICU ก็เฉียดอยู่เหมือนกัน แล้วมันเป็นวันออดิชั่นด้วย แล้ววันนั้นเรารู้สึกว่าตั้งสติไม่ค่อยได้ จะโฟกัสอีกเรื่องนึง แต่ในหัวเราโฟกัสเรื่องคุณพ่อ วันนั้นหน้าตากังวลมาก

แล้วจิตใจมันรู้สึกไหมว่าอยากจะออกจากการประกวดมาดูแลคุณพ่อเลย?
อแมนด้า : จริงๆ เราก็ถามตัวเองอยู่เหมือนกัน แต่ว่าคุณพ่อเขาซัพพอร์ตมากๆ กับมิสยูนิเวิร์ส แล้วเขาอยากให้หนูไปจริงๆ ก็คุยกับคุณแม่แล้ว เขาบอกไม่เป็นไรให้ไป เขาดูแลเอง แล้วหลังจากวันออดิชั่นก็คือ คุณพ่อออกจาก ICU พอดี ก็มีความโล่งใจก็โอเค เราสามารถสู้ตรงนี้แล้วเวลาเราว่างเราก็ไปหาคุณพ่อ

เรื่องของความรัก ตอนนี้มีไหม?
อแมนด้า : ตอบแบบนางงามแล้วกัน ต้องโฟกัสเรื่องมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ก่อน เพราะว่าตอนนี้เราเป็นตัวแทนประเทศไทยแล้ว เราก็ต้องโฟกัสตรงนี้ เพื่อที่จะไปคว้ามง 3 มาให้ประเทศไทย

ตอนนี้มีที่เข้ามาคุยด้วยกี่คน?
อแมนด้า : คนเดียวค่ะ เป็นฝรั่ง ก็คุยกันมาสักพักแล้ว ยังไม่มีการคุยเรื่องอนาคต เพราะตอนนี้เราเป็นมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ เราต้องโฟกัสตรงนี้

อแมนด้า แล้วก็วีนา ตอนจับมือกันแล้วลุ้น เราพูดอะไรกันบ้าง?
วีนา : ตอนนั้นจับมือกันแน่นมากเลย ลุ้นมาก วีนาบอกว่าถ้าได้ไปจักรวาลฝากด้วยนะ
อแมนด้า : นี่ก็เลยบอกว่าเหมือนกันนะ

วีนาคิดว่าปีหน้าจะมาประกวดอีกไหม?
วีนา : ตอบยากเลย เพราะว่าปีนี้งัดมาถือว่าสุดความสามารถของตัวเองแล้ว ถ้าได้พัฒนาต่อก็แน่นอน ถ้าถึงโอกาสแล้วพร้อมก็จะมาอีก

วีนารู้สึกยังไงบ้างที่คนบอกว่าที่เราไม่ได้ เพราะเราหน้าไม่ไทย ดูเป็นอินเดียเกินไป?
วีนา : วีนารู้สึกว่าไม่น่าจะจริง แล้วไม่ค่อยเห็นด้วยเท่าไร เพราะว่าสังคมไทยปัจจุบันมีหลายแบบมากเลย ในสังคมไทยเต็มไปด้วยลูกครึ่งหลายเชื้อชาติ วีนาเองคนไทยเชื้อสายอินเดีย แล้วมีพื้นที่ในสังคมนี้เท่ากับคนอื่นแน่นอน ควรให้โอกาสแล้วล่ะตอนนี้

มาที่พรฟ้าบ้าง มากกว่ามงคือเราได้ลบคำครหาตัวเอง?
พรฟ้า : ล้างมลทินตัวเอง คือย้อนกลับไปประมาณ 5 ปีที่แล้ว เรื่องเกี่ยวกับสารเสพติด พรฟ้ามีภาพข่าวออกมา ซึ่งเป็นภาพข่าวที่ค่อนข้างสะเทือนใจ แล้วก็เป็นภาพข่าวที่สังคมไม่ยอมรับเลย พรฟ้าก็ถูกตีตราจากสังคมเลยว่าเราเป็นคนไม่ดี เราเป็นคนที่ใช้สารเสพติดหรือเปล่า

แต่หลังจากผ่านกระบวนทางกฎหมายมาเรียบร้อย พรฟ้ามีเปเปอร์กับตัวมาตลอด แต่ไม่เคยงัดออกมาเลย เพราะว่าตอนนั้นเราไม่มีโอกาสได้แสดงออกมา แต่สิ่งที่ TPN มอบโอกาสให้กับพรฟ้า มันคือจุดยืน มันคือพื้นที่ มันก็เลยทำให้พรฟ้าได้มาเคลียร์ตัวเอง ซึ่งตรงนั้นมันทำให้พรฟ้ารู้สึกว่าเราได้ชัยชนะไปแล้ว ที่เหลือคือกำไรทั้งหมด

น้องแพรวก็โดนกระแสดราม่าด้วย?
แพรว : หนักหน่วง แต่ไม่ได้รู้สึกอะไร ทุกครั้งที่เห็นข่าวก็หัวเราะกลับไป มันเป็นเรื่องที่ไม่จริง ก็เลยไม่อยากจะเก็บมาใส่ใจ เราโฟกัสว่าเรามาทำอะไร เพื่ออะไร แค่นั้นพอ แพรวว่าเวลาจะพิสูจน์ได้ว่าอะไรคือเรื่องจริง อะไรไม่จริง ให้มันเป็นสีสันของการประกวดไปแล้วกัน

ซินดี้เป็นคนที่แซงม้ามืด เรารู้สึกยังไงบ้างที่หลายคนพูดแบบนี้?
ซินดี้ : ตอนแรกหนูก็รู้สึกงง เพราะหนูขาวมาก หนูน่าจะเป็นม้าขาว แต่ก็โอเค ม้ามืดคือตัวที่ไม่คิดว่าจะเข้า ก็รู้สึกดีใจที่ได้เข้ามา

แล้วที่เขาเม้าท์กันว่ามีเล่นของในกองจริงไหม?
แพรว : แพรวเป็นหนึ่งคนที่โดนโยง มีคนคิดว่าเป็นเรา เราก็อยากบอกว่าถ้าเราเล่นของจริงๆ ป่านนี้มงอยู่บนหัวดิฉันไปแล้ว ไม่ได้มานั่งอยู่ตำแหน่งนี้หรอกค่ะ

มีใครเป็นสายมูเตลูไหม?
วีนา : ทั้งหมดนี้เลย
อแมนด้า : คือปกติด้าไม่เคยไปบนที่ไหน แต่การประกวดครั้งนี้คุณแม่พาไปบนที่ห้วยขวาง
แพรว : เป็นฟีลสวดมนต์มากกว่า เหมือนช่วยให้มันมีสมาธิเยอะขึ้น

ชมคลิป

ดูข่าวต้นฉบับ

ที่มา : https://www.thairath.co.th/entertain/news/1953339
ขอขอบคุณ : https://www.thairath.co.th/entertain/news/1953339