หนังเก่ารีเทิร์น เมื่อโควิดทำให้เราได้ชมภาพยนตร์ขึ้นหิ้งในโรงหนัง


ให้คะแนน


แชร์

ด้วยเหตุผลประการฉะนี้ เมื่อค่ายหนัง มิกล้าจะเสี่ยงเอาหนังฉายช่วงนี้ โรงหนังจะทำยังไง..

ผู้หญิงข้าใครอย่าแตะ ผู้หญิงข้าใครอย่าแตะ

ก็เลยต้อง “จำใจ” ด้วย “ใจจำยอม” เอาหนังเก่าเข้ามาฉายโรงอีกครั้ง ซึ่งหนังที่คนพูดถึงอย่างกว้างขวางในช่วงที่ผ่านมา คือ “ผู้หญิงข้าใครใหญ่อย่าแตะ” โคตรหนังจากฝั่งฮ่องกง นำแสดงโดย “เฮียหลิว” หรือ “หลิวเต๋อหัว” และ “อู๋ เชียนเหลียน” หนังเรื่องนี้เชื่อว่าหลายๆ คนเคยดู แต่เมื่อถามว่า ใครเคยดูหนังเรื่องนี้ในโรงภาพยนตร์บ้าง..ต้องบอกว่าอาจจะไม่มาก เพราะหนังฉายตั้งแต่ปี 2533 แถมเวลานั้นโรงภาพยนตร์ก็มีไม่มากนักดังปัจจุบัน แถมคนรุ่นนั้นที่ได้ดู ส่วนมากก็ “เช่าวิดีโอ” มาดูทั้งนั้น! (ดักแก่กันเลยทีเดียว ฮา)

การนำหนังเก่ามาฉายใหม่นั้น นายอรากร ฤกษ์เกษม หรือ “จีน Viewfinder” ยูทูบเบอร์ช่องดัง Scoop Viewfinder มองว่า การที่นำเก่ามาฉายในโรงเวลานี้เป็นเรื่องหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะเขาไม่รู้จะเอาหนังที่ไหนมาฉาย

“จากที่ได้คุยกับทางโรงหนังก็เข้าใจ ส่วนตัวมองว่าเป็นการ “วัดใจ” คนจัดโปรแกรมโรงหนังเลย เพราะถ้าพูดตรงๆ คือ เวลานั้น “ไม่มีหนังจะฉาย” แต่โรงหนังก็ต้องดำเนินกิจการต่อไป ซึ่งในมุมของคนทำธุรกิจโรงหนังเรียกว่าเป็น “หายนะ” ชัดๆ เลย” หนุ่มจีน กล่าวอย่างเข้าใจ

หนังเก่ากลับมาฉายใหม่ หนังเก่ากลับมาฉายใหม่

ส่วนวิธีการจัดโปรแกรมหนังเก่ามาฉาย เจ้าตัวบอกชัดเจน “ผมก็ไม่รู้!” พร้อมเสริมต่อว่า ไม่น่าจะมีหลักเกณฑ์ที่ตายตัว แต่คาดว่าน่าจะดูความเหมาะสมเป็นรายเรื่อง เช่น คุณภาพหนังเป็นอย่างไร ใครถือลิขสิทธิ์อยู่ ส่วนแบ่งการตลาดเป็นอย่างไร หนังเก่ากระแสพูดถึงอยู่ไหม คิดว่าสิ่งที่คนจัดโปรแกรมคิด คงอะไรคล้ายๆ ประมาณนี้

ยูทูบเบอร์ช่องหนัง ที่มีคนติดตามมากกว่า 8 แสน subscribers กล่าวต่อว่า ตอนนี้ไม่มีหนังใหม่ ฟอร์มยักษ์เข้าฉายเลย แต่ในมุมของคนดูอาจจะรู้สึกว่ามีอะไรที่น่าสนใจ เพราะเราอาจจะรู้สึกว่ามีหนังบางเรื่องที่เคยหลุดไป คือ ไม่ได้ดูโรงหนัง จึงเป็นโอกาสให้เรากลับมาดูใหม่ ซึ่งการดูหนังในโรงหนังมันแตกต่างจากดูที่บ้านอยู่แล้ว

“หากได้ดูหนังของ คริสโตเฟอร์ โนแลน แบบเข้าฉายเป็นแผง หรือ ดูหนังเรื่องผู้หญิงข้าใครอย่าแตะ ในโรง ซึ่งในความโชคร้ายจากโควิด-19 ก็ยังมีความโชคดีที่ได้ดูหนังแบบนี้ มันถือเป็นเรื่องวิเศษมากนะครับ” จีนกล่าวพลางหัวเราะคำโตอย่างเป็นเอกลักษณ์

จีน Viewfinder จีน Viewfinder

ระบบโรงหนังในประเทศไทย ฉายหนังเก่าน้อย โปรแกรมฉายไม่หลากหลาย

นายอรากร เล่าว่า ในต่างประเทศมีโรงหนังที่ไว้สำหรับฉายหนังเก่าเลยเยอะมาก ซึ่งแตกต่างจากการทำธุรกิจโรงหนังในบ้านเรา ที่ส่วนใหญ่จะเอาหนังฟอร์มยักษ์เข้ามาฉาย เรียกว่าฉายยังไงก็ได้ตังค์ ซึ่งแตกต่างจากสมัยก่อน

หนุ่มจีน ได้ “เท้าความหลัง” ตอนสมัยเป็นวัยรุ่นว่า ได้เข้าไปดูหนังในโรงหนังเกือบทุกวัน ตั้งแต่สมัยตั๋วราคา 120 บาท ทั้งที่โรงหนังสมัยนั้นไม่เยอะมากดังเช่นสมัยนี้ แต่สิ่งที่แตกต่างคือ โรงหนังสมัยนั้นกลับมีโปรแกรมหนังฉายที่หลากหลายกว่ามากๆ มีหนังให้ดูหลากหลายแนว แต่เมื่อมามองสมัยนี้ (ก่อนโควิด-19 ระบาด) โรงหนังส่วนมากจะฉายหนังไม่กี่เรื่อง เรียกว่า เทโรงให้กับหนังบางเรื่องเท่านั้น

“หากไม่มีปัญหาโควิด-19 ก็คิดว่า โรงหนังในบ้านเราส่วนใหญ่ก็คงไม่เอาหนังเก่าๆ มาฉาย เพราะโรงหนังเขาก็ต้องคิดในเชิงธุรกิจ ตอนสถานการณ์ปกติเขาสามารถเลือก “ช็อป” ได้เลย อย่าว่าจะเอาหนังเก่ามาฉายเลย หนังทางเลือก หนังสัญชาติอื่นๆ ที่ไม่ใช่กระแสหลัก โอกาสที่จะเข้าฉายโรงหนังนั้นยากมาก”

พอเหตุการณ์เป็นแบบนี้อำนาจตัดสินใจถูกเปลี่ยนมือมาที่ “คนดู” ที่อาจจะเรียกร้องให้โรงหนัง เอาหนังเรื่องโปรดมาฉาย หรือโอกาสของหนังฟอร์มเล็ก หนังสัญชาติอื่นๆ ที่ไม่ใช่ฮอลลีวูด เช่น อินโดนีเซีย หนังออสเตรเลีย หรือแม้กระทั่งหนังจีนอย่างเรื่อง “นักรบ 800” (the eight hundred) ถ้าเป็นการฉายหนังปกติคิดว่าไม่น่าจะได้รอบหนังเยอะขนาดนี้ แต่เมื่อมาฉายในโรงหนังตอนนี้กลับทำเงินและเป็นกระแสพูดถึงปากต่อปากมากขึ้น

เสน่ห์ของหนังยุคเก่า 4 เรื่องอยากให้กลับมาฉายใหม่สไตล์ Viewfinder

สำหรับเสน่ห์ของหนังเก่านั้น จีน Viewfinder มองว่า หนังแต่ละยุคมีธรรมชาติที่แตกต่างกัน เสน่ห์มันก็แตกต่างกัน เช่น หนังยุคใหม่มีเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์กราฟิกที่สวย ทำสัตว์ประหลาดขึ้นมา โอ้โห! เนียนจัง แต่..ส่วนตัวชอบ วิธีการ animatronics เหมือนกับทำหุ่นขึ้นมาเลย ทำสัตว์ประหลาดขึ้นมา ทำให้มันขยับ ผมว่ามันดูน่าตื่นเต้นกว่า ซึ่งแตกต่างจากเทคโนโลยีสมัยนี้ที่เป็นคอมพิวเตอร์กราฟิกเกือบทั้งหมด ผมว่ายังไงก็ดูรู้ ส่วนหนังสมัยก่อนถามว่าดูรู้ไหม ก็ดูรู้แต่ที่สุดแล้ว “หนังเรื่องไหนทำดี จะไม่มีข้อกังขานะ”

“ไม่ว่าหนังนั้นจะเก่าขนาดไหน ยกตัวอย่างหนังเรื่อง Star Wars ตั้งแต่ a new hope (1977) The Empire Strikes Back (1980) หรือ Return of the Jedi (1983) ผมให้ไปถามแฟนๆ สตาร์ วอร์ส ทุกรุ่นเลย ว่าชอบไหม ผมเชื่อได้เลยว่าตอบว่าชอบ ซึ่งการทำหนังบางครั้งก็ไม่จำเป็นต้องคอมพิวเตอร์กราฟิกเยอะหรอก ซึ่งการทำหุ่นแบบนี้ขึ้นมา แม้แต่ภาคใหม่ๆ อย่าง The Force Awakens ก็ยังใช้อยู่ ถ้าทำดีๆ ก็ยังอยู่ได้”

และเมื่อถามว่า มีหนังเก่าในดวงใจที่อยากให้กลับมาฉายใหม่ไหม จีน Viewfinder ตอบว่า “สำหรับผมมี 4 เรื่อง” คือ Back to the Future อยากดูให้ครบทุกภาคเลย เรื่องต่อมา คือ Indiana Jones ขอแบบไม่รวมภาค Kingdom of the Crystal Skull (ฮา หัวเราะ) หนังเรื่องนี้ตั้งแต่ภาคแรกๆ เป็นสิ่งที่อัศจรรย์มากๆ

Who Framed Roger Rabbit (1988) Who Framed Roger Rabbit (1988)

ชอว์แชงค์ มิตรภาพ ความหวัง ความรุนแรง (The Shawshank Redemption) หนังเรื่องนี้คือหนังสมบูรณ์แบบมาก เป็นหนังที่มีโอกาสได้ดูในโรงภาพยนตร์ เรียกว่า “ช็อกไปเลยฮะ” คือแรกๆ เรียกว่าไม่รู้อะไรเลย ไม่รู้ว่าบทนี้ สตีเฟ่น คิง เป็นคนเขียน ด้วยซ้ำ

ส่วนเรื่องสุดท้ายที่อยากดู คือ ไม่เกี่ยวอะไรกับใครทั้งสิ้น คือ เรื่อง Who Framed Roger Rabbit (1988) เป็นหนังกึ่งการ์ตูน โดยเอาตัวละครของดิสนีย์ และ วอร์เนอร์ บราเธอร์ส มารวมกัน มันเป็นหนังที่นึกถึง..

ผู้เขียน : อาสาม
กราฟิก : Phantira Thongcherd

อ่านข่าวที่น่าสนใจ 

“ผู้หญิงข้าใครอย่าแตะ” จากหนังฉายคั่นกลาง สู่ตำนานรักฮ่องกงฟีเวอร์

วรรณกรรม ล้ำ เวลา แกะรอย 9 หนัง “คริสโตเฟอร์ โนแลน” ก่อนชม TENET

“ฮ่องกง” Top 3 ค่าเช่าบ้านแพงสุดในโลก ต้องลี้ภัยไป “แมคโดนัลด์”

“มหาเศรษฐีพันล้าน” รวยไม่หยุด โควิด-19 ไม่ระคาย ความมั่งคั่งทุบสถิติปี 60

ดูข่าวต้นฉบับ

ที่มา : https://www.thairath.co.th/scoop/1962209
ขอขอบคุณ : https://www.thairath.co.th/scoop/1962209