แตงกวา ย้อนเส้นทางรัก เอ พศิน หมดรักแบบผัวเมีย ยันไม่ได้เป็นทอม


ให้คะแนน


แชร์

ฝ่ายชายบอกว่าแยกห้องนอนเป็นปี ไม่ยุ่งเกี่ยวในฐานะสามีภรรยา?
“จริงค่ะ แยกกันแล้ว แยกห้องนอนอยู่”

บูชาพญานาคหรือไม่เราก็จะเลิกกันอยู่ดี?
“ใช่ค่ะ น่าจะถึงเวลา ไม่น่าจะใช่คนที่ต้องรักกันในฐานะคู่รัก และไม่มีเรื่องมือที่สาม ไม่มีเรื่องทะเลาะกัน งงไหมคะ (หัวเราะ)”

ที่สนใจเรื่องพญานาค ไปๆ มาๆ ยังไงถึงได้มาบูชา?
“เริ่มจากฝันค่ะ แตงฝันว่าไปเที่ยวถ้ำๆ นึง แล้วมืดมาก ไปทั้งครอบครัว สักพักครอบครัวหายไปหมด เหลือแตงลอยเรืออยู่คนเดียว สักพักมีพญานาคว่ายน้ำมาแล้วโผล่หัวขึ้นมาเหมือนจะฉกแตง แตงก็หนีขึ้นฝั่ง เขาก็ว่ายตาม

สักพักกลายร่างเป็นคน เป็นผู้ชาย หล่อสูงสมาร์ทเลย ก็เข้ามากอดแตง เหมือนความรู้สึกว่าเขาเป็นสามี เขาบอกหนีมาทำไม ทำไมไม่อยู่กับเราในถ้ำ แตงไม่เชื่อเรื่องที่มองไม่เห็นเลยค่ะ

แต่อยู่ดีๆ แตงไปวัดนึงอยู่ที่เชียงราย ตั้งใจไปทำบุญ แล้วอยู่ดีๆ ก็ยืนร้องไห้หนักมาก ลืมตาไม่ขึ้น สงสัยดูหนังเยอะ กลัวตัวเองเหมือนในหนังร่างออกแล้ววิญญาณอื่นเข้ามาแทน (หัวเราะ) แต่ก็ลืมตาไม่ขึ้น จนต้องพูดความฝันให้พระฟัง พระบอกว่ามีถ้ำอยู่ตรงนั้น ก็เหมือนในความฝันเลย”

เราไปโดยบังเอิญ?
“ใช่ค่ะ ไม่ได้ใส่ใจเลยตอนนั้น พระบอกว่ามีถ้ำ ไปดูก็เหมือนในฝัน แค่ไม่มีน้ำ พระท่านก็บอกว่าถึงเวลาแล้วแหละว่าต้องบูชาอะไร ไปลองศึกษาดูว่าพญานาคเป็นยังไง เราก็อยากรู้อยากเห็น ถ้าพญานาคมีจริง แตงขอให้ได้โชคหน่อย

พอสิ้นเดือนมาถูกหวย ท้าทาย (หัวเราะ) ตอนนั้นเราไม่เชื่อเลย หลังจากนั้นก็ยังไม่เชื่อ ขอเรื่องงานอีกค่ะ ถ้าแตงพูดออกไป งานนี้เขาติดต่อมา ขอให้คอนเฟิร์ม อย่างโฆษณาหรือรีวิว อธิษฐานภายใน 3 วัน แล้วก็ได้หมดเลยค่ะ ก็เลยพอแล้ว ไม่ท้า ไม่พูดแล้ว เอาท่านมาบูชา แต่เป็นองค์สีดำค่ะ”

พอได้พญานาคมาบูชาคิดว่าจะเลิกกันเลย?
“ยังไม่ได้คิดค่ะ เกือบปีมั้งคะ”

ถ้าไม่ใช่เรื่องคู่ เรื่องอื่นชีวิตเป็นยังไงหลังจากบูชาพญานาค?
“งานดีขึ้นค่ะ ได้โชคโดยไม่รู้ตัว ไม่ค่อยขอเรื่องความรัก ขอแค่งานและสุขภาพ”

หลังได้พญานาคมา เราออกสื่อว่าเพราะช่วงนี้บูชาพญานาค เราเลยถือเคล็ด นี่คิดเอง?
“คิดเองค่ะ (หัวเราะ)”

เอาท่านมาอ้างแบบนี้ต้องไปขอขมามั้ย?
“ไปค่ะ จับมือพี่เอไปขอขมาเลย ขอโทษที่ใช้ท่านเป็นข้ออ้างให้เราเลิกกัน วันนั้นไปคำชะโนดค่ะ ก็เหมือนเด็กขอโทษผู้ใหญ่ค่ะ”
 
เลิกแล้วทำไมต้องเป็นทอม?
“ไม่ได้เป็นทอม แตงชอบลุคนี้มากกว่า”

ตกลงเป็นมั้ย?
“แตงเป็นตัวของตัวเองค่ะ เป็นผู้หญิงสตรองอยู่แล้ว เหมือนแมนๆ ด้วยซ้ำ ตอนผมยาวแตงก็แมนๆ แต่งตัวเท่ๆ แต่คนไม่ได้โฟกัสเพราะผมยังยาว”

แต่แตงเขียนบอกเองว่าเป็นทอม?
“พูดแหย่เล่น (หัวเราะ) แตงคิดว่าแตงเป็นอะไรก็ได้ค่ะ ที่เป็นตัวของตัวเองและไม่ทำให้คนอื่นเดือดร้อน อย่างน้อยต้องเป็นแม่ที่ดีให้ลูก”

มีผู้หญิงหรือผู้ชายที่ชอบมั้ยตอนนี้?
“มีดูๆ อยู่ แต่ไม่พูดดีกว่า สถานะโสดเหมือนเดิมค่ะ”

มีโอกาสแต่งงานใหม่มั้ย?
“ยังไม่โฟกัสตรงนั้นเลยค่ะ คิดเรื่องงานอย่างเดียวเลย ไม่ได้คิดเรื่องมีใหม่ เพราะตอนนี้แตงเปลี่ยนมาเป็นช่างภาพถ่ายแนวพรีเวดดิ้ง”

เลิกกันแต่ยังอยู่บ้านเดียวกัน ไม่เคยแยกบ้านออกมาเลย?
“ใช่ค่ะ เรื่องดูแลลูกก็สลับกัน ใครไม่ไปทำงานก็ดูแลลูก ไม่ได้นอนห้องเดียวกัน”

โดยปกติคนเลิกกันแยกบ้าน ทำไมไม่อยากแยก?
“แตงว่าแยกไม่ได้ แตงเอาตัวเองไปอยู่ในจุดของลูก ถ้าแตงเป็นลูกก็ไม่อยากให้พ่อแม่แยกทางกัน อยากมีทั้งพ่อและแม่ และแตงก็แยกไม่ได้ เพราะแตงอยู่กรุงเทพฯ ตัวคนเดียว พี่เอเป็นที่ปรึกษาที่ดีมากสำหรับแตง”

ถ้าวันใดวันหนึ่งพี่เอจะแต่งงานใหม่ เราจะทำยังไง?
“หนูเป็นเพื่อนเจ้าสาวให้ก็ได้ค่ะ  (หัวเราะ) ไม่มีใครมานั่งเสียใจ มันเสียเวลาค่ะ”

ถ้าเขาแต่งงานใหม่ก็ต้องแยกบ้านนะ?
“ก็แยกค่ะ ให้พี่เอออก เพราะบ้านหลังนี้เป็นบ้านของเลโก้ พี่เอออกไปสร้างครอบครัว ถ้าเมื่อไหร่อยากจะออก”

ข่าวพี่เอมีกิ๊กก่อนเลิก?
“ไม่ใช่ค่ะ ข่าวผิดหมดเลย เลิกกันแล้ว มีสิทธิ์ที่เขาจะเปิดใจ แตงรู้ไม่ใช่ไม่รู้ มีหลังจากเลิกกันแล้ว ก่อนเลิกไม่มี”

อธิบายลูกยังไง?
“ตอนนี้ก็บอกเลโก้ประจำว่าแม่กับปะป๊าเป็นเพื่อนกันแล้ว รักกันมาก”

เอ พศิน อยู่ในสาย อยากถามเรื่องที่ถือเคล็ดบูชาพญานาค เลยต้องเลิกกัน ไปยังไงถึงเริ่มมาบูชาพญานาค?
เอ : “เดิมทีเราศรัทธาในพระพุทธเจ้า ผมก็เขียนหนังสือเกี่ยวกับบรรพบุรุษพระพุทธเจ้าและศึกษาเรื่องธรรมะมาตลอด พอเราศึกษาเรื่องพญานาคที่คุ้มครองพระพุทธเจ้า

ก็รู้สึกว่ามีความสุขใจในการได้นับถือศรัทธา ผมกับแตงกวาก็ศรัทธาในสิ่งเดียวกัน แตงกวาเริ่มสัมผัสสิ่งลี้ลับได้ก่อน ก็เลยรู้สึกว่าน่าสนใจ”

เพราะอะไรถึงบอกว่าบูชาพญานาคเลยต้องเลิกกัน?
เอ : “เขาบอกว่าคนที่บูชาพญานาคจะไม่สมหวังเรื่องความรัก เราก็พยายามหาข้อพิสูจน์ อะไรที่สามารถทำให้เราสบายใจเราก็จะทำ ก็มีคนแนะนำว่าถ้าเป็นอย่างนี้เราจะสร้างวัตถุมงคลไปทางสายนี้โดยตรงก็ต้องมีการแก้เคล็ด

เขาบอกว่าจะมีบททดสอบต่างๆ เข้ามาในชีวิต บางคนก็ความรัก ครอบครัว เงินทอง ธุรกิจ จะโดนไม่เหมือนกัน เมื่อผ่านไปแล้วจิตเราจะนิ่ง จะเมตตา ให้อภัย เหมือนอัปเลเวล

แตงกวาเขาจะมีเซ้นส์มากกว่าผมในช่วงแรก เขาจะชัดเจนมาก ไปบางที่เขาจะมีพลังงานที่สื่อสารกับตัวเขาจิตเขา ช่วงแรกผมก็ยังไม่มี แต่พอเริ่มเขียนภาพก็มีสมาธิ เริ่มสื่อสารอะไรบางอย่างได้ทางร่างกายกับจิตเรา”

แล้วที่บอกว่าพญานาคตามดูแลลูกจริงมั้ย?
เอ : “ผมว่าถ้านับถือเกี่ยวกับเทววิทยา หรือพุทธเทวะ ก็จะเชื่อว่ามีเทวดาประจำตัว ไม่งั้นเราคงไม่ดูฤกษ์เกิดว่าเทวดาประจำตัวเป็นองค์ไหน บังเอิญเรานับถือองค์พญานาค ปู่ย่า ขอพร ขอความสงบสุข รุ่งเรือง เป็นครอบครัวเดียวกัน ก็น่าจะมีสิ่งเดียวกันคุ้มครอง หรือมากกว่านั้น แต่จิตมนุษย์ไปไม่ถึง เพราะเราไม่ใช่เกจิอาจารย์”

ถ้าบูชาพญานาคแล้วจะไม่สมหวังเรื่องความรัก ทำให้เราออกมาประกาศว่าเลิกกับแตงกวาเหรอ?
เอ : “ช่วงนั้นก็จริงนะ มีช่วงนึงร้อนๆ หนาวๆ จิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเวลาทำอะไร แล้วมีอุปสรรคเยอะ ก็มีคนแนะนำว่าเอางี้มั้ย ไหนๆ เราก็มาสายนี้เต็มตัว”

ไม่ใช่คุยกันอยู่แล้วว่าอยากจะเลิก ประจวบเหมาะบูชาพญานาค ก็เลยพูดไปลอยๆ หรือเปล่า?
เอ : “ไม่ใช่หรอกครับ ผมเป็นคนก่อนพูดหรือคิดอะไร เป็นสิ่งที่เกิดจากการวิเคราะห์ หาเหตุผล ผมเชื่ออะไรยาก ไม่ใช่งมงายเรื่องพวกนี้ กว่าจะเชื่อต้องผ่านการพิสูจน์มากกับตัวเอง”

สรุปอยากเลิก หรือเกี่ยวกับเรื่องเคล็ดจริงๆ?
เอ : “ทุกวันนี้ก็ไม่ได้อยากจะเลิกนะครับ คือสิ่งที่เราทำอยู่ทุกวันนี้คือครอบครัว ผมว่าเลิกโฟกัสเรื่องเลิกไม่เลิก หย่าไม่หย่า เรื่องราวที่ผ่านมาไม่ใช่เวย์แล้ว เป็นเรื่องการเราอยู่ยังไงถึงมีความสุขดีกว่า”

แล้วอยู่แบบไหนถึงมีความสุข?
เอ : “ก็มีเราในครอบครัว มีลูกชายเป็นศูนย์กลาง มีแตงกวาที่เราพร้อมซัพพอร์ตในสิ่งที่เขาทำ บางอย่างพออยู่ในสถานะสามีภรรยามันคุยกันยาก”

สถานะไหนที่มีความสุขกว่ากัน สถานะสามีภรรยาหรือเป็นเพื่อนกัน?
เอ : “ผมว่าปัจจุบันครับ เราโฟกัสที่ความสุขของเขา และความสมบูรณ์ในชีวิตของลูกด้วย ถ้าเขามีเป้าหมายแล้วไปไม่ถึง เขาอยากจะลองแล้วเราไม่ให้ลอง เหมือนเราอยากทำงานแบบนี้แต่พ่อแม่ไม่ให้ทำ จะลองเสี่ยงทำงานแบบนี้แต่พ่อแม่ไม่ให้เสี่ยง เราก็จะติดอยู่ในใจว่าทำไมไม่ให้โอกาสเรา”

เหมือนแตงกวามีอะไรอยากทำเขาเลยอยากเลิก?
เอ : “ไม่ใช่ เป็นเรื่องเป้าหมายในชีวิตที่ต้องอาศัยเวลา ผมก็เชื่อมั่นว่าเขาทำได้”

รักกันดี ไม่เคยทะเลาะกัน ไม่มีมือที่สาม แต่ทำไมเลิกกัน?
เอ : “มีเหตุผลมากมายสำหรับครอบครัว ผมบอกเลยว่าอาชีพผมเป็นนักแสดง เป็นสาธารณะ แต่ว่าเหตุผลบางอย่างที่เป็นเรื่องส่วนตัวไม่ใช่สาธารณะ ถ้าเราโฟกัสที่ปัจจุบันเราดูแลลูก

เราไม่เคยสะกดคำว่าเราทำหน้าที่ แต่เราอยู่ตรงนี้เรามีความสุข เขาทำสิ่งที่อยากทำได้โดยเราไม่ได้ปิดกั้น เขาก็ยอมรับเรา เราก็ยอมรับเขา ลูกเราก็มีความสุขอย่างที่เห็น ผมว่าเป็นความสุขที่สมบูรณ์”

หรือแตงกวาเขาลุกขึ้นมาบอกว่าไม่ชอบผู้ชายแล้วนะ เขาชอบผู้หญิง?
เอ : “เขาไม่เคยบอก (หัวเราะ) เรื่องนี้เป็นเรื่องส่วนตัวของเขา สำคัญตรงที่เขาเบียดเบียนคนอื่นหรือเปล่า เห็นแก่ตัวหรือเปล่า ตรงนี้สำคัญที่สุด เพราะคนมีลักษณะพิเศษในวงการนี้ ผมว่ามีเป็นล้านคน และประสบความสำเร็จเยอะ ฉะนั้นใครอยากเป็นอะไร อยากแต่งตัวยังไงก็เป็นสิทธิ์ของเขา ชีวิตของเขา เราให้เกียรติเขาก็ต้องยอมรับในตัวตนเขาได้ทุกอย่าง”

เขาลุกขึ้นมาตัดผมสั้น แปลกใจมั้ย?
เอ : “น่ารักดีนะครับ (หัวเราะ)”

ชอบลุคนี้กว่าผมยาวมั้ย?
เอ : “ผมว่าคนเราเติบโตไปตามวุฒิภาวะและเวลาด้วย ตอนนี้เขาค้นหาตัวเองเจอแล้วว่าเขาชอบถ่ายภาพ เวลาผมยาวก็ไม่สะดวก”

ถ้าวันนึงแตงกวามีแฟน อาจจะผู้ชายหรือผู้หญิง พี่เอรับได้?
เอ : “รับได้ครับ คือเวลาเรารัก เราเมตตา ปรารถนาดีต่อใคร ยังไงก็ได้ แค่เห็นเขาประสบความสำเร็จยังไงก็ได้ มันคือการให้โอกาสที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ถ้าเราไม่เห็นแก่ตัว เรามองเขาอย่างที่เรามองตัวเองเราก็จะรู้สึกได้ว่าการให้มันยิ่งใหญ่”

จะมีโอกาสแต่งงานใหม่มั้ย?
เอ : “ยากครับ อย่างที่ทราบเราก็ยังช่วยกันดูแลลูก ตอนนี้ก็เปิดเผยให้คนทั้งโลกรู้แล้วว่าเป็นแบบนี้ เพื่อให้การทำงานสะดวกขึ้น ถ้าคนที่สาม ที่สี่จะเข้ามา ก็เป็นเรื่องที่เราต้องให้เกียรติเขา ยังไม่ใช่เวย์ เราต้องโฟกัสที่ลูกก่อนอยากให้ลูกเติบโต อีกความคิดเห็นที่สำคัญคือความคิดเห็นของลูก เมื่อเขาโตขึ้น”

โอกาสกลับมาเป็นสามีภรรยา?
เอ : “ถามน้องหรือยังครับ (หัวเราะ) ทุกสิ่งในโลกไม่แน่นอน เกิดขึ้นตั้งอยู่ดับไปได้เสมอ ถ้าเรามีความรักปรารถนาดีต่อกัน สิ่งดีๆ ก็เกิดขึ้นได้ตลอด และผมก็ยังมีอยู่”

อยากพูดอะไรกับแตงกวา?
เอ : “สวัสดีครับสาวหล่อ (หัวเราะ) สำหรับเราไม่ต้องพูดเขาก็เข้าใจในสิ่งที่เราทำ มีความหมาย มีความสำคัญกับชีวิตคนคนนึงที่สำคัญที่สุดในโลกของเรา หนูจะทำอะไรก็ได้ ยังไงก็อยู่ในความห่วงใยของป๊ากับลูกอยู่เสมอ จะเป็นกำลังใจและซัพพอร์ตตลอดไป ผมสัญญากับคุณพ่อเขาไว้แล้วว่าจะดูแลเขาตลอดชีวิต”

ในอนาคตถ้าต่างคนไม่ได้มีใคร มีโอกาสกลับมาอยู่ในสถานะสามีภรรยาอีกมั้ย?
“ตอนนี้คิดว่าแบบนี้ดีกว่าค่ะ”

แต่อยู่แบบนี้ต่อไปไม่ได้ตลอดชีวิต?
“หนูว่าได้นะ ถ้าพี่เอแยกไปแล้ว วันนึงคิดถึงลูกก็กลับมานอนบ้าน ให้แฟนมาด้วยก็ได้ ไม่ได้ว่าอะไร ไม่ติดอะไร”

อนาคตกลับมาคงยาก แบบนี้แฮปปี้กว่า?
“ใช่ค่ะ แบบนี้แฮปปี้กว่า”

หมดใจความรักแบบผัวเมียไปแล้ว?
“ใช่ค่ะ ตอนนี้เป็นเพื่อนกันล้านเปอร์เซ็นต์ ไม่มีหึงหวงเลย แฮปปี้กับตอนนี้ที่สุดค่ะ”

อนาคตถ้าต้องแยกบ้านไป ใครจะดูแลลูก?
“แตงเป็นคนดูแลลูกค่ะ พี่เอดูแลไม่ได้ เพราะด้วยออกไปทำงานตลอด ตอนแบเบาะ หัดคลาน พี่เอยังไม่รู้นิสัยลูกดีเท่าแตง”

ดูข่าวต้นฉบับ

ที่มา : https://www.thairath.co.th/entertain/news/1964275
ขอขอบคุณ : https://www.thairath.co.th/entertain/news/1964275