นิโคล เปิดใจเล่าทั้งน้ำตา ความรักที่เจ็บที่สุด ทำให้อกหักจนปางตาย


ให้คะแนน


แชร์

ในวันที่ตัดสินใจว่าจะเดินออกมา ตัดสินใจที่จะเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวคนเดียว คิดหนักไหม
คิดหนักค่ะ แต่เราก็พยายามเท่าที่ทำได้แล้ว มันเป็นการตัดสินใจที่ถูกค่ะ เพราะว่าตอนนั้นเรามีสติ นึกถึงลูกเป็นหลัก ความรู้สึกของลูกสำคัญที่สุด ความรู้สึกทั้งกี้ และพ่อของเขา ออกไปก่อนเลย

ยิ่งตอนนี้ ยิ่งรู้ว่าเราตัดสินใจถูกต้อง เพราะเราไม่ได้เป็นคู่ชีวิตของพี่แมว จริงๆ แหนวกับพี่แมว คือเนื้อคู่กัน ซึ่งเรากับพี่แมว ตอนนี้เป็นเสมือนครอบครัวเดียวกัน ยังเป็นครอบครัวที่ดีต่อกัน

ซึ่งบางคนอาจจะรู้สึกแปลกที่ทำไมกลับมาสมัครสมานสามัคคีกันได้ เราใช้เวลานานไหมกว่าจะมาเป็นเพื่อนกัน
กี้รู้สึกว่ามันเป็นเรื่องปกตินะคะ เพราะเราไม่ได้ใช้เวลาที่จะเป็นเพื่อนกันเลย เพราะเราเป็นเพื่อนกันมาตลอด แม้แต่ต้องมาเซ็นใบถ้าเลือกได้ก็ไม่อยากให้ไปถึงจุดนั้นอยู่แล้ว

แต่ว่าทุกชีวิตมันไม่เหมือนกัน อันนี้เป็นทางออกแล้วตอนนั้นดีที่สุด แล้วก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ พี่แมว ไปเจอเนื้อคู่ของเขาจริงๆ กี้ไม่ใช่เนื้อคู่ของพี่แมว แต่ฟ้าลิขิตมาให้เราใช้ชีวิตร่วมกันระยะหนึ่ง แล้วก็ได้มีลูกคือทิกเกอร์ นี่คือฟ้าลิขิตมา และขอบคุณมากๆ

จำได้เลยวันที่ แจ๊สเปอร์ เกิด กี้ กับ ทิกเกอร์ คือ ตื่นเต้นมากแล้ว ทิกเกอร์ ได้อุ้มน้อง เราไม่เคยมีอะไรที่แบบบางคนจะคิดว่ามันมีอะไรหรือเปล่าไม่มีเลย แหนว เป็นผู้หญิงที่น่ารักมาก และดูแลพี่แมวดีมาก และรัก ทิกเกอร์ เพราะฉะนั้นเป็นอะไรที่เราโชคดีที่มีครอบครัวที่ใหญ่ขึ้นและรักกัน

การเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวมีความกลัวอะไรบ้าง
กลัวที่จะเลี้ยงลูกยังไง เพราะว่ามัน…น่ากลัวค่ะ เพราะเราเป็นศิลปิน ไม่รับงาน หายไปเลย 5 ปี คนลืมกี้ไปแล้วและเราต้องมาเริ่มใหม่ กลับกลายเป็นว่าลูกเป็นแรงบันดาลใจ เป็นพลังที่ขับเคลื่อนเรา

ถ้าไม่มีลูกคงจะแย่ เพราะว่าเราไม่ได้รักตัวเองเท่ากับรักลูก การที่เราไม่ได้รักตัวเอง เราอาจจะปล่อยตัวเองให้เละเทะช่างมันเถอะ

ซึ่งต้องย้อนกลับไปถามการเข้ามาเป็นศิลปินดังของ นิโคล ความรักที่เข้ามาตอนนั้นเป็นยังไงบ้าง
ก็ดี เป็นช่วงชีวิตที่ลักกี้อินเกม ลักกี้อินเลิฟเลยค่ะ ที่ถูกใจคนคนนี้เพราะเขาน่ารัก เขาพูดคุยสนุกสนาน พูดภาษาอังกฤษและก็เฮฮา เวลาเราเครียดเรื่องงาน เวลาเจอเขาเราหายเครียด เพราะเขาเป็นคนอารมณ์ดี เขาไม่มีมุมเศร้าเลย ใครอยู่ด้วยก็จะเคลิบเคลิ้ม

มีคนเตือนไหมว่าเขาเจ้าชู้
ตอนก่อนเป็นแฟนไม่ได้เตือนค่ะ แต่พอเป็นแฟนแล้วเตือนเพียบเลย แต่เราก็ไม่เชื่อในสิ่งที่เขาเตือนกัน เพราะเราเชื่อเราจะทุกข์ เพราะกี้ไม่ได้เป็นคนเช็กโทรศัพท์

กี้จะถามเขาคำเดียวว่าเรื่องนี้จริงหรือเปล่า เพราะถ้าเขาพูดว่าจริงหรือไม่จริง เราจะไม่สืบไม่เชื่อคนอื่นเลย จนกระทั่งเราเห็นด้วยตาตัวเอง คือตอนนั้นเขาไม่ค่อยมาหาเราเพราะงานเขาเยอะ งานเราก็เยอะ โอเคเชื่อๆ

แล้วมีอยู่วันนึงเพื่อนรักพาไปกินซูชิที่ทองหล่อ ร้านก็จะเป็นกระจกใหญ่ๆ แล้วนั่งหันหน้าออกเราจะเห็นนอกร้าน ตอนนั้นเรากำลังจะทานแล้วเห็นเขาเดินผ่านมาแล้วเขาจับมือกับผู้หญิงคนหนึ่งผ่านหน้ามาเลย แต่เขาไม่เห็นเราเพราะเรานั่งอยู่ในร้าน

จำได้ติดตาเลย เขาใส่เสื้อสีแดง แต่เราก็ไม่ได้ลุยตามไปเคลียร์นะคะ คือ ตอนนั้นช็อก ตัวชา หน้าชา แล้วกี้ก็โทรหาเขาเขาก็ไม่ยอมรับ บอกไม่ใช่ ไม่จริง แต่เราก็ไม่เลิก แต่เราก็บอกเขาว่าเลิกเถอะ ปล่อยเราไปเถอะ เราจะได้เดินต่อได้

แต่ก็มีความรักครั้งหนึ่งที่ทำให้อกหักจนถึงขั้นปางตาย ตอนนั้นเกิดอะไรขึ้น
ตอนนั้นคือ จะไปนั่งก็นั่งไม่ได้ จะนอนก็นอนไม่ได้ จะยืนก็ไม่รู้ว่าจะหันไปทางไหน แบบนี้จริงๆ นะคะ แบบบ้านหมุน มันเคว้งคว้างมาก

แล้วมีอยู่วันหนึ่งตอนนั้นช่วงคอนเสิร์ต Seven ด้วยนะคะ เผอิญ พี่ใหม่ เจริญปุระ ก็พักอยู่ชั้นบนที่คอนโดเดียวกันกับเรา กี้ก็แบบว่าใครตอนนั้นเราร้องไห้อยู่นะ (พอได้ยินเสียงเคาะประตู ทุกครั้งคิดคือเขา) เพราะเรามีความหวัง ถ้าเป็นเขาจะดีใจที่สุด

ถึงแม้จะรู้ว่าเขาไม่ได้ซื่อสัตย์ แต่เพราะความรักเลยทำให้เรามีความหวัง ในการเคาะประตูทุกครั้งคิดว่าเขาจะกลับมา
พี่ฉอดพูดคำนี้ กี้จะร้องไห้… ใช่ค่ะ คิดว่าอาจจะเป็นเขา แต่มันกลายเป็นพี่ใหม่เจริญ ปุระ พอเราเห็นพี่ใหม่ เราเห็นพี่ใหม่เราก็มีพลังขึ้น เพราะพี่ใหม่เขาเป็นคนมีพลังเยอะ เพราะตอนนั้นคือกี้ทานข้าวไม่ได้เลย แล้วผอมเป็นก้าง ผอมมาก แล้วพี่ใหม่เขาก็ทำซุปทำอะไรมาให้เรา จัดใส่ถาดมาวางด้วยดอกไม้สวยๆ เลยแล้วถือมา นิโคลๆ พี่ใหม่ทำซุปมาให้ทาน ทานเยอะๆ นะ (พี่ใหม่เขาก็เป็นห่วงเราที่เห็นเราทานอะไรไม่ได้เลยมาดูแลเรา) ซึ่งดีมากทำให้เราหายเศร้า แต่พี่ใหม่อยู่ๆ ร้องไห้เองแบบจริงจังเลย แล้วบอกเราว่า “เธอฉันอยากได้ห้องแบบนี้” ประมาณว่าพี่ใหม่เขาทำบ้านนานมากเลย แล้วพี่ไม่ได้แบบนี้ เรากลายเป็นปลอม พี่ใหม่จริงๆ แล้วมันดี เพราะทำให้เราลืมความทุกข์ของเรา เพราะได้พี่ใหม่มาดูแล

เมื่อเราเห็นทุกอย่างชัดเจนแล้วทำไมต้องรอ
เพราะคิดว่าอย่างน้อยสิ่งที่เขาควรจะทำก็ต้องกล้าหน่อย เราไม่ได้จะรั้งไว้ แต่ขอให้เกียรติเรานิดในการบอก เลิก (กี้ คิดว่าการบอกเลิกเป็นการให้เกียรติ) เพราะดีกว่าปล่อยให้เราอยู่ไปอย่างนั้น กี้สอนลูกเลยนะคะ ว่าเวลาเราจะคบกับใครเราคบได้ เราขอเป็นแฟนได้

แต่ถ้าสมมติว่ามีอะไรเกิดขึ้นมาแล้วเราไปต่อกับเขาไม่ได้ มันคือชีวิตมัน มันไม่ได้มีอะไรมาการันตีว่าเราจะอยู่ด้วยได้ไปตลอดชีวิต แต่ว่าวิธีการเลิกคือสิ่งสำคัญ ถ้าเลิกกันดีๆ พูดกันดีๆ ถ้าเริ่มได้ก็จบได้ แต่ถ้าจบมันต้องรู้มันต้องบอกกัน

ในความรักครั้งนั้น คือ แอบหวังไหม
แอบหวังค่ะ คือมีช่วงหนึ่งที่ต้องบอกตรงๆ ว่า ตอนนั้น กี้ อยู่ไม่ได้แล้ว อยู่ไม่เป็น กี้ ซึมเศร้าแล้ว (ถ้าวันนั้นเขาเดินกลับมาเราก็โอเคที่จะไปต่อนะคะ) แต่ถ้าเป็นวันนี้ ไม่แล้วค่ะ วันนี้แข็งแรง วันนี้รู้แล้วว่าอะไรที่จะทำให้เราเจ็บในวันข้างหน้าว่าเราควรเจ็บแล้วจำ

แต่ว่าตอนนั้นเรายังไม่พร้อมจริงๆ แล้วเรายังโตไม่พอ แล้วเรายังอยู่ในช่วงชีวิตที่ผิดเพี้ยนไปจากความจริง มีชื่อเสียง ก็ผิดเพี้ยนไปจากความจริง พออะไรมันดีก็ดี๊ดี อะไรที่แย่ก็แย่เลย ความรักก็เยอะมันเป็นอะไรที่เรายังไม่โตพอ

แล้วเรื่องมันเยอะไปที่เราจะรับมันได้ ตอนนั้นเราสูญเสียหลายอย่าง ออกอัลบั้มชุดที่ 3 ก็คือแป้ก แล้วโปรโมตเตอร์เสียชีวิต แฟนทิ้งอีก แล้วโดนผู้จัดการโกงเงินไปอีกไม่รู้กี่ล้าน ซึ่งทุกคนเป็นคนที่เรารักที่เราไว้ใจมาก กี้ จัดแจงตัวเองไม่เป็นเลยตอนนั้น

แล้วสุดท้ายเรากลับมาเป็นคนเดิมได้ยังไง
กี้เหนื่อยแล้ว กี้หิว คือมันไม่ได้ทานข้าว มันเหนื่อยเอง เหนื่อยกับการเจ็บ เบื่อตัวเองรำคาญตัวเองด้วยค่ะ แล้วมีอยู่วันหนึ่งเราลุกขึ้นเอง เจ็บที่สุดหยุดได้เองค่ะ เขาก็ไม่ได้มารับรู้สิ่งที่เราเป็น ชีวิตเราต้องดำเนินต่อ

แล้วเรายังมีพ่อแม่ที่เราต้องดู แล้วเรามาเป็นแบบนี้เพื่ออะไร นี่เราเสียเวลามามากแล้ว เป็นเดือนๆ เลยงานก็ไม่ดี หน้าก็แย่ โทรม เหมือนเราตัดเลยตอนนั้น แล้วเจอเขาทุกวันนี้ ไม่มีความโกรธเลย เรานึกย้อนกลับไปวันนั้น ทำไมเราต้องเป็นอะไรขนาดนั้นด้วย

กับความรักที่เพิ่งผ่านพ้นไปหมาดๆ
ไม่อยากจะพูดอะไรเยอะ กี้คิดว่าก็น่าจะเป็นพรหมลิขิตอีกอะ ที่มันต้องโคจรมาเจอกัน ในส่วนเวลาที่ไม่ได้ยาวมาก พอหมดตรงนี้ก็คือหมด

เห็นว่าเมื่อมีช่วงเวลาแห่งความรักบ้างมีช่วงเศร้าๆ แต่ก็ได้ลูกชายเข้ามาเป็นกำลังใจ ปลอบใจอยู่เสมอ
ทิกเกอร์ : ก็ไม่ได้เข้าไปเลย แต่เราจะใช้ระยะห่างนิดหน่อย จะได้มีเวลานิดนึง แล้วอีกสักพักเราค่อยเข้าไปคุยกันเรื่องปัญหา

นิโคล : ส่วนมาก ทิกเกอร์ เขาจะเป็นคนที่เริ่มคุยก่อน เขาจะเข้ามาในห้อง เพราะเราจะแอบอยู่คนเดียวในห้อง ซึ่งเราก็เล่าความจริงให้เขาฟังทั้งหมด เพราะเขาอยากรู้เราก็ต้องบอก แต่พยายามไม่ร้องไห้ให้เขาเห็น แต่ก็ร้องอยู่ดี เพราะเรามีอยู่แค่นี้ แค่ลูกถามว่า ยูโอเค แค่นี้ก็น้ำตาไหลแล้ว

แล้ว ทิกเกอร์ เข้าใจความสัมพันธ์ของคุณพ่อคุณแม่ยังไงบ้าง
ทิกเกอร์ : ผมคิดว่าการที่เป็นพ่อแม่ ต้องมาก่อนปัญหา ก็ดีครับ ได้มีครอบครัวใหญ่ๆ

นิโคล : เราจะเจอกันเป็นประจำอยู่แล้ว แต่หลักๆ เลยคือ ปีใหม่ คริสมาสต์ หรือถ้าพี่แมวเหงาก็พา แจ๊สเปอร์ มา ซึ่ง ทิกเกอร์ กับ แจ๊สเปอร์ คือเป็นคนละแบบ เพราะ แจ๊สเปอร์ จะพูดเก่งมากจน ทิกเกอร์ เขาน่าจะเป็น ceo ได้เลย ซึ่งเขาเป็นคนตั้งชื่อให้กับน้อง

ทิกเกอร์ : เพราะผมเห็นว่าพ่อชอบ แจ๊ส ครับ เพราะตอนแรกคุณพ่อจะตั้งชื่อน้องว่า แคสเปอร์ ก่อน แต่เราคิดถึงคำว่า แจ๊ส เลยบอกว่า ใส่คำนี้เข้าไปผสมด้วยดีกว่า เลยได้ชื่อออกมาคือ แจ๊สเปอร์ ครับ.

ดูข่าวต้นฉบับ

ที่มา : https://www.thairath.co.th/entertain/news/1977816
ขอขอบคุณ : https://www.thairath.co.th/entertain/news/1977816