มิลล่า โยโววิช พร้อมสามีผู้กำกับฯ เปิดใจถ่ายทำ Monster Hunter สุดหิน ดีใจร่วมงาน จา พนม

จากแฟรนไชส์เกมที่โด่งดังไปทั่วโลก กลายมาเป็นภาพยนตร์แอ๊กชั่นผจญภัยสุดมันส์ Monster Hunter – มอนสเตอร์ ฮันเตอร์
งานหนังเรื่องใหม่ของสาว มิลล่า โยโววิช กับบทบาท ร้อยโทอาร์เทมิส ที่เป็นการร่วมงานกันอีกครั้งกับสามีของเธอ ผู้กำกับฯคนดัง พอล ดับบลิว.เอส. แอนเดอร์สัน ซึ่งร่วมสร้างสรรค์ผลงานแฟรนไชส์หนังพันล้านเหรียญอย่าง Resident Evil มาแล้ว

จา มิลล่า และพอล ผู้กำกับฯ

ทั้งยังมีหนุ่มนักบู๊ชาวไทย ‘จา’ พนม ยีรัมย์ หรือที่รู้จักกันในระดับอินเตอร์กับชื่อ ‘โทนี่ จา’ รับบทนำเป็น ฮันเตอร์ ร่วมสู้สัตว์ประหลาดเคียงบ่าเคียงไหล่สาวมิลล่า ในเรื่องด้วย
เมื่อเบื้องหลังโลกของเรา ยังมีอีกโลกหนึ่ง โลกของสัตว์ประหลาดที่อันตรายและทรงพลัง!!
วันนี้ทั้งมิลล่า และพอล ควงคู่กันมาเปิดใจถึงการสร้างภาพยนตร์เรื่องนี้ ซึ่งบอกเลยว่าเป็นโปรเจ็กต์ที่ยาวนานกว่า 10 ปี และทั้งคู่ก็แฮปปี้มากๆ ที่ได้ร่วมงานกับโทนี่ จา นักบู๊บ้านเรา
พวกคุณทำงานร่วมกันอีกครั้ง มีปัญหาอะไรบ้างไหม มิลล่าบอกว่า “เราได้จับมือกันทำหนังที่สนุกสนานค่ะ และพอลก็ให้โอกาสฉันเสมอในการเข้าไปอยู่ในโลกอันแสนมหัศจรรย์กับเขา ซึ่งเป็นสิ่งที่ฉันชอบตั้งแต่ตอนที่ยังเป็นเด็กหญิงตัวเล็กๆ ฉันรู้สึกขอบคุณเขามากๆ ที่สร้างคาแร็กเตอร์ตัวแสดงที่สุดยอดให้กับฉัน ทำให้ฉันรู้สึกแข็งแกร่งและไปอยู่ในอีกจักรวาลหนึ่งได้”

ด้านพอลบอกว่า “มิลล่าทำให้การถ่ายทำง่ายขึ้น เพราะการถ่ายทำเรื่องนี้ไม่ง่าย เราต้องไปอยู่ในสถานที่ที่ห่างไกลจากแหล่งชุมชนเป็น 100 ไมล์ นักแสดงทีมงานต้องอาศัยอยู่ในเต้นท์กลางทะเลทราย แล้วในช่วงกลางวันอากาศร้อนมาก พอตอนกลางคืนกลับเย็นจัด แล้วมีพายุที่พยายามจะหอบเต้นท์ที่พวกเราอยู่ไป แล้วยังจะมีพวกงู แมงมุม แต่เมื่อคุณมีมิลล่า เธอจะเป็นคนที่ทำให้ทุกคนตื่นตัว ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่ดี เธอช่วยให้การถ่ายทำเป็นไปอย่างดีในสภาพแวดล้อมที่มันอาจจะยากลำบาก”
คุณใช้เวลาตั้งเต้นท์ถ่ายทำในทะเลทราย กับอากาศและสภาพแวดล้อมที่โหดขนาดนั้นนานแค่ไหน พอลบอกว่า “เรามีการย้ายโลเกชั่นไปด้วย ที่ที่อยู่นานสุดน่าจะประมาณ 2 สัปดาห์ เราเก็บของใส่รถแล้วก็ย้ายไปยังอีกที่ที่อยู่ไกลออกไป บอกเลยว่ามันท้าทายเรามากกับการถ่ายทำในสถานที่เหล่านั้น แต่มันก็สวยงามมาก ในมุมมองของคนทำหนัง คุณต้องแน่ใจร้อยเปอร์เซ็นต์ว่าการถ่ายทำแต่ละที่ต้องเสร็จสิ้น เพราะมันยากมากกับการที่จะกลับไปถ่ายซ่อมอีกครั้ง”

“โลเกชั่นที่เราไปถ่ายทำมีทั้งในแอฟริกาใต้ และในนามิเบีย อย่างที่นามิเบียก็จะมีที่เรียกว่า เซสเรียม แคนยอน ที่สุดยอดมากๆ และไม่เคยถูกนำมาใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์มาก่อน และที่นั่นมันก็เหมือนกับโลกอีกโลกหนึ่งจริงๆ แล้วก็ยังมีที่อื่นอีก อย่าง วัลเล่ย์ ออฟ เดอะ เรด ก็อดส์ ที่นี่ก็สุดยอดมากๆ ไม่แพ้กัน แล้วก็ยังมี แทงควา คารู เนชั่นแนล พาร์ค อุทยานแห่งชาติในแอฟริกาใต้ เป็นสถานที่ที่ตื่นตาตื่นใจไม่แพ้กัน”
คุณใช้เวลาสร้างภาพยนตร์ Monster Hunter นานแค่ไหน พอลบอก “ผมเริ่มเล่นวิดีโอเกมนี้เมื่อ 12 ปีที่แล้ว ก็เรียกว่าเริ่มสนใจทำหนังมาเป็น 10 ปีแล้ว แต่เริ่มถ่ายทำเมื่อ 2 ปีก่อน และก็ใช้เวลาอีกเป็นปีกับการทำงานในช่วงหลังการถ่ายทำ เรียกว่าเป็นการทำงานที่ค่อนข้างนานเลยทีเดียว ที่นานขนาดนี้เป็นเพราะมีเรื่องของการเดินทางเข้ามาเกี่ยวข้องเยอะ รวมทั้งการสร้างสัตว์ประหลาด”
“บ่อยครั้งที่งานในช่วงโพสต์โปรดักชั่นมันจะอัดแน่นและรวดเร็ว จนทำให้ทีมต้องทำงานหนัก ซึ่งบางครั้งเรื่องของวิช่วลเอฟเฟ็กต์มันก็พังเพราะสิ่งเหล่านี้ สำหรับเราต้องการสร้างสัตว์ประหลาดให้สมจริง ซึ่งการทำแบบนั้น รู้สึกว่าต้องการเวลา เราไม่อยากทำให้เสียเพราะว่าความรีบร้อน”

ส่วนที่ยากที่สุดของภาพยนตร์เรื่องนี้คืออะไร มิลล่าเผยว่า “ฉันว่าน่าจะเป็นการถ่ายทำในโลเกชั่นที่มันยากลำบากนี่แหละ คือมันสวยงามมากๆ ในขณะเดียวกันมันก็ท้าทายมากๆ อย่างที่บอกว่าเราต้องเจอกับพายุทราย ไหนจะเรื่องของการนำอุปกรณ์ถ่ายทำต่างๆ ไปยังที่นั่น เราอยู่ห่างจากที่ชุมชนเป็น 100 ไมล์ มันท้าทายมากในการทำให้ทีมงาน 300 คน มาอยู่มาทำงานในโลเกชั่นแบบนั้น เราต้องเซ็ตทุกอย่างขึ้นมา ทั้งเต้นท์ ทั้งน้ำที่ต้องนำมาใช้ ไม่มีอินเตอร์เน็ต (หัวเราะ) ไม่มีไฟฟ้า”
พอลเสริมขึ้นว่า “แล้วก็เต็มไปด้วยงู แมงป่อง แมงมุม มีแมงมุมตัวใหญ่เท่ามือ แล้วก็มีขนเต็มตัวไปหมด มันวิ่งเข้าหาคนแบบรวดเร็วมาก คือน่ากลัวมาก แต่พวกมันไม่ได้ต้องการจะกัดคุณหรอก เพียงแต่ว่าในทะเลทรายอากาศร้อนมาก พวกมันเลยพยายามวิ่งเข้าหาที่ร่ม และมันอยากปีนขึ้นกางเกงคุณสุดๆ ดังนั้นทุกคนต้องระวังไม่ลืมที่จะยัดขากางเกงเข้าไปในรองเท้าบูทของตัวเอง คือคุณคงเข้าใจว่ามันเป็นเรื่องแปลกสำหรับคนที่เคยใช้ชีวิตอยู่แต่ในเมืองใหญ่”
สำหรับมิลล่า อะไรคือความแตกต่างระหว่าง อลิส ใน Resident Evil กับ อาร์เทมิส ใน Monster Hunter สาวสวยบอกว่า “ฉันรู้สึกว่าอาร์เทมิสเหมือนเป็นคนจริงๆ มากกว่า ตอนที่ฉันเตรียมตัวสำหรับรับบทนี้ ฉันได้กลายเป็นเพื่อนกับเรนเจอร์หญิงตัวจริง และหลังจากฟังเรื่องราวของเธอ และถามถึงประสบการณ์ของเธอ ความยากลำบากกว่าเธอจะมาถึงตรงจุดนี้ ฉันไม่อยากเชื่อว่ายังมีฮีโร่ตัวจริงแบบนี้อยู่”

“ในขณะเดียวกันเธอก็เป็นผู้หญิงธรรมดาด้วย เราได้เป็นเพื่อนที่ดีต่อกันจริงๆ ดังนั้นฉันเลยต้องการจะนำเอาส่วนนั้นมาอยู่ในคาแร็กเตอร์ คือเธอไม่ธรรมดา แต่เธอก็มีความธรรมดา เธอแข็งแกร่ง แต่คุณก็ยังไปดินเนอร์กับเธอได้ ส่วนอลิสคุณจินตนาการไม่ออกกับการเป็นเพื่อนเธอ หรือเชิญเธอมาที่บ้านเพื่อรับประทานมื้อค่ำ (พอลหัวเราะ) แต่กับอาร์เทมิสคุณสามารถทำได้”
ในเรื่องทั้งโลเกชั่น เสื้อผ้า ทุกอย่างที่คุณพยายามสร้างขึ้นมามันสุดยอดมากๆ คุณได้พูดคุยกับคนสร้างเกมมากน้อยแค่ไหนในส่วนนี้ พอลเฉลย “ผมพยายามสร้างหนังจากต้นแบบ เพราะต้องการให้พวกเขาตื่นเต้นแล้วก็แฮปปี้กับสิ่งที่เป็น เพราะผมรู้สึกว่าถ้าทำให้พวกเขาตื่นเต้นได้ แฟนๆ ที่ได้ดูก็ต้องตื่นเต้นเช่นกัน ดังนั้นทั้งการออกแบบเสื้อผ้า ออกแบบอาวุธ ออกแบบสัตว์ประหลาด ก็ทำทุกอย่างให้เหมือนกับในเกม ทั้งเสื้อผ้าของ โทนี่ จา, รอน เพิร์ลแมน และชุดเกราะของมิลล่าล้วนมาจากในเกมทั้งนั้น”
“เราพยายามสร้างอาวุธให้เหมือนกันกับในเกม นั่นคือทำไมเราถึงสร้างอาวุธขนาดยักษ์ ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นจุดเด่นของเกมเลย แล้วเราก็ดีใจที่ได้คนแบบ โทนี่ จา คนที่ใกล้กับคำว่ายอดมนุษย์เท่าที่ผมเคยพบมา เพราะคุณจำเป็นต้องควงอาวุธใหญ่ยักษ์ขนาดนั้น ดาบยักษ์นั่นสูงกว่าตัวของโทนี่ และก็หนักมากด้วย คุณต้องมีสกิลล์ที่จะไม่ใช่แค่จับมันขึ้นมา แต่ต้องสามารถต่อสู้แบบซับซ้อนในท่าทางที่สวยงามได้อย่างดีด้วย”

อยากรู้ว่าจากอาวุธที่มีหลายชนิด ทำไมคุณถึงเลือกใช้ดาบคู่ สาวมิลล่าบอกว่า “ฉันมีโอกาสได้ใช้เวลาหลายชั่วโมงเล่นเกม Monster Hunter World ตอนที่ฉันเตรียมตัวเพื่อรับบท เพราะต้องการทำตัวให้คุ้นเคย และทดลองอาวุธสุดเจ๋งเหล่านี้ อันไหนที่ฉันชอบใช้มากที่สุดตอนที่ฉันเล่นเกม ซึ่งสรุปว่ามี 2 ชนิด คือ ดาบคู่ กับพลองแมลง แต่แน่นอนว่าคาแร็กเตอร์ของฉันเป็นทหาร เจ้าอาวุธพลองแมลงต้องใช้ทักษะยิมนาสติกเยอะ ซึ่งฉันรู้สึกว่าไม่เหมาะกับคาแร็กเตอร์ ดังนั้นจึงเลือกใช้ดาบคู่”
พอลบอกเสริมว่า “และสุดท้ายเราก็ให้โทนี่ใช้พลองแมลง เพราะเขามีพื้นฐานการแสดงฉากแอ๊กชั่นที่ยอดเยี่ยมมาก เรียกได้ว่าเกิดมาเพื่อสิ่งนี้เลย”

สัตว์ประหลาดตัวไหนในเรื่องที่ทำให้คุณกลัวที่สุดมิลล่า

“(หัวเราะทั้งคู่) ฉันว่ามันยากที่จะบอกนะ แต่ราธาลอสทำให้ฉันกลัวที่สุด เพราะมันตัวใหญ่และน่าเกรงขามมาก ตอนเล่นเกมเจ้านี่เป็นตัวที่ฉันหลีกเลี่ยงมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่แบล็ค เดียโบลส ก็แข็งแกร่งเหมือนกัน แต่มีบางอย่างเกี่ยวกับเจ้าตัวนี้ที่ฉันชอบ คือมีความเป็นแม่ ส่วนราธาลอสเหมือนกับแบดบอย สำหรับฉันนะ”
การทำงานกับ โทนี่ จา เป็นอย่างไรบ้าง มิลล่าบอกว่า “ฉันรู้สึกดีใจที่ได้ทำงานกับโทนี่ เขาทำได้ดีที่สุดในตัวละครที่เขาเป็น ฉันมีประสบการณ์ในหนังแอ๊กชั่นมานานกว่า 20 ปี แต่การเห็นโทนี่เล่นบู๊แบบไม่ใช้สะลิง มันดูธรรมชาติเหมือนนี่เป็นสิ่งที่เขาทำอยู่ในชีวิตจริง ฉันรู้สึกดีใจประทับใจและโชคดีมากที่ได้บู๊ร่วมกับเขาในหนังเรื่องนี้ และได้เรียนรู้จากเขาด้วย นอกจากนี้โทนี่ยังสร้างความสนุกสนานให้กับกองถ่าย เขาร้องแร็พ ตีลังกาม้วนหลัง ในการถ่ายทำที่ยากลำบาก มันสำคัญมากที่จะมีใครคอยสร้างความสนุกสนาน สร้างรอยยิ้มให้ทุกคน”

สำหรับคนดูที่เป็นแฟนของวิดีโอเกม กับคนดูที่ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเกมนี้เลย ประสบการณ์หลังก้าวออกจากโรงภาพยนตร์จะต่างกันมากมั้ย พอลบอกว่า “ไม่เลย ผมพยายามทำหนังเพื่อคนทั้งสองกลุ่ม สำหรับคนที่เป็นแฟนวิดีโอเกม และคนที่ไม่เคยเล่นเกมเลย ผมคิดอย่างแรกเลยก็คือเรื่องนี้จะเป็นหนังแอ๊กชั่นผจญภัยที่คุณไม่จำเป็นต้องรู้เรื่องเกี่ยวกับเกมเลยก็สามารถดูได้ แต่ถ้าคุณรู้จักเกม คุณได้เห็นสัตว์ประหลาด เสื้อผ้า อาวุธ ทุกอย่างมาจากเกมแบบ 100%”
Monster Hunter จะเป็นหนังแฟรนไชส์เรื่องใหม่ของคุณไหม “สำหรับผมกับมิลล่า ปกติเราจะทำหนังทีละเรื่อง แล้วเราก็โฟกัสกับหนังเรื่องที่ทำอยู่ตอนนี้ และทั้งคนที่ดูหนังในโรง หรือดูหนังที่บ้าน พวกเขาจะเป็นคนบอกกับเราเองว่าเขาอยากดูมันอีกหรือเปล่า”

ฝากถึงแฟนชาวไทยที่รอดูผลงานของคุณหน่อย มิลล่ากล่าวว่า “พวกเราตื่นเต้นกันมากสำหรับแฟนๆ ชาวไทยที่จะได้ชมหนังเรื่องนี้ สำหรับพวกเราการทำงานกับโทนี่ จา เป็นสิ่งที่พิเศษสุดๆ และเป็นเกียรติมาก รอแทบไม่ไหวที่จะให้ทุกคนได้ร่วมเดินทางผจญภัยไปกับพวกเราในภาพยนตร์เรื่องนี้”
Monster Hunter – มอนสเตอร์ ฮันเตอร์ เข้าฉายให้ชมในโรงภาพยนตร์ 30 ธันวาคม นี้

ดูข่าวต้นฉบับ

ที่มา : https://www.khaosod.co.th/entertainment/news_5632120
ขอขอบคุณ : https://www.khaosod.co.th/entertainment/news_5632120