รู้สึกยังไงที่พอเปิดตัวเทปแรก คนก็ยังยึดติดกับนักแสดงเซตเดิม?
“อ๋อ เป็นธรรมดานะ แก๊งเดิมเขาทำไว้ดีมากเลยอะ ซึ่งตัวเราก็ติดตามรายการบริษัทฮาไม่จำกัดมาตลอด ผมก็ชอบแก๊งเดิม เขาทำไว้ได้ดีมาก แต่พอมาแก๊งใหม่ เขาก็สนุกเหมือนกันนะ พอได้เล่นกับเขาก็สนุกอะ มันก็อาจจะต้องใช้เวลาในการเปิดใจนิดนึงเนอะ เห็นบอกว่าแก๊งเดิมเนี่ยกว่าจะเข้าที่ก็ใช้เวลาสักประมาณ 2 ปีได้ ยังไงก็อยากให้เป็นกำลังใจให้กับฮาไม่จำกัดทั่วไทยหลายๆ เทป เดี๋ยวก็จะมีอีก ไม่ใช่ผมคนเดียวนะ สับเปลี่ยนหมุนเวียนแขกรับเชิญไป ก็อยากให้เป็นกำลังใจมากกว่า”

ได้ยินว่าเราอยากไปรายการนี้มานานมาก?
“จริงๆ ผมชอบดู พออยู่บ้านเนี่ย เหตุที่หน้าใสก็เพราะดูฮาไม่จำกัดนี่แหละ (หัวเราะ)”

พอเล่นแล้วติดใจมั้ย?
“ลองประเดิมก็ติดใจ พี่ๆ ที่รายการฮาไม่จำกัดทั่วไทยก็ถามว่ามาอีกมั้ย ผมก็บอกว่ายินดี แล้วเขามาถามอีกว่าเป็นตัวประจำเลยมั้ย ผมบอกว่าความสามารถผมยังไม่ถึง ขอค่อยๆ ฝึกฝีมือไปก่อน อาจจะมาอีกทีได้ แต่ถ้าจะให้เป็นตัวประจำ โห…ผมเล่นมุกไม่ทันพี่เขา พี่เขาเก่งมาก เล่นกันตู้มต้าม เราเล่นไม่ทัน ต้องฝึกฝีมือก่อน

ถามว่าพอเล่นจริงๆ เป็นอย่างที่เราคิดมั้ย เป็นครับ สนุกมาก เขาก็มีมากระซิบมุกด้วยนะ เดี๋ยวแกเล่นอันนี้ๆ แอบกระซิบกันสองคนไม่ให้ใครรู้ เราเล่นกันก็สนุกดี บางมุกที่มันเหมือนกับว่าเราเสริมขึ้นมา เขาบอกว่าเฮ้ย คิดได้ยังไง เห็นมีการมาจับไม้จับมือว่าคิดมุกได้ มันสนุกดี มันเหมือนกับว่าเราเล่นกันในวงกินข้าวปาร์ตี้สนุกๆ ก็จะมีเหมือนกับว่าจะมีทางของซีนนี้มาให้เล็กๆ น้อยๆ แล้วก็ลุยกันเลย”

เสียเซลฟ์มั้ยพอเจอกระแสแบบนี้?
“ไม่เสียเซลฟ์ ผมคิดว่าอาจจะเป็นไปได้อยู่แล้ว ผมก็รู้สึกว่าผมชอบทีมเก่าของบริษัทฮาฯ แต่ว่าในฐานะที่เราไปเอง เราก็ต้องเปิดใจด้วย และในฐานะที่มาดูก็อาจจะขอให้เปิดใจให้หน่อย มันไม่ใช่แค่รายการนี้รายการเดียว เวลาเปลี่ยนเซตเปลี่ยนทีม บางครั้งก็กระทบความรู้สึกคนดูบ้างว่าโอ้โห ทำไมทำกับเราแบบนี้ ก็เลยอยากให้เวลากับฮาไม่จำกัดทั่วไทยสักระยะนึงหน่อยแล้วกัน ให้เขาได้รวมทีมกัน ได้ทำอะไรให้เรียบร้อย ผมว่ายังไงพี่ๆ เขาก็เป็นตลกระดับโลกอยู่แล้วอะ ยังไงก็เจ๋ง เราก็รู้สึกได้ว่าก็ต้องมีการกระทบความรู้สึกบ้าง แต่ขอให้เปิดใจแค่นั้นเอง”

ดูหน้าใสขึ้น มีคนทักเยอะมั้ย?
“ก็คนทักเยอะนะ แต่เราไม่อยากจะพูดอะไร (ยิ้ม) เขาก็ถามว่าไปทำอะไรมา ดูดีหล่อขึ้น สีผมทำให้ดูเด็กลง ถามว่ามีไปจิ้มมั้ย ไม่มีเลย เลเซอร์ก็ไม่มี ผมอยู่บ้านเฉยๆ เลย ตอนนั้นที่ไปพบหมอทำตอนเล่นละคร แล้วก็เหมือนเดิม แต่พอนอนที่บ้านเฉยๆ หน้าใสเลย (หัวเราะ)”

มีความรักหรือเปล่า?
“ไม่มีความรักอะไรทั้งนั้นครับ มีแต่ความเมตตาให้กับทุกคน”

แต่โสดนานแล้วนะ?
“โสดก็สนุกดี ทำไมอะ คุณยังโสดเลย (ยิ้มแล้วชี้ไปที่นักข่าว)”

ถามถึงเรื่องโม มนชนก ตอนนี้โสดแล้ว คนก็จับตาเรากับโม อยากเชียร์ให้กลับมา?
“คือคนจับตาหรือแกจับตา (หันไปแซวนักข่าวที่ถาม) เจอแกทีไรถามแต่คำถามแบบนี้ ฉันว่าเป็นแกจับตา (นักข่าวบอกว่ามีคนส่งมา) เออ ใครส่ง นี่เห็นมั้ยแกน่ะแหละจับตา (ยิ้ม) ไม่มีอะไร คือเขาโสด เราก็โสด แต่ว่าเป็นกำลังใจซึ่งกันและกันมากกว่าในการดำเนินชีวิต อาจมาเจอกันบ้าง รู้สึกปีละครั้งนึงมั้งที่ได้มาเจอกัน เพื่อนเขาก็คือเพื่อนผม เรารู้จักสนิทกันสมัยตอนที่เราได้คุยกันจ้ะ”

โม มนชนก ขอบคุณภาพจากไอจี @momonchanok

มีโอกาสเป็นไปได้มั้ย?
“คำว่ารีเทิร์นอาจจะเป็นในฐานะเพื่อนมากกว่า ยังไงเราก็เจอกันได้ พูดคุยกันได้ ห่วงใยกันได้ เทคแคร์กัน กินข้าวกันได้ จะเป็นลักษณะนี้มากกว่า”

ความหวานในสตอรี่เกินเพื่อนมั้ย?
“อ๋อ ตรงนั้นน่ะเหรอ มันเป็นความรู้สึกของคนที่เคยเกินเพื่อนกันมาก่อน เมื่อมาเจอกัน ความรู้สึกเหล่านั้นยังมีอยู่ แต่เรารู้ว่าเราทำได้แค่ไหนครับ”.