นุ๊ก สุทธิดา เครียด ผู้มีอิทธิพลหนุนหลังคู่กรณีทำบ้านพัง – ใจชื้น อัจฉริยะ ยื่นมือช่วย
นุ๊ก สุทธิดา เครียด ผู้มีอิทธิพลหนุนหลังคู่กรณีทำบ้านพัง – ใจชื้น อัจฉริยะ ยื่นมือช่วย
นุ๊ก สุทธิดา เครียด / จากกรณีที่ นุ๊ก สุทธิดา เกษมสันต์ ณ อยุธยา ดารานักร้องชื่อดัง ปล่อยบ้านหรูย่านลาดพร้าวให้เช่า แต่ผู้เช่ากลับแปรสภาพเป็นโรงงานผลิตถุงมือเถื่อน มิหนำซ้ำทำบ้านพัง มูลค่าความเสียหายร่วม 5 ล้านบาท คดีเรียกค่าเสียหายซ่อมบ้านไม่คืบหน้า ทำเอา นุ๊ก-สุทธิดา เครียดหนัก ยังตกลงกับคู่กรณีไม่ได้
ล่าสุด วันที่ 12 ก.พ. 2564 ที่ อิมแพ็ค สปีด พาร์ค สนามโกคาร์ทแห่งใหม่มาตรฐานสากล นุ๊ก สุทธิดา เกษมสันต์ ณ อยุธยา นัดแถลงข่าวเปิดใจกับสื่อมวลชนอีกครั้ง ถึงเรื่องที่คู่กรณีไม่ทำตามข้อตกลงที่คุยกันไว้ โดย นุ๊ก เผยว่า “ต้องบอกว่าเขายังไม่ได้ให้คำตอบอะไร ส่วนเราก็มีความใจไม่ดีหลายอย่าง เพราะมีคนที่ติดต่อเข้ามาหาเราที่เป็นคู่กรณีกับเขา หรือเคยแจ้งความอะไรกับเขาก็ตาม เขาติดต่อเข้ามาแล้วมาเล่าว่า คำพูดแต่ละอย่างของเขาเป็นไดอะล็อกเดียวกัน แล้วสุดท้ายผลลัพธ์เขาไม่ได้รับการชดเชยใดๆ เราก็เลยรู้สึกเครียด กลัว วิตกกังวล”
“เราย้อนเช็คไปในส่วนคดีของเขา คดีถุงมือยังไม่มีผู้ต้องหาเลย เพราะตามการให้ปากคำของเขา เขาผลิตขึ้นมาเพื่อการทดลองไม่ได้จำหน่าย เพราะฉะนั้นเลยไม่มีเจ้าทุกข์แต่อย่างใด แล้วทุกอย่างก็อยู่ในกระบวนการสอบสวน เรากำลังเผชิญกับอะไร ทำไมกลายเป็นว่าความผิดที่เรามอง เรามองกับกฎหมายอาจจะไม่เหมือนกัน ตัวเรามองว่ามันซึ่งหน้าแล้ว แต่ ณ วันนี้กลับยังไม่มีคนกระทำผิดเลย ในหลายๆ คดีที่มีเจ้าทุกข์เข้ามาคุยกับเราก็ไม่ได้มีอะไรคืบหน้า เราก็วิเลยตกกังวล”
“ที่เครียดหนักก็คือ ทนายเราหลังจากที่ได้ข้อมูลบางอย่างแล้ว ทำงานไปสักพักเขาก็หายจากเราไป 3 วันติดต่อไม่ได้ อ่านไลน์ไม่ตอบ จากที่เราเครียดมันยิ่งเครียดหนัก เราเหลือตัวคนเดียว เลี้ยงลูกทำงานนอกบ้าน แล้วยังต้องมาสู้กับคนพวกนี้ ไม่มีทนาย มันยิ่งเคว้งคว้างมากๆ สองวันที่รู้สึกเคว้งคว้าง นอยด์ จิตตก เป็นคนที่สู้อะไรด้วยตัวเองมาตลอด ไหวตลอด แต่ถ้าวันไหนที่พูดกับเพื่อนว่าไม่ไหวแสดงว่ามันไม่ไหวจริงๆ เรารู้ด้วยสภาพร่างกายและจิตใจเรา แล้วเราก็บอกกับเพื่อนไปแล้วว่าเราไม่ไหวแล้ว”
“ยังพอมีทางออกที่เตรียมไว้คือยังไง? “สองคืนแรกที่เราเริ่มเครียด นอนแล้วฝันเรื่องซ้ำๆ ฝันเหมือนจะตื่นแต่ไม่ตื่น แล้วพอตื่นมาสิ่งแรกที่ทานคือยาแก้ปวด ไม่ได้ทานข้าวเลย ถ้าอยู่แบบนี้เป็นวันที่สาม ไม่ได้แล้ว ก็เลยทานยานอนหลับคืนนี้จะหลับไม่ฝันแล้วตื่นมาปุ๊บ รู้สึกมีแรงขึ้น”
“บวกกับตอนเช้าเมื่อวาน ต้องขอบคุณ คุณอัจฉริยะ มาก คุณอัจฉริยะโทรเข้ามา นุ๊กกรี๊ดเลยในรถ ขอบคุณมากๆ นุ๊กก็ไม่ทราบหรอกว่าคุณอัจฉริยะจะมีพาวเวอร์มีความสามารถมากน้อยแค่ไหนที่จะช่วยนุ๊กได้ขนาดไหน แต่อย่างน้อยสำหรับนุ๊ก เขาคือฮีโร่ขี่ม้าขาวเข้ามาช่วยเราเลย ยังมีคนๆ หนึ่งยืนข้างเรา หันไปปรึกษาได้ รู้สึกว่าคุณอัจฉริยะจะตามเคสนี้มาอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นแกมีความรู้เรื่องข้อมูลของฝ่ายนั้นพอสมควร และให้คำแนะนำในเรื่องที่เราไม่ไหวจริงๆ เช่น การมาดีลกับคนพวกนี้เราจะทำยังไง เขาก็ให้คำแนะนำที่ชัดเจน เราก็สบายใจขึ้น”
ตอนนี้เปลี่ยนทนายแล้ว? “ก็น่าจะเป็นอย่างนั้นค่ะ นอกจากคุณอัจฉริยะแล้ว ก็ต้องขอขอบคุณผู้ใหญ่อีกหลายท่าน เพราะวันนั้นที่เราไม่ไหวจริงๆ แล้วโพสต์ไป ปรากฎว่าผู้ใหญ่หลายๆ ท่านที่เคยรู้จักเรา แล้วเราไม่เคยบ่นเรื่องชีวิต เกิดมาไม่เคยทำให้คนรอบข้างเห็นแล้วสงสัยว่าเป็นอะไร แต่วันนั้นทุกคนก็ให้ความช่วยเหลือ”
“อย่างพี่เป็ป ณพสิทธิ์ เที่ยงธรรม เป็นผู้ใหญ่ที่เคารพให้คำแนะนำเรื่องทนาย มีพี่หนูแหม่ม สุริวิภา พี่ๆ เหล่านี้เห็นว่าเราเป็นน้องในวงการ ลองให้ความช่วยเหลือ ตรงนี้นุ๊กต้องขอบคุณมากๆ รวมถึงน้ำใจคนในวงการหลายๆ คน ทักเข้ามาถามเราโอเคมั้ย”
พอได้ฟังคำแนะนำของอัฉริยะ มันมีทางที่จะเป็นไปได้ไหมในอนาคต? “นุ๊กว่าลึกๆ ต้องบอกว่านุ๊กพอจะทราบข้อมูลเบื้องต้นบ้างว่านุ๊กรบกับอะไร นุ๊กเชื่อว่าทุกคนน่าจะรู้อยู่แล้วว่ามันไม่ปกติ เพราะถ้ามันปกติมันน่าจะจบไปแล้วๆ พอมันไม่ปกตินุ๊กก็รู้ว่ามีอะไรอยู่เบื้องหน้าเบื้องหลัง เท่าที่เราเห็นก็รู้อยู่แล้วว่าเขาชอบลุย ไม่กลัวพวกมีอิทธิพล นุ๊กก็รู้สึกว่าเบาใจได้ระดับนึง แต่มันก็มีแหละคะที่ติดต่อเข้ามาว่าจะให้คุณอัจฉริยะทำให้จริงเหรอ เขาไม่ได้มีความรู้นะ สำหรับเรา นุ๊กไม่รู้เลยว่าฝ่ายไหนจะติดต่ออะไรเข้ามา สำหรับนุ๊กอย่างน้อย เขาก็เป็นคนแรกที่เดินเข้ามา สำหรับนุ๊กแค่นี้ก็มีบุญคุณแล้ว จากที่เหมือนคนกำลังจะตาย เครียด จะร้องไห้ แล้วพี่อัจเดินเข้ามาทำให้เรามีกำลังใจมากขึ้น เขาเสนอตัวเข้ามา นุ๊กก็รู้สึกสบายใจแล้วก็ขอบคุณ ส่วนที่พี่อัจจะทำอะไรได้มากน้อยแค่ไหนก็ไม่เป็นไร ก็สู้ไปด้วยกัน”
แสดงว่า ณ วันนี้ มันไม่ใช่คดีแค่เจ้าของบ้านกับผู้เช่าแล้ว มันมีมากกว่านั้น? “ก็มีคดีหลายคดีที่เกิดขึ้นในบ้านหลังนั้น ในส่วนคดีอาญาแผ่นดิน รียูสถุงมือตรงนี้ยังไม่ได้นำสืบ ก็ยังไม่มีผู้ต้องหา เราก็ยังอยากจะตามต่อไป ในส่วนของคนที่มาขนของ ซึ่งเราก็รู้ว่าเป็นใคร ก็เป็นอีกหนึ่งคดีที่เราแจ้งความดำเนินคดีไปแล้ว ทั้งหมดมันก็พันพัวกันอยู่3คดีเป็นอย่างน้อยในบ้านหลังนั้น แต่จริงๆแล้วโดยส่วนตัวเท่าที่นุ๊กทราบมามันก็มีอีกหลายคดี เราเป็นคนมีชื่อเสียง พอมีข่าวกับใคร เจ้าทุกข์ของฝ่ายตรงข้ามก็จะส่งข้อมูลมาให้ มีหลายคนเป็นเพื่อนเราก็มี อย่างเพื่อนเราก็มีทักเข้ามาว่าบ้านหลังนั้นเป็นของนุ๊ก เคยไปปาร์ตี้ด้วย มีการทำธุรกิจ แล้วหักหลังอะไรกัน แล้วมีแจ้งความก็มี”
เกาะติดข่าว กดติดตามข่าวสด
ได้คุยกับแม่ของคนที่เราไกล่เกลี่ยที่ สน. ไหม? “ได้คุยค่ะ ก็ตอบเหมือนกับที่ตอบกับเจ้าทุกข์คนอื่นๆ ก็พร้อมจะช่วยเหลือดูแลอะไรก็แล้วแต่ แต่สุดท้ายเจ้าทุกข์ไม่ได้รับความช่วยเหลือ เราก็เลยเครียด จะเป็นเราเหรอ นุ๊กอายุขนาดนี้แล้วไม่ใช่วัยที่จะมาล้ม หรือมาเสียเงินอะไรเยอะแยะขนาดนั้น ถ้าเราเสียเงินในเชิงทำธุรกิจ เราก็ยังว่ามันแย่เลย เพราะอายุมันเกินมาแล้ว เราไม่ได้ทำด้วย เราก็มีลูกที่เราจะต้องดูแล3คน ทำไมเราไม่เก็บเงินไว้ให้ลูก แล้วเราก็ยังมีโรคภัยไข้เจ็บที่เราต้องรักษา แล้วมาทำกับเราอย่างนี้ มันบาปกรรม มันไม่ควรทำคืออยู่บ้านคนแล้วคิดว่าไม่มีปัญญาที่จะซ่อมบ้านให้เขา ก็อย่าไปทำของเขาพังสิ อย่าไปทุบ ต่อ เติม ก็อยู่ธรรมดาก็ได้ อันนี้อยู่แล้วไปทำลาย ไปสร้างความเดือดร้อนให้คนอื่น แล้วมันไม่ใช่เราคนแรก มันมีอีก คือตอนนี้กำลังรวบรวมกันอยู่”
นุ๊กบอกว่ามันมีอำนาจมืดเขามีผู้ใหญ่หนุนหลังหรือว่ายังไง? “ทำธุรกิจอย่างนี้เนอะ ทุกวันนี้ก็ยังลอยนวลอยู่ได้ เราก็อยากจะรู้เหมือนกัน จริงๆนุ๊กรู้ชื่อรู้อะไรหมด แต่ว่าเราอาจจะพูดไม่ได้”
แล้วเรากลัวไหม หวงความปลอดภัยของเราและลูก? “ก็ถึงบอกว่า 2-3 วันที่ผ่านมา นุ๊กเครียดมาก เครียดทั้งที่รู้ว่าใครเป็นใคร ทั้งมีเจ้าทุกข์ติดต่อเข้ามา มันทำให้เราเครียดมาก เราอยู่กับลูก สามีเราก็ไม่อยู่ คือสามีก็ไม่ได้ช่วยอะไรหรอก แต่อย่างน้อยเราก็ได้พูดคุย แต่วันนี้มันไม่มีใครเลย มันยิ่งทำให้เราเครียดมาก ยิ่งทนายเราหายไปเราก็ยิ่งเครียด แต่พอมีพี่อัจมา ทุกวันนี้ก็ยิ้มได้”
ทนายหายไปเขาให้เหตุผลไหม? “นุ๊กทราบเหตุผล จริงๆ มันก็ไม่เกี่ยวกับเบื้องลึกเบื้องหลังหรอก เราไม่อยากจะพูดดีกว่า คือเขาไม่สะดวก หรืออาจจะยุ่งอยู่ 3 วัน”
แต่เขายังไม่ได้บอกเลิกที่จะทำคดีให้เราเลย? “มันก็ชัดเจนในความหายเลย คือเราคุยคนเดียว3วัน เรายังให้เพื่อนๆดูเลยว่าทำยังไงดี แต่สำหรับเรามันชัดเจนอยู่แล้ว จะบอกเลิกใครซักคนเราก็แค่หาย ไลน์ไม่ตอบ”
เขารวบรวมหลักฐานของฝั่งเราไว้แบบนี้กลัวจะเสียรูปคดีไหม เพราะเขาหายไปแล้ว? “นุ๊กไม่ได้ให้อะไรที่เปิดเผยไม่ได้ไป แล้วก็ไม่ได้ด่าใคร เจตนาตอนแรกที่เราติดต่อจะมีทนาย ใจเราคิดว่ามันก็คงจะซ่อมแล้วก็จบกัน เราไม่ได้พูดร้าย โชคดีมากเราไม่ได้ว่าใคร อย่างมากถ้าไม่ไหวมันก็ไม่ไหวจริงๆแล้ว แต่ชื่อของบุคคลเบื้องหน้าเบื้องหลัง คนที่ทำงานให้เขา ชื่อพวกนี้นุ๊กว่ามีหลายคนรู้อยู่ ก็เลยไม่ค่อยกังวลเท่าไหร่”
อัจฉริยะโอเคจะไม่ทิ้งเรา? “คุณอัจฉริยะบอกว่าพร้อมลุย นัดกันวันจันทร์นี้ เดี๋ยวจะมาเจอกัน เขาก็ให้เราเตรียมข้อมูลทุกอย่างให้พร้อม”
ก่อนหน้านี้เราแค่ลงบันทึกประจำวัน จากนี้เราจะแจ้งความเพิ่มไหม? “คุยกับคุณอัจฉริยะว่าน่าจะมีการแจ้งความเพิ่ม”
แนวทางที่เราจะจ่ายเงินซ่อมก่อนแล้วค่อยไปเก็บเงินล่ะ? “แนวทางนั้นไม่มีโอกาส คิดว่าไม่อยากทำแบบนั้น เพราะอย่างที่บอกว่าเรามีลูกเล็กทั้ง 3 คน กำลังจะโตด้วย รู้สึกว่าเก็บเงินไว้ให้ลูกดีกว่าไหม อย่างตัวเราก็ต้องรักษาตัวเองอีก โรคมะเร็งมันก็ใช้เงินเยอะเหมือนกันในการรักษา เราก็ไม่อยากจะเอาเงินไปใช้กับสิ่งที่จริงๆแล้วเราไม่ควรจะได้รับผลกรรมนี่ด้วยซ้ำ ก็อยากจะเก็บเงินเอาไว้ให้ลูกมากกว่า”
ทั้งหมดราคา 5 ล้าน? “เราไม่ได้ต้องการเป็นตัวเงิน คุยกับเขาตั้งแต่แรกว่าทำยังไงให้บ้านเรากลับไปเป็นเหมือนเดิม แต่อย่างที่บอก พอซ่อมคุณภาพของของก็ต้องเป็นเหมือนเดิมเท่านั้น สิ่งที่มันช้ำใจที่สุดคือการที่เขามาโพสต์ด่าเราอีกทีนึงหลังจากที่เป็นข่าว ทยอยด่าเราเรื่อยๆเราก็ทยอยเก็บไว้เรื่อยๆ เมื่อวานซืนก็ยังด่าอยู่”
“แต่เรากำลังจะบอกว่าเราไม่ได้เจ็บที่เขาด่าเรา แต่เราแค่รู้สึกว่าเจตนาที่เขาจะชดใช้เราจริงๆ เหรอ เพราะถ้าคนที่ทำผิดแล้วรู้สึกผิด แล้วต้องการที่จะชดใช้เรา จะไม่แสดงกิริยาแบบนี้ จะไม่โพสต์อะไรแบบนี้ แล้วแต่ละโพสต์ คือมันไม่เป็นความจริง ก็ระวังตัวเอาไว้ด้วยนะคะ อย่างพูดทำนองว่าบ้านนี้เขาทำไปเท่าไหร่ทำไมไม่ออกมาพูดบ้างล่ะ ก็ไม่ออกมาพูดเพราะว่าถ้าน้องกลับไปอ่านในหนังสือสัญญา น้องก็จะรู้ว่าสัญญาเช่าระบุไว้ชัดเจนว่าเวลาคืนบ้านต้องคืนในสภาพเดิม”
“เรามีสภาพเดิมของเรา เราไม่อยากได้ของแถม ทำให้กลับไปเป็นสภาพเดิม ทำอะไรไว้ถอดทิ้งได้เลยค่ะ ไม่มีปัญหา ไม่ได้อยากได้ เราอยากได้บ้านเราแบบเดิม แล้วถ้าคุณจะเอาช่างมาทำ เราก็ไม่มีปัญหาเหมือนกันตั้งแต่แรก เพราะเราก็ไม่ได้อยากได้เงิน เราไม่ได้อยากได้กำไรจากความพินาศของบ้านในครั้งนี้ เราอยากได้บ้านสภาพเดิมเพื่อที่จะไปทำมาหากินอย่างอื่นต่อ ทางน้องถ้าไม่หยุดโพสต์ก็ระวังไว้ว่าจะมีคดีเพิ่มแล้วกันค่ะ”
ดูข่าวต้นฉบับ
ที่มา : https://www.khaosod.co.th/entertainment/news_5938417
ขอขอบคุณ : https://www.khaosod.co.th/entertainment/news_5938417
