นุก เจอ อธิป คู่กรณีครั้งแรก ปะทะเดือด นายอัจฉริยะ หนุนช่วยเต็มที่


ให้คะแนน


แชร์

นุก เจอ อธิป คู่กรณีครั้งแรก ปะทะเดือด นายอัจฉริยะ หนุนช่วยเต็มที่

ยังยืดเยื้อสำหรับกรณีที่ นักร้อง-นักแสดงสาว นุก สุทธิดา เกษมสันต์ ณ อยุธยา ให้นายอธิป ชุมพล หรือนายตรีเพชร อายุ 25 ปี เช่าบ้านเลขที่ 193/2 ซอยลาดพร้าว 126 แขวงพลับพลา เขตวังทองหลาง
แต่กลับถูกนายตนีเพชรดัดแปลงบ้าน พร้อมต่อเติมโรงงานถุงมือเถื่อน จนบ้านได้รับความเสียหายตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น ล่าสุด(15ก.พ.64) นุก สุทธิดา และนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ เปิดบ้านลาดพร้าวที่เกิดความเสียหาย พร้อมให้สัมภาษณ์พร้อมคู่กรณี


ก่อนที่คู่กรณีจะเดินทางมาถึงนักแสดงสาวและนายอัจฉริยะให้สัมภาษณ์ โดยนักแสดงสาวเผยว่า “ต้องบอกก่อนว่าเป็นครั้งแรกที่นุกได้เจอกับพี่อัจฉริยะตัวเป็นๆ เรียกว่าเป็นพระเอกขี่ม้าขาวสำหรับนุกในวันที่เรารู้สึกแย่ที่สุด ไม่มีใคร แล้วพี่อัจอาสาเข้ามาช่วยเราด้วยใจจริงๆ เราเลยรู้สึกสบายใจ นุกก็ได้เตรียมข้อมูลต่างๆ เกี่ยวกับทางคดีมาให้พี่อัจและทางทนายด้วย ทั้งหมดต่อจากนี้ก็อยู่ที่พี่อัจคนเดียวเลยค่ะ

ต้องบอกก่อนว่าที่นุกไม่ไหวนุกเหนื่อยที่ต้องดิวกับคนที่ไม่เหมือนเรา คือนุกไม่เคยได้อยู่กับคนแบบนี้ ชีวิตนุกก็ป่วยเป็นมะเร็ง มันก็ไม่น่าเหลือเยอะเท่าไหร่ แล้วเราเอาเวลาชีวิตของเรามาเสียกับคนที่คุยกันไม่รู้เรื่อง ปวดประสาทแบบนี้ก็รู้สึกแย่ วันนี้พี่อัจเข้ามาช่วยก็อยากให้ทุกอย่างขึ้นอยู่กับพี่อัจเลย ฝากพี่อัจทุกเรื่อง”

ก่อนหน้านี้ได้มีการคุยกับอีกฝ่ายไหม? นุก : “ไม่ได้คุยเลยค่ะ ครั้งสุดท้ายที่คุยคือทางเขาก็บอกว่าอย่าโทรมาเร่งเขา ทั้งๆ ที่เขานัดจะโทรหาเรา หลายๆ รอบเลยรู้สึกว่าเสียเวลาจะคุย ส่วนเรื่องค่าเสียหายเข้ามาประเมินเรียบร้อยแล้ว ก็คงทราบราคาแล้ว แล้วก็หายไปไม่ติดต่อมาเลย ราคาที่ประเมินก็ไม่ห่างกันหรอกค่ะ ถ้าวัสดุเกรดเดียวกันนะคะ”


ในส่วนของนายอัจฉริยะเข้ามช่วยอะไรบ้าง? นายอัจฉริยะ : “ต้องเรียนว่าสิ่งแรกต้องขอยืนยันนะครับว่าที่ผู้ต้องหาที่ก่อคดีเรื่องบ้านหลังนี้อ้างว่ามีอิทธิพล ยืนยันว่าไม่มีอิทธิพล การที่ไปจ้างการ์ดทหารอากาศมาดูแล ผมได้เรียนทางทหารอากาศไปแล้ว ต้นสังกัดคงไม่มีให้มาดูแล ในส่วนของ 2 แม่ลูก แม่เราก็จะฟ้องในข้อหาผิดสัญญาละเมิดให้คุณนุกเสียหาย ส่วนลูกก็จะแจ้งอาญาในข้อหาทำให้เสียทรัพย์ อันนี้เราไม่ได้แจ้งความที่โรงพัก ฟ้องโดยตรง เรื่องของกลางพวกถุงมือที่จะมาเอาคืนเราประสาน ปคบ. ไปแล้ว ไม่ให้นะครับ
พรุ่งนี้ ปคบ. จะมาเอาของกลางไปทั้งหมด นอกจากนี้ยังมีคดีค้ามนุษย์ที่ผมดำเนินคดีอยู่ 2 คนแม่ลูกร่วมมือกันค้ามนุษย์ในการบังคับคนงานให้เสพยาเสพติด มีการบังคับใช้แรงงาน ตอนนี้เรากำลังขอให้อนุมัติหมายจับอยู่ ดังนั้นยืนยันว่านายอธิปกับพวกไม่มีอิทธิพล แล้วผมมองว่ากระจอกมาก ถ้าเราปล่อยให้คุณนุกที่เป็นผู้เสียหายอยู่แบบนี้แล้วถูกรังแกคงเป็นไปไม่ได้ที่จะปล่อยให้สังคมเป็นแบบนี้ แล้วยืนยันว่าจะทำให้เร็วที่สุดในเรื่องของคดี”
อย่างทางนุกเป็นกังวลเรื่องเขาประกันตัวไปแล้วจะไม่ได้รับการรับผิดชอบ? นายอัจฉริยะ : “ไม่ต้องห่วงครับ มีอีกหลายคดีครับ คดีค้ามนุษย์นี่หนักกว่าคดีของคุณนุกอีก ของคุณนุกบอกได้เลยว่าเป็นเรื่องธรรมดาแต่ว่าอาจต้องใช้เวลา ซึ่งถ้าเขาโดนข้อหาค้ามนุษย์ 2 แม่ลูกนี่สาหัสเพราะโทษมันหนัก แล้วคนงานทั้งหมดมันสิบกว่าคนที่ถูกบังคับใช้แรงงาน”


จากข้อมูลของนายอธิป เขามีอิทธิพลยังไงบ้าง? นายอัจฉริยะ : เขาเป็นคนที่ติดยาอยู่แล้ว จริงๆ ถ้าวันนี้มาก็จะให้ตำรวจตรวจยาเสพติดต่อหน้านักข่าวอยู่แล้ว ซึ่งเราตรวจก็เจออยู่แล้ว แล้วพฤติกรรมเขามีการทำถุงมือแบบนี้จนถูกจับ ในส่วนของคุณนุกทีมทนายจะดูแลให้ดีที่สุดแล้วเราเชื่อว่าถ้าเราเข้ามาทำแล้วไม่มีอิทธิพลแน่นอน แล้วเราจะจับทุกข้อหาที่เราทำได้ เราจะไม่ปล่อย แล้วเรามีภาพทหารอากาศถ้าเข้ามาวุ่นวายเราก็จะจับกุมด้วย เพราะว่ามีการร่วมกันผลิตถุงมือซึ่งเรามีภาพเป็นคลิปวิดีโออยู่แล้ว”
ที่เรียกค่าเสียหายไป 5 ล้านมีทางเป็นไปได้ไหมว่าได้เงินส่วนนี้? นายอัจฉริยะ : “เราใช้กฏหมายบังคับดีกว่า เราใช้วิธีฟ้องศาลแล้วให้ศาลบังคับ ถ้าเขาแพ้คดีเราก็ใช้กฏหมายในการติดตามยึดทรัพย์เขา พอเรายื่นฟ้องเขาไม่สามารถถ่ายโอนทรัพย์สินได้ ถ้าถ่ายโอนก็เป็นการโกงเจ้าหนี้ อันนี้เป็นหน้าที่ของเราในการดำเนินการ”
เรื่องทหารอากาศเขามีการแอบอ้างยังไงบ้างที่ทำให้เรากังวล? นุก : “นุกได้เจอค่ะการ์ดทหารอากาศ แล้วในสัญญาเช่าบ้านการ์ดทหารอากาศท่านนึงเป็นคนเซ็นเป็นพยานด้วย มีชื่อ ลายเซ็นครบนะคะ ต้องบอกก่อนว่าคุณพ่อนุกก็เป็นอดีตผู้ช่วย ผบ.ทอ. เขาก็ได้ทักนุกด้วยนะคะว่ารู้จักกับคุณพ่อ ซึ่งเราก็ได้เห็นหน้าอยู่”
เขาเข้ามาไกล่เกลี่ยหรือยังไงที่ทำให้เรากังวล? นุก : “ทั้งคุณแม่ของเขาและตัวเขามีการ์ดเดินรายล้อมอยู่ประมาณ 7-8 คน เวลาไปไหน มันทำให้เรากังวลหลายๆ อย่าง ในเรื่องของการแอบอ้าง นุกอัดไว้หมดในเรื่องคลิปเสียงไม่ว่าจะเป็นการแอบอ้างรู้จักกับนายตำรวจหลายๆคน

หรือแม้แต่กับคุณอัจฉริยะเอง เมื่อวานเขาก็บอกนุกก็อัดเอาไว้ เพราะฉะนั้นทุกๆ อย่างมีหลักฐานหมด (ยศอะไรที่เขาแอบอ้าง) จริงๆ ไม่ใช่แค่ทหารอากาศแต่ว่ามีหลายคน ทนาย นักการเมือง เยอะค่ะที่เขาแอบอ้าง อันนี้เดี๋ยวให้คุณอัจฉริยะจัดการแล้วกันค่ะว่ารู้จักจริงไหม หรือว่าแค่แอบอ้างเฉยๆ”
นายอัจฉริยะ : “ยืนยันนะครับว่าไม่มีอิทธิพล ไม่รู้จัก ไม่เคยเจอ ไม่เคยทานข้าว ผมยืนยันว่าเราจับอย่างเดียวนะครับ มีหน้าที่บังคับใช้กฏหมาย หมดยุคที่ประเทศไทยมีมาเฟียแล้ว ไม่มีแน่นอน แล้วผมมั่นใจว่ากองบัญชาการตำรวจนครบาล, ผบ.ตร. ท่านคงไม่ปล่อยให้มีมาเฟียมารังแกคุณนุ๊ก ซึ่งป่วยเป็นมะเร็งอยู่แล้ว ยืนยันได้ว่าไม่มีแน่นอน”
ส่วนตัวอยากให้คดีนี้จบที่ตรงไหน? นุก : “วันนี้นะคะนุกขึ้นอยู่กับพี่อัจเลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็นการดำเนินการยังไงก็เป็นทางทนาย และพี่อัจพูดคุยกับฝั่งโน้น เพราะอย่างที่บอกว่ามันช้าไปแล้ว เราให้เวลาเขาเป็นเดือนแล้วนะคะ เขาไม่ได้ติดต่ออะไรมาเลย ก็หลังจากนี้จะคุยอะไรคุยกับพี่อัจได้เลยนะคะ”
นายอัจฉริยะ : “ผมไม่ให้คุยเพราะคุณนุกเขาป้วย ถ้าบอกว่ามาเฟียมาเจอกับผมดีกว่า แล้วจะได้รู้ว่าของจริงคืออะไร แล้วนรกมีจริงนะครับ”
หลังจากนั้นนายอธิป ชุมพล หรือนายตรีเพชร เดินทางมาถึงพร้อมการ์ดส่วนตัว และให้สัมภาษณ์พร้อมกับนักแสดงสาว และนายอัจฉริยะ โดยนายอธิป เผยว่า “ผมมาขอโทษพี่นุกครับ เรื่องที่ด่าพี่นุกออกสื่อ และก็พูดจาไม่ดีกับพี่นุกไป และขอโทษเรื่องบ้านด้วยที่ทำบ้านเสียหาย ต้องขอโทษพี่นุกด้วยครับ(ยกมือไหว้)”

เราทำสิ่งผิดกฎหมาย ทำถุงมือเพื่อจำหน่าย? นายอธิป : “ผมยังยืนยันคำเดิม ผมไม่ได้จำหน่ายจริงๆ เรื่องบ้านผมยินดีรับผิดชอบซ้อมให้หมดทุกอย่างเลยครับ ทั้งการซ้อมบ้าน และยินยอมทั้งหมดครับ ส่วนจะดำเนินการได้เมื่อไหร่ ตรงนี้ให้พี่นุกเป็นคนกำหนด และเซ็นสัญญามาได้เลยครับ (นุกเรียกค่าเสียหายไป 5 ล้านบาท) ถ้าเป็นเงิน แล้วจำนวนมันเยอะเกินไป ผมขอซ้อมบ้านดีกว่าครับ”

ก่อนหน้านี้เหมือนเราเปลี่ยนคำไปมาจนทางนุกหาข้อสรุปไม่ได้? นายอธิป : “เหมือนผมกับคุณแม่อยู่กันคนล่ะที่ ผมอยู่คอนโด คุณแม่คุยกับพี่นุก แล้วก็ไม่ได้ติดต่อผมด้วย คำพูดมันก็เลยไม่เข้าใจกัน
ผมอยากจะบอกว่าถึงผู้เช่าจะเป็นคุณแม่ แต่ทั้งหมดอยากให้มาลงที่ผมคนเดียว เพราะว่าผมเป็นคนทำเสียหายไม่ใช่คุณแม่”
คดีถุงมือไปถึงไหนแล้ว? นายอธิป : “ตอนนี้อยู่ขั้นสอบสวน เจ้าหน้าที่เขาได้ดูว่ามีการจำหน่ายมั้ย หรือว่าทำการทดลองอย่างเดียวตามที่ผมบอก”
สาเหตุที่ต่อเติมบ้านเพราะอะไร? นายอธิป : “ผมจะทำเป็นโมเดลโรงงาน ผมแจ้งพี่นุก แต่ไม่ได้แจ้งว่ามันเยอะขนาดนี้ คือไลน์ไปหาพี่นุก บอกว่าขออนุญาตต่อเติม แต่ไม่ได้บอกว่าเยอะขนาดนี้ ผมก็ผิดที่ไม่ได้บอกพี่นุกครับ”
เขาได้บอกนุกจริงไหม? นุก : “ไม่ได้มีว่าไลน์มาขอต่อเติม แต่มีถ่ายรูปบ้านให้ดูบางส่วน แต่ไม่ได้ถ่ายอันนี้ แต่ถ่ายเป็นสภาพบ้านเดิม ในสัญญาระบุว่าเช่าเพื่ออยู่อาศัย และเป็นโฮมออฟฟิต แต่ไม่ได้แจ้งว่าจะทำเป็นโรงงาน หรือประกอบกิจการอย่างนี้”
ห้องชั้นบนที่มีการดัดแปลงให้เหมือนห้องปาร์ตี้มีจุดประสงค์ยังไง? นายอธิป : “ห้องข้างบนผมทำให้มีคีย์การ์ด อันนั้นเป็นห้องนอนผมเอง และมีชั้นใต้ดินที่ผมทำใหม่เป็นห้องละหมาด”


เรายอมรับไหมว่ามีการเสพยาในบ้านหลังนี้? นายอธิป : “ยอมรับ อันนี้ผมยอมรับว่าเป็นข้อผิดพลาดของตัวผมเอง ทั้งผมและลูกน้อง ซึ่งเรื่องนี้ก็ได้มีการโดนคุมความประพฤติและใส่กำไลข้อเท้าอีเอ็ม”
อย่างนุกกลัวอิทธิพลมืด ตรงนี้เราจะอธิบายให้เขาสบายใจยังไงบ้าง? นายอธิป : “ผมยืนยันได้ว่าผมเป็นแค่เด็กอายุ 25 ปีคนนึง แล้วก็ผมก็โดนโกงมาเยอะมาก จากคนที่โดนโกงถุงมือ ถ้าผมมีอิทธิพลจริง ผมคงไปตามเอาหนี้คืนแล้วครับ คนที่โกงถุงมือผมไปมีถึงสิบล้าน มีการยัดถุงมือเหลือง มีการยัดถุงมือ มือสอง แต่ผมเลือกที่จะไม่จำหน่ายต่อ ผมเลือกที่จะเอามาทดลองเปลี่ยนสีไป”
ทางนุกเขาจะดำเนินคดี เราจะขอไกล่เกลี่ย หรือให้เขาดำเนินตามกฎหมาย? นายอธิป : “ขอความกรุณาพี่นุก เพชรก็มีขอโทษพี่นุกจริงๆ(ยกมือไหว้) ด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการของเพชรด้วย ไม่มีผู้ใหญ่แนะนำ ด้วยอารมณ์ ด้วยอะไรก็แล้วแต่ เพชรอยากเข้าบ้านมาเอาเสื้อผ้า มาเอาอะไรหลายๆอย่าง ทั้งหมดชีวิตเพชรมันก็มีเท่านี้ครับ ทั้งหมดเพชรเป็นเป็นคนหาเอง”
มันมีกรณีที่เราไปแอบอ้างนายทหารระดับสูง และเราก็สนิทกับตำรวจท้องที่อยากชี้แจงอย่างไรบ้าง? นายอธิป : “พี่ๆตำรวจท้องที่เหมือนคนข้างบ้าน เขาแจ้งว่าเสียงดัง ผมก็เข้าไปรับทราบ มีบ้างที่รู้จักกับตำรวจท้องที่ แต่ไม่ได้มีสนิทอะไรขนาดนั้น”


ล่าสุดเห็นเปิดบริษัทใหม่ได้ทำอยู่ไหมถุงมือ? นายอธิป : “ไม่ใช่ครับ เป็นบริษัทเดิมครับ ผมก็ยังยืนยันในอาชีพครับ ผมยังทำเหมือนเดิมเพราะว่าบริษัทเครื่องมือแพทย์ผมเปิดตั้งแต่ปี 2561 แล้วครับ ซึ่งได้รับอนุญาตถูกต้องครับ แต่ว่าไม่ได้จดการแจ้งย้ายมาที่นี่เท่านั้นเองครับ”
ตอนนี้ชื่อบอสหรือเพชร? นายอธิป : “จริงๆเป็นชื่อในวงการครับ เพื่อให้คนจำว่าเป็นตรีเพชรครับ แต่ที่เขาเรียกบอสคือพนักงานเขาเรียกกันมาเอง ชื่อเพชร”
ถามถึงเรื่องการดำเนินคดีเราสามารถดำเนินเรื่องเอาผิดได้ไหม? อัจฉริยะ : “ได้ครับ เรายืนยันครับ เพราะว่าไม่ได้มีเพียงข้อหาเดียว หลายข้อหา เดี๋ยวก็ต้องรอรับกรรม ใครทำกรรมก็ต้องรับไว้อยู่แล้ว บอกนุกไปแล้วว่านุกไม่ต้องคุย ปล่อยเป็นหน้าที่ของผม เพชรเขาเป็นมาเฟีย ยืนยันเลยว่าที่นี่ต้องไม่มีมาเฟีย มีแต่มาฟรี ทุกข้อหาที่เราทำได้ เราทำหมด (มีอะไรบ้าง)ทุกรูปแบบที่เขาโดน ยังน้อยไปกับสิ่งที่เขาบังคับใช้กับคนงาน ของคุณนุกก็ถือว่าหนักแล้ว แต่ของคนงานหนักกว่า ดังนั้นเราคงไม่ปล่อยไว้ให้ลอยนวล”


บอกได้ไหมมีคดีอะไรบ้าง? อัจฉริยะ : “หลายๆประเด็นที่เราทำ เราทำทุกมิติครับที่เราสามารถเอาผิดเขาได้ เราบอกเขาต่อหน้าเลย แม้กระทั่งคดีหมิ่นประมาท เราเอาหมด ฉะนั้นคำว่าขอโทษมันสายไปแล้วน้อง”
วันนี้ได้คุยกันแล้ว นุกอยากจะถามอะไรเขาไหม? นุก : “อยากจะบอกว่าถ้าน้องเพชรมีเรื่องที่อยากจะประสานงานในส่วนของการไกล่เกลี่ยใดใดก็แล้วแต่ ให้ประสานกับคุณอัจฉริยะได้เลย เพราะว่าตอนนี้ก็เป็นตัวแทนของนุกไปแล้ว ฉะนั้นประสานกันโดยตรงได้เลยไม่ต้องติดต่อผ่านนุกมาแล้ว ตอนนี้ถึงเวลาที่นุกต้องเข้ารักษาตัว รักษามะเร็งรอบที่สองแล้ว คงไม่ได้มีเวลาได้คุยกับน้อง มีคุณอัจฉริยะมาเป็นตัวแทนให้”
เป็นครั้งแรกที่ได้เจอกันเลยใช่ไหม? นุก : “ใช่ค่ะ จริงแล้วตั้งแต่เช่าบ้านก็ไม่ได้เจอน้องเขา มาเจอก็คือชวนให้น้องเขามาทานข้าวแถวบ้าน หลังจากที่เขามาอยู่ได้เดือนนึง เพราะอยากจะเห็นหน้าจริงๆของคนที่อยู่บ้านเรา ก็ได้เจอครั้งนั้นครั้งเดียว แล้วก็หลังจากนั้นก็เป็นวันนี้ค่ะ”
วันนี้ได้เจอแล้วมีอะไรจะถามเขาไหม? นุก : “ไม่มีแล้วค่ะ อยากให้น้องถ้าคิดว่าบริสุทธิ์ใจ หรือว่าอยากจะไกล่เกลี่ยก็ให้แสดงความบริสุทธิ์ใจโดยเร็วนะคะ เพราะว่าตอนนี้มันก็เริ่มนาน ตั้งแต่น้องโดนจับไปคราวก่อนมาเป็นเดือนแล้ว บ้านอยู่ในสภาพนี้ แล้วต้องบอกว่าเราเสียผลประโยชน์โดยการใช้เช่าบ้าน เดือนละ 8 หมื่น

ถ้ามันยิ่งนานไป อย่าว่าบ้านที่ยังไม่ได้เช่า ผลประโยชน์การเช่าบ้านที่เราจะให้คนอื่นเช่าต่อเราก็เสียผลประโยชน์ ถ้ามีความจริงใจจริงๆ อยากให้รีบดำเนินการติดต่อคุณอัจฉริยะมา เพราะที่ผ่านมาเป็นคำพูดนี้ตลอดว่าพร้อมจะซ่อมให้ แต่ไม่รู้เมื่อไหร่สักทีค่ะ”

พร้อมสู้คดีไหม พอเขาบอกมาอย่างนี้? นายอธิป : “ผมยินดียอมรับทุกข้อกล่าวหาครับ เพราะว่าผมก็กระทำผิดจริง วันนี้ผมต้องขอโทษพี่ๆทุกคน และข้อโทษพี่นุกอีกครั้งหนึ่ง ยินดียอมรับทุกอันครับในกรณีของบ้านเสียหายครับ แต่ในเรื่องคดีอื่นๆที่ทนายอัจฉริยะพูดไป ผมขอสู้ทุกคดี”
มีทหารอากาศคอยหนุนหลัง? นายอธิป : “แค่รู้จักกันตั้งแต่เด็ก เหมือนกับเป็นคุณลุง คุณป้า ทำงานอยู่ในราชการ ไม่ได้มีอิทธิพล อำนาจใดใดครับ”
คดีการค้ามนุษย์ที่นายอัจฉริยะบอก กระบวนการเรามันเข้าข่าย? นายอธิป : “ข้อเท็จจริงอยู่ที่พนักงานทุกครับ ผมเชื่อว่าผมทำความดีมากพอกับพนักงานทุกคน พอรอพนักงานออกมาพูดดีกว่าครับ ผมไม่พูดเองดีกว่าครับ”
ขั้นตอนต่อไปเจอกันเมื่อไหร่? อัจฉริยะ : “เดี๋ยวหมายจับออกเมื่อไหร่ ผมก็จับ”
นายอธิป : “ผมขอโอกาสแก้ตัวสักนิดนึงครับ”
อัจฉริยะ : “ไม่มีครับ คงไม่มีนะ สำหรับผม ผมไม่เคยปราณีใครครับ โดยเฉพาะนามมาเฟียแบบคุณนะ มีทหารอากาศรายล้อม”
นายอธิป : “ผมอายุแค่ 25 ปีครับ”
อัจฉริยะ : “25 เป็นมาเฟียคุณเอาภาพไหมล่ะ ผมมีหลักฐาน แล้วคุณแอบอ้าง กินข้าวกับผม รู้จักตอนไหน”


นายอธิป : “ขออนุญาตหลังไมค์ครับ”
อัจฉริยะ : “ไม่ต้องหลังไมค์ กินตรงไหน พูดต่อหน้าสื่อนี่ คนอย่างผมไม่คบกับคุณหรอก (เดี๋ยวเดินดูบ้านต่อไหม) ไม่ดูครับ เพราะยังเป็นของกลางในคดี”
นายอธิป : “ที่เป็นของกลางในคดี ตำรวจได้อายัดไว้หมดแล้วครับ”
อัจฉริยะ : “บอกตรงนี้ทุกอย่างแล้วว่าของทุกอย่างเขาไม่ให้ เดี๋ยวทาง ปคบ. เขาจะมาเอาพรุ่งนี้”
นายอธิป : “งั้นผมโทรถามเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกที”
อัจฉริยะ : “คุณไปถามเลยไป”


นายอธิป : “ขอบคุณครับ”
วันไหนเจอกันจะนัดอีกที? อัจฉริยะ : “ผมไม่คุย ผมจะฟ้องอย่างเดียว ตัวผมประเภทมวยบู๊อยู่แล้วครับ ไฟต์เตอร์ ไม่ใช่มวยเชิง แล้วไม่มีลีลา”
นายอธิป : “ไม่เคยมีเรื่องกับใครด้วยครับ”
อัจฉริยะ : “ไม่เป็นไร ผมชอบ”
สรุปวันนี้มาเอาอะไรบ้าง? นายอธิป : “ไม่มีอะไรครับ ผมแค่มาขอโทษพี่นุก ถ้าเขาจะอนุญาตหรือไม่อนุญาตแล้วแต่ที่ประสงค์ครับ ผมมาตามนัดพี่นุกครับ”

ดูข่าวต้นฉบับ

ที่มา : https://www.khaosod.co.th/entertainment/news_5958392
ขอขอบคุณ : https://www.khaosod.co.th/entertainment/news_5958392