จ๊ะจ๋า เผยโมเมนต์งานแต่งนิวนอร์มัล ลั่น พี่จิ๊บ โรแมนติกมาก


ให้คะแนน


แชร์

จ๊ะจ๋า พริมรตา เล่าโมเมนต์งานแต่งนิวนอร์มัล จดทะเบียนสมรสบนเครื่องบิน เผยที่มาฤกษ์เหินฟ้าความหมายลึกซึ้ง ลั่น จิ๊บ วสุ โรแมนติกมาก

กดติดตามไลน์ ข่าวสด official account ได้ที่นี่
เพิ่มเพื่อน

ต้องบอกว่าเป็นงานแต่งที่(คน)น้อยแต่(อลังการ)มาก สำหรับคู่ของดาราสาวแก้มป่อง จ๊ะจ๋า พริมรตา เดชอุดม กับนักร้องหนุ่ม จิ๊บ วสุ แสงสิงแก้ว หลังทั้งคู่ควงกันขึ้นไปจดทะเบียนสมรสบนเครื่องบินเจ็ตส่วนตัวระหว่างเหินอยู่บนท้องฟ้า เมื่อวันที่ 14 ก.พ.ที่ผ่านมา ท่ามกลางความยินดีของครอบครัว เพื่อนพ้อง และแฟนคลับ

ล่าสุดวันที่ 17 ก.พ. เจ้าสาวป้ายแดง จ๊ะจ๋า เปิดใจกับ ข่าวสดบันเทิงออนไลน์ ถึงโมเมนต์สำคัญในชีวิต พร้อมปรากฏการณ์งานแต่งแบบนิวนอร์มัลที่ไม่มีแขกร่วมงาน แต่เต็มไปด้วยความอบอุ่น

แสดงความยินดีกับเจ้าสาวป้ายแดง? “ขอบพระคุณมากๆ ค่ะ ตอนนี้เหมือนมันเพิ่งผ่านมาวันสองวันก็ยังไม่ชินเท่าไหร่ ยังไม่ชินกับความเป็นนาง”

ยืนยันชัดๆ อีกครั้งว่าภาพที่เห็นวันที่ 14 ก.พ.ที่ผ่านมา คืองานแต่งงาน ไม่ใช่พรีเวดดิ้ง? “แต่งงานแล้วค่า คนอาจจะคิดว่าเป็นพรีเวดดิ้งเพราะว่ารูปแบบไม่ค่อยคุ้นเคยกันเท่าไหร่ เพราะว่าไม่มีใครเลย มีแค่จ๊ะจ๋ากับพี่จิ๊บเท่านั้นเอง”

“แต่ว่าจริงๆ แล้วเราก็มีการจดทะเบียนสมรสกันบนท้องฟ้าไปเรียบร้อยแล้ว การจดทะเบียนสมรสก็เหมือนเป็นการแต่งงานอย่างเป็นทางการ เพียงแต่ในเรื่องของงานเลี้ยงฉลองเราขออนุญาตยกไปไว้ช่วงเวลาอื่นที่สถานการณ์ปกติดีกว่าค่ะ”

ทำไมถึงเลือกจัดงานแต่งบนเครื่องบิน? “ธีมงานแต่งงานของจ๊ะจ๋าเป็นเรื่องของการเดินทาง เพราะว่าตั้งแต่แรกๆ ที่จ๊ะจ๋าคบกับพี่จิ๊บมาเนี่ยเราได้เรียนรู้นิสัยใจคอศึกษากันและกันก็จากการเดินทาง เขาทดสอบจ๊ะจ๋าว่าจะสามารถเป็นแฟนเขาได้มั้ยก็จากการเดินทางทริปแรก ทีนี้หลังจากนั้นเราก็มีโอกาสได้รู้จักกันมากขึ้นจากการไปทริปต่างๆ ก็จะมี #จ๊ะจ๋าจิ๊บทริปอิตาลีเหนือ #จ๊ะจ๋าจิ๊บทริปหลังคาโลก อะไรแบบนี้”

“ทริปนี้ก็เป็นอีกทริปหนึ่งที่ทำให้เราได้ใช้ชีวิตด้วยกันก็จะเป็น #จ๊ะจ๋าจิ๊บทริปเวดดิ้งออนอะเจ็ตเพลน คือเราแต่งงานกันแล้ว แล้วก็ชีวิตมันยังไม่สิ้นสุด มันคือการเริ่มต้น แล้วก็เริ่มต้นด้วยที่ที่เราคุ้นเคยที่สุดก็คือบนเครื่องบิน”

คนบอกว่าพี่จิ๊บป๋ามากๆ เลยกับการเช่าเครื่องบินเจ็ตส่วนตัว? “ใช่ค่ะ เป็นเครื่องบินเจ็ตส่วนตัว เราไม่ได้ใช้เครื่องบินพาณิชย์ที่มีที่นั่งเยอะๆ เนื่องจากเราต้องการจำกัดจำนวนคนให้มากที่สุด พอจำกัดมากจำนวนคนก็จะเหลือน้อยที่สุด ซึ่งมันก็ตรงกับสิ่งที่เราคิดกันแต่แรกอยู่แล้วว่าสถานการณ์แบบนี้ เราจะทำยังไงให้งานแต่งงานเราเกิดขึ้นด้วยการรับผิดชอบต่อสังคมให้มากที่สุด ก็คือจำกัดจำนวนคนนี่แหละค่ะ”

“เลือกเป็นเครื่องบินเจ็ต 10 ที่นั่ง ซึ่งคนที่ไปก็ไม่เต็มหรอกค่ะ เพราะถ้าเต็มปุ๊บเราจะทำงานถ่ายทำอะไรไม่ได้ เลยมีประมาณ 6 คนบนเครื่องค่ะ ซึ่งเป็นคนสำคัญที่จำเป็นต้องมี คนที่มาสังเกตการณ์หรือมาเล่นๆ เราก็ต้องขอให้อยู่ด้านล่างมาส่งที่ครื่องบิน ทีนี้หนึ่งคนต้องทำมากกว่าหนึ่งหน้าที่ จ๊ะจ๋าเองต้องทำหน้าที่ติดสติ๊กเกอร์บนเครื่องบิน ด้านนอกถ้าสังเกตเห็นก็จะมีรูปจ๊ะกับรูปพี่จิ๊บและมีโลโก้ ตรงนั้นก็ช่วยกันติด ทุกอย่างเกิดขึ้นภายในระยะเวลาประมาณ 3 ชั่วโมง”

ทำไมถึงไม่ให้คุณแม่ของแต่ละฝ่ายขึ้นไปขึ้นไปบนเครื่องบินด้วย? “จ๊ะจ๋าให้คุณพ่อแม่อยู่ข้างล่าง เพราะเราจะเซ็นอะไรกันอยู่ข้างล่าง ด้วยความที่เครื่องบินพื้นที่จำกัด แล้วทีนี้เราก็ต้องจดทะเบียนด้วยการแข่งกับเวลาพอสมควร เรามีการถ่ายทำกันด้วย ไม่ใช่ขึ้นไปนั่งแล้วจดทะเบียนเฉยๆ มันต้องมีการเลือกมุมภาพ ถ้าสมมติว่ามีจำนวนคนเยอะเกินไป มันทำให้มุมที่จะถ่ายมันไม่อิสระก็เลยให้โฟกัสไปที่เราสองคนดีกว่า

“ส่วนคุณแม่ของพี่จิ๊บกับคุณแม่ของจ๋าก็จะมาด้วย เพราะวันนั้นจะต้องมีพยาน 2 ท่านจะต้องมาเซ็นเอกสารกัน เรียกว่ามาส่งขึ้นเครื่องบิน แล้วก็มารอรับตอนกลับ อบอุ่นมากค่ะ พอลงเครื่องมาแล้วเห็นทุกคนนั่งรอรับเราอยู่ที่เลานจ์รู้สึกน้ำตาจะไหล คุณแม่จ๋าร้องไห้เลยเพราะว่าตอนที่มาตอนแรกจ๋ายังไม่ได้ใส่ชุดขาว เพราะเขาเห็นจ๋าเดินลงมาจากรถสนามบิน คุณแม่แบบนี่ลูกเราออกเรือนแล้วเหรอ เขาก็น้ำตาซึม”

เรียกว่าเป็นนิวนอร์มัลสุดๆ? “ตั้งใจให้เป็นนิวนอร์มัล ตั้งใจให้เป็นงานที่ไม่กระทบกับความรู้สึกในเรื่องของความปลอดภัยด้านสุขภาพของทุกๆ คน”

การแต่งงานใช้เวลาทั้งหมด 3 ชั่วโมงเหรอ? “ใช่ค่ะ อยู่บนภาพพื้นดิน 2 ชั่วโมง อยู่บนน่านฟ้าประมาณ 1 ชั่วโมง ระยะทางก็จากกรุงเทพฯ ไปอ.หัวหิน พอขึ้นไป 10 นาทีแรกทุกคนจะต้องนั่งประจำที่ ทีนี้ก็จะมีเวลาอีก 10 นาทีสำหรับการจดทะเบียนสมรส นายอำเภอก็จะบอกเราถึงขั้นตอนว่าหลังจากนี้จะต้องเป็นยังไงก็จะอ่านข้อความที่สลักหลังให้เราฟังทั้งหมด แล้วก็ให้เราเซ็นรับทราบ”

“ทุกอย่างจบใช้เวลาประมาณ 10 นาที หลังจากนั้นเครื่องก็ต้องแลนดิ้งแล้ว เท่ากับจบพิธีตรงนั้น จริงๆ ก็คือรวมทั้งหมดประมาณ 30 นาที ซึ่งเป็นเวลาที่เราคำนวณไว้แล้ว เสร็จแล้วตอนขากลับเป็นช่วงถ่ายทำวิดีโอและภาพนิ่งต่างๆ เพิ่มเติม”

มีฤกษ์แต่งงานไหม? “ฤกษ์แต่งงานของจ๋าคือเวลา 14.29 น. เป็นช่วงที่เครื่องบินเทกออฟจากกรุงเทพฯ ไปหัวหิน ฤกษ์นี้ก็ไม่ได้เป็นฤกษ์ที่ดูพิเศษนะคะ แต่เป็นฤกษ์สะดวกของเราสองคน 14 เป็นวันที่คุณพ่อคุณแม่พี่จิ๊บได้แต่งงานกัน ส่วน 29 คือวันเกิดของเราสองคนเกิดวันเดียวกัน”

แต่งงานวันเดียวกับคุณพ่อคุณแม่พี่จิ๊บเลย? “ใช่ค่ะ มันเป็นเหตุผลที่เราเลือกวันนี้ เพราะว่าคุณพ่อคุณแม่พี่จิ๊บก็แต่งงานกันมา วันที่ 14 ก.พ.ปีนี้เป็นวันที่ท่านทั้งสองแต่งงานกันครบรอบ 58 ปี เพียงแต่ว่าคุณพ่อพี่จิ๊บเสียไปแล้ว พี่จิ๊บก็เลยบอกว่ามันเป็นความหมายที่ดีเพราะว่าครองรักกันจนตายจากกัน ทีนี้ก็เป็นมงคลสำหรับเราด้วยที่เราใช้วันแต่งงานของคุณพ่อคุณแม่เป็นวันแต่งงานของเรา”

“คุณแม่จ๊ะจ๋าเองก็เห็นด้วย เพราะคุณแม่จ๋าก็รักและเคารพคุณแม่พี่จิ๊บมากๆ เห็นว่าเป็นวันมงคลแบบนี้คุณแม่ก็ไม่ขัดข้องเลย เห็นดีเห็นงาม 14 ก็ 14 ดีเหมือนกัน คือคุณแม่จ๋าเขาก็ชอบอะไรที่โรแมนติกเป็นวันแห่งความรัก วันที่ทุกคนทั่วโลกบอกรักกัน เป็นวันที่มีแต่พลังบวกค่ะ ส่วนเลข 29 คือเป็นเลขวันเกิดของจ๊ะจ๋ากับพี่จิ๊บ เกิดวันเดียวกันแต่คนละเดือน ซึ่งจ๋าว่ามันก็เหมือนเป็นพรหมลิขิต ใครจะมาเกิดวันเดียวกันแล้วเป็นแฟนกันอะไรอย่างเนี้ยค่ะ”

ถือว่าเป็นงานแต่งงานของดาราไทยงานแรกเลยไหม ที่มีคนอยู่ในงานแต่งน้อยขนาดนี้? “(หัวเราะ)เป็น 6 คนที่ไม่ใช่แขกด้วย เป็นคน 6 คนที่เป็นทีมงาน จริงๆ จ๋าก็อยากให้มีคนมาร่วมกันเยอะๆ เราอยากให้มันเป็นวันที่ทุกคนได้มาเฉลิมฉลองกับเรา แต่ว่าด้วยข้อจำกัดเรื่องของสถานการณ์โควิด ถ้าเกิดเรายังคงยืนยันที่จะจัดงานแบบนั้นจ๊ะจ๋าก็ไม่แน่ใจว่าเราจะได้รับความสุขได้รับพลังบวกเต็มที่แบบนี้หรือเปล่า”

“แต่เราจัดงานแบบนิวนอร์มัลซึ่งเป็นงานเล็กๆ เรียบง่ายอบอุ่น แล้วก็แบ่งปันภาพของความสุขกันแบบนี้ จ๋าว่ามันเหมือนการอดเปรี้ยวไว้กินหวาน วันนี้เราจัดแบบนี้เล็กๆ ไม่ได้หมายความว่าเราจะไม่มีงานเฉลิมฉลอง จ๋ากับพี่จิ๊บเองก็คุยกันว่าหลังจากที่สถานการณ์โควิดผ่านพ้นไปให้เรามั่นใจสักระยะหนึ่ง เราก็จะงัดขึ้นมาเพื่อเป็นการเฉลิมฉลองค่ะ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นจ๋าก็คิดแผนสำรองเอาไว้ถ้าเกิดในกรณีที่คนมารวมตัวกันเยอะๆ ไม่ได้ก็อาจจะต้องแบ่งเป็น 2 ส่วน คือส่วนของผู้ใหญ่กับส่วนของวัยรุ่นเพื่อนฝูง เดี๋ยวรอดูสถานการณ์อีกทีค่ะ”

2 ปีที่แล้วที่คิดไว้คือไม่ใช่รูปแบบงานแบบนี้แน่นอน? “ไม่ใช่เลยค่ะ อีกร่างหนึ่งเลย เมื่อ 2 ปีที่แล้วโอ้โห! เป็นสเกลที่ไม่ใช่แบบนี้เลย ยิ่งใหญ่มีอะไรต่างๆ นานา แต่ตอนนี้ถ้าจะจัดแบบนั้นมันอาจจะไม่เหมาะเท่าไหร่”

“ในขณะเดียวกันเราก็ไม่สามารถให้สถานการณ์มามีผลกับชีวิตของเรา 100% ได้ โลกมันเปลี่ยนเราก็ต้องเปลี่ยนตามโลก เพื่อให้ตัวเราก็ยังสามารถจัดงานแต่งงานของเราได้โดยที่ไม่กระทบกับอย่างอื่น จ๋ารู้สึกว่าเราเลือกได้ เราไม่จำเป็นจะต้องให้โควิดมาทำให้เราแต่งไม่ได้เลย จริงๆ มันทำได้ แค่เราต้องหาวิธีที่มันเหมาะเท่านั้นเอง”

เคยคิดไหมว่าในชีวิตจริงจะได้มาแต่งงานบนฟ้าแบบนี้? “ไม่เคยค่ะ ความคิดนี้จ๋าก็ไม่เคยเห็นเลยนะ แต่ความคิดนี้ต้องขอบคุณพี่จิ๊บมากๆ เขาบอกว่าพี่จะแต่งงานบนเครื่องบิน ห๊ะ! เครื่องบินเหรอ? ทำไมต้องเป็นเครื่องบินอ่ะ? เขาบอกว่าเครื่องบินมันเป็นที่อยู่ของดวงดาวไม่ใช่เหรอ ว้ายยย(ยิ้มเขิน) คือเขาโรแมนติกมาก ดีจังเลยเนอะท่ามกลางท้องฟ้ามันเป็นที่อยู่ของดวงดาว ซึ่งเราเองอยู่ในวงการบันเทิงแล้วก็เป็นสตาร์อยู่แล้ว เราเป็นดวงดาวกันทั้งคู่”

“แต่เรื่องของสถานการณ์ทำให้พื้นที่ที่เราจะต้องใช้มันก็เป็นพื้นที่เล็กๆ ซึ่งมันก็เป็นไปได้ ทีนี้มันทำให้จ๋ารู้เลยว่าทุกสิ่งทุกอย่างมันสามารถเกิดขึ้นได้ถ้าเราตั้งใจที่จะทำให้มันเกิด ตื่นเต้น ตอนแรกที่ก้าวขึ้นไปบนเครื่องบินมันรู้สึกแบบใช่เหรอ มันมีจริงเหรอ”

“ทุกทีเราขึ้นเครื่องบินมันคือการเดินทางไปเที่ยว ไปทำธุระ ไปจากที่หนึ่งไปอีกที่หนึ่ง แต่การเดินทางก้าวนี้มันคือการเดินทางไปสู่ชีวิตคู่ ซึ่งมันมีความหมายที่ลึกซึ้งมากๆ สำหรับตัวจ๊ะจ๋าและพี่จิ๊บเอง รู้สึกว่าพี่จิ๊บมีความคิดที่สุดยอดเลย…ก็ชอบเลย(หัวเราะ)”

ตัดสินใจแล้วว่าจะเปลี่ยนนามสกุลและเปลี่ยนคำนำหน้าชื่อด้วย? “ตอนแรกก็ไปคุยกับเจ้าหน้าที่ก่อน คือต้องมีการเตรียมเอกสารใช่มั้ยคะ ต้องมีการสอบถามกันล่วงหน้าว่าเราจะเป็นอะไร เขาบอกว่าคุณมีสิทธิ์เลือกนะว่าจะเป็นนางหรือนางสาว มีสิทธิ์เปลี่ยนนามสกุลหรือไม่เปลี่ยนก็ได้ หรือจะให้ฝ่ายชายเปลี่ยนมาเป็นฝ่ายเราก็ได้ หรือจะมีนามสกุลกลางก็ได้ได้หมด เพราะว่าเดี๋ยวนี้สิทธิเสรีภาพเปิดกว้างมากสำหรับผู้หญิงผู้ชายในความเท่าเทียม”

“จ๋าก็หันไปมองหน้าพี่จิ๊บ พี่จิ๊บเขาก็แบบก็แล้วแต่ จ๋าก็รู้สึกว่าขอบคุณที่พี่จิ๊บให้เกียรติจ๋ามาตลอด แล้วก็ขอบคุณครอบครัวพี่จิ๊บที่ให้ความรักความเอ็นดูจ๊ะจ๋ามาตลอด การที่จ๋าแต่งงานกับเขาแล้วจ๋าก็ยินดีจะใช้นามสกุลเขา มันเหมือนจะให้เกียรติเขากลับ แล้วก็มันเหมือนเป็นความรู้สึกที่ว่าจ๋าจะรักษาชื่อเสียงที่ตระกูลของเขาสร้างมาไว้ในการดูแลของจ๋าให้ดีที่สุด”

“จ๋าก็เลยตัดสินใจว่าโอเคจ๊ะจ๋าจะเปลี่ยนนามสกุล แล้วก็จะเปลี่ยนคำนำหน้าด้วย เพื่อให้มันเป็นการให้เกียรติซึ่งกันและกันอย่างสมบูรณ์แบบ ซึ่งคุณแม่ของจ๋าเองก็คิดไว้อยู่แล้วว่าควรจะทำแบบนี้ตามธรรมเนียมโบราณเพราะว่าคุณแม่จ๋าตอนแต่งงานก็เปลี่ยนไปใช้นามสกุลคุณพ่อ แล้วก็เปลี่ยนเป็นนางด้วย เลยถือว่าทุกคนเห็นด้วย รอแค่จ๋าตัดสินใจ พอจ๋าตัดสินใจแบบนี้ปุ๊บทุกคนก็ยินดีด้วย”

เรียกว่าเป็นปรากฏการณ์ใหม่ของการแต่งงานที่น้อยครั้งจะได้เห็น? “ใช่ค่ะ ตอนนี้คือจ๋าว่าสถานการณ์แบบนี้ใครที่เลื่อนการแต่งงานเนี่ย จริงๆ ไม่เลื่อนก็ได้นะ แค่ทำในแบบนี้ ไม่หวงลิขสิทธิ์เลยสามารถทำได้”

แต่พอไปจัดกันบนเครื่องบินก็อาจจะมีบางคนมองว่าโอเวอร์ไปหรือเปล่า? “ต้องขอบคุณสำหรับทุกความคิดเห็นเลยนะคะ แต่ว่าจ๋าคงไม่ได้แต่งงานอีกแล้ว ในชีวิตของจ๋านี่คือครั้งเดียวในชีวิต จ๋าขอบคุณพี่จิ๊บมากๆ ที่เลือกในสิ่งที่ดีที่สุดให้จ๊ะจ๋าในวันพิเศษวันนี้ อาจจะมีคนอื่นที่ดีมากกว่านี้ ใช้จ่ายเงินมากกว่านี้ สำหรับจ๊ะจ๋าแค่นี้มันก็ดีมากแล้วค่ะ เพียงพอแล้ว ต้องขอบคุณพี่จิ๊บจริงๆ ที่เขาคิดทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อทำให้เรา”

แล้วงานฉลองที่วางเอาไว้เป็นธีมแบบไหน? “ครั้งต่อไปก็เป็นธีมการเดินทางเหมือนกัน เป็นการเดินทางที่ไม่ใช่เครื่องบินแล้ว จะเป็นการเดินทางด้วยยานพาหนะอะไรต้องติดตามนะคะ บอกนิดนึงว่ามันเป็นการเดินทางที่มาจากทริปล่าสุดของเราเกี่ยวกับหลังคาโลกเหมือนกัน บอกแค่นี้ดีกว่าเดี๋ยวเวลาจริงจะไม่ตื่นเต้น”

ดูข่าวต้นฉบับ

ที่มา : https://www.khaosod.co.th/entertainment/news_5976603
ขอขอบคุณ : https://www.khaosod.co.th/entertainment/news_5976603