ออกัส วชิรวิชญ์ กับความฝันอยากเป็นนักกีฬาทีมชาติ แต่เจอทางตันจนพังทลาย


ให้คะแนน


แชร์

จากนักเทนนิส สู่ ความฝันอยากเป็นนักสนุกเกอร์

“รู้สึกว่าตัวเองเปลี่ยนไปเยอะ ตอนนั้นเคยเกลียดกีฬาเทนนิส แต่ตอนนั้นพอมองกลับไปอยากขอบคุณมันมากกว่าที่มันสอนอะไรเราหลายๆ อย่าง ทำให้เรามีเป้าหมายในชีวิต รู้จักแพ้ รู้จักชนะ และทักษะต่างๆ มันเอามาใช้ได้ การตัดสินใจในชีวิตและทางด้านวงการบันเทิงด้วย ได้จากเทนนิสนี่แหละ

ทุกวันนี้ว่างๆ ก็มีกลับไปเล่นครับ แล้วก็เรามีงานที่ไปลาคลอสที่ฝรั่งเศส ได้ไปดูระดับโลกแข่ง กลับมาก็ว่าจะไปแข่งเทนนิสเลย กลับมาซ้อมแต่มีปัญหาเจ็บหลังล่าง หมอนรองกระดูกเคลื่อนเลยทำให้รู้ว่ากลับไปแข่งคงสู้เขาไม่ได้แน่นอน

เลยกลับไปเปลี่ยนเป็นกีฬาที่ชอบอีกอย่างหนึ่งคือ สนุกเกอร์ เรายังรักกีฬาอยู่ปีนี้เลยว่าถ้ามีโอกาสก็จะลงแข่ง แต่ติดโควิดก่อน เลยคิดว่าบาลานซ์มันให้ได้ ชอบทั้ง 2 อย่างทั้งวงการบันเทิงและกีฬาสนุกเกอร์”

เลิฟซิค เดอะซีรีส์ นำพาให้รู้จักคำว่า คู่จิ้น

“ในเลิฟซิคเดอะซีรีส์ ผมเล่นเป็นคนชื่อ พีท เป็นรองประธานชมรมเชียร์ แล้วจะมีประธานชมรมเชียร์ก็จะอยู่ด้วยกันตลอด คนนั้นก็เป็นผู้ชาย ไม่ได้มีจิ้นอะไรเลยนะ แต่เป็นซีรีส์วายเรื่องแรกของประเทศ ก็จะมี กัปตัน-ไวท์ และกัสกับเงิน (เงิน อนุภาษ เหลืองสดใส) ซึ่งจริงๆ กัสกับเงิน ไม่ได้มีคู่จิ้นเลย แต่ด้วยความที่มันอยู่ด้วยกันตลอด

และแฟนคลับก็ชอบแคปลงในทวิตเตอร์และคนรีทวีตกันเป็นพัน ซึ่งเยอะมากเราก็งงเหมือนกัน เขาแคปภาพที่เรา 2 คนอยู่ด้วยกันตลอด แล้วมามโนไปเอง กลายเป็นว่าผู้กำกับต้องมาทำเป็น เลิฟซิค 1.2 แล้วก็กลายเป็นซีซั่น 2 กล้ายเป็นจิ้นกันเฉยเลย กัปตัน-ไวท์ กัส-เงิน พอออกงานทีก็จะเป็นคู่ 4 คน เหมือนผู้กำกับเห็นเลยสร้างเรื่องขึ้นมาให้เลย

จากไม่รู้เรื่องอะไรเลยไม่มีคนรู้จัก แต่จริงๆ ตอนที่เล่นซีรีส์ก็ยังมีแค่วัยรุ่น พอเราเข้าช่อง 3 ก็เป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น กลายเป็นหลายกลุ่มที่รู้จักมากขึ้น จำได้ว่า ละครเรื่องแรกที่เล่นกับช่อง 3 คือเรื่อง ลับ หลัง Be Hide The Sin ของค่ายบรอดคาซท์

แล้วก็ ตะวันยอแสง ที่พี่ป๋อ ณัฐวุฒิ กับพี่น้ำตาล พิจักขณา ครับ แต่ก็ผ่านมาได้นะ เพราะที่ผ่านมาเป็นซีรีส์วัยรุ่น แต่อันนี้กลายเป็นว่าเราต้องเล่นหลายช่วงวัย เล่นตั้งแต่เด็กจนๆ จนเริ่มเรียน เรียนเสร็จเป็นตำรวจในเรื่องเดียวแต่หลายวัยก็ยากมากๆ โดนเคี่ยวเข็ญเยอะเหมือนกัน”

กรงกรรม แจ้งเกิดชื่อของ ออกัส วชิรวิชญ์ 

“คือเรื่องนี้ ตอนนั้นได้คนอื่นมาเล่นครบทุกบทแล้ว แต่เหลือบทของ อาสี่ ลูกชายคนเล็กของบ้านแบ้ อย่างเดียว เขาเรียกเราไปแคสต์คนเดียว แต่เราก็ไม่รู้ว่าได้รึเปล่า แต่เขาบอกว่าวันนี้เขาเรียกมาคนเดียว พี่แดง ธัญญา เขาเป็นคนดู แล้วพอเราเล่นกับ พาย รินรดา พอเล่นด้วยกันก็ดีเลย

วันนั้นฟิตติ้งเลยรู้ว่าเราได้แล้ว เขาก็บอกว่าเราได้ตัว อาสี่ แล้วนะ ทุกคนเขาฟิตติ้งกันแล้ว 3 คน พี่เจมส์ พี่เพ็ชร พี่แชมป์ เราอยู่ห้องแคสต์ เขาก็บอกว่าเอาออกัสเลย เขาก็บอกว่าได้อาสี่แล้วเปลี่ยนชุดเข้าไปถ่ายก็เป็นภาพนั้นเลยที่ลงโปรโมต”

“ตอนที่ อาสี่ ออนแอร์ไป เริ่มที่จะมีบทเยอะขึ้นก็รวมถึงตอนที่ตายก็พีคสุด ไปไหนทุกคนรู้หมดเลย ออกจากบ้านไปซื้อของคนเดียว คนก็ทักบอกว่า เอ้าตายแล้วไม่ใช่เหรอ ทั้งพนักงานคนที่เดินซื้อของ กลายเป็นคนรู้จักเราหมดเลย เหมือนเป็น ส.ส. เลย เราก็ตกใจว่าคนดูกรงกรรมเยอะจริง แปลว่าเป็นที่จดจำ ซึ่งตรงนี้เราก็ต้องขอบคุณพี่ใหม่ เจริญปุระ มากที่เขาเล่นตอนลูกชายตาย เขาเล่นถึง ทำให้คนดูจดจำซีนนั้นว่า อาสี่ตายเพราะพี่ใหม่ เราก็ให้เครดิตพี่ใหม่ตลอด”

“ตอนที่ถ่ายกรงกรรมก็มีหนังนะครับ พี่นาค 1 พี่นาค 2 ก็มีซีรีส์ของต่างประเทศหรือหนังที่ถ่ายไปแต่ยังไม่ได้ออน แล้วก็ แม่ครัวคนใหม่ กับ ยมทูตกับภูตสาว ที่กำลังถ่ายอยู่ตอนนี้ คือผมทำงานมาตลอดช่วงที่ผ่านมาก็ประมาณ 15 เรื่องแล้ว หลายคนอาจจะไม่รู้ ถ้ารวมหนัง ละคร ซีรีส์ 15 เรื่องที่เล่นไปก็ถือว่าทำงานตลอด แล้วอีเวนต์วันละ 2-3 งาน ประมาณ 2-3 เดือนได้”

คุณแม่ช่วยผลักดันในการเข้ามาทำงานในวงการ

“เราเป็นลูกคนเล็ก มีพี่ชายกับพี่สาว พ่อแม่น่าจะตามใจที่สุด เพราะว่าพี่ชายอยากเป็นนักเทนนิสเหมือนกัน แต่ไม่ได้เป็น แล้วพอเราอยากเป็นนักเทนนิส พ่อแม่กลับอนุญาตให้เป็น ตามใจพอสมควรแต่ไม่ได้สปอยล์ขนาดนั้น

ตอนเด็กผมเป็นเด็กขี้แกล้ง แต่ถามว่าดื้อไหม ดื้อปกติครับแต่ไม่ได้เกเร เขาให้เรียนก็เรียน แต่เรียนไม่ได้เก่ง แต่ไม่เคยทำอะไรให้เขาเสียใจ ไปทางกีฬา เพราะซ้อมเทนนิสมาตั้งแต่ ม.1 เลิกเรียนคุณแม่ก็มารับไปซ้อมเทนนิสทุกวัน ตอนนั้นเรามีความมุ่งมั่นสูงมาก เลยไม่ได้ออกนอกลู่นอกทางเลยครับ”

“การที่คุณแม่เคี่ยวเข็ญให้เราเข้ามาทำงานในวงการบันเทิง ผมว่าเขาภูมิใจแหละ แต่ที่บ้านเราเขาจะไม่ค่อยแสดงออกมากเท่าไร จะไม่พูดหวานๆ ว่าแม่ดีใจมากเลยนะ แต่แม่เหมือน FC ตามดูทุกผลงาน คอยติดตาม คอยดู มีเล่นไอจีเล่นเฟซบุ๊กก็มาคอมเมนต์บ้าง เป็น FC ประมาณนั้นมากกว่า

แต่ผมก็ไม่เคยถามนะว่าทำไมอยากให้เข้ามาอยู่ในวงการบันเทิง แต่เราว่าแม่น่าจะชอบอยู่พอสมควร เพราะแม่ประกวดอะไรก็ได้ที่ 1 ตลอด แม่มาโม้ตั้งแต่เด็กๆ เลยว่าจะได้เข้าวงการเหมือนกัน แต่ว่ามันไม่แน่ไม่นอนเขาเลยเลือกไปทำงานอย่างอื่นแทน เลยไม่ได้เข้า เขาคงจะมองว่าโอเคนะ แต่เราไม่ได้สนใจเล่นแต่กีฬา”

“ตอนนี้ผมเรียนจบแล้ว ทำงานอย่างเดียวครับ เราหนีเรียนมาตั้งแต่เด็ก เป็นคนไม่ได้เรียนเก่ง แต่โชคดีที่คุณแม่ใจดีที่มองว่าเราถนัด และชอบกีฬาให้ไปทางด้านกีฬาด้วยแต่แค่ไม่เสียการเรียน ทำควบคู่กันไปด้วย ผมจบวิทยาศาสตร์การกีฬาและการพัฒนากีฬา สหเวชศาสตร์ สาขาการจัดการกีฬาก็เกี่ยวกับกีฬาทั้งนั้นที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ผมใช้โควตาเทนนิสเข้า แล้วก็มีสอบข้อเขียนกับเน้นปฏิบัติ”

วงการบันเทิงช่วยเปลี่ยน

“วงการบันเทิงเปลี่ยนเยอะเลยแหละ จากคนที่ขี้อาย ตอนนี้ก็ยังขี้อายแต่ว่ากล้ามากขึ้น เพราะด้วยความที่เป็นอาชีพ เป็นงาน เราจะไม่กล้าก็ไม่ได้ เราจะต้องทำ และเราก็ต้องมีความรับผิดชอบมากขึ้น เราว่าเป็นความเสียสละเวลาวัยรุ่นของเรามันหายไปนะ ไม่ได้ไปกับเพื่อนบ้าง บางโมเมนต์เราก็ไม่ได้ไปสนุกกับเพื่อน เราต้องทำงาน ก็ทำให้เรามีความรับผิดชอบและโตกว่าเพื่อนๆ ได้เรียนรู้อะไรมากกว่าเพื่อนๆ ในการทำงานได้เรียนรู้ทุกวันเหมือนโตขึ้นทุกปี”

“ตอนนี้คิดว่าทำไปเรื่อยๆ เพราะเรามีทักษะด้านการแสดง เราได้เรียนรู้มาเยอะแล้ว ตอนนี้ก็กำลังสนุกกับการพัฒนาตัวเอง แต่ก่อนยอมรับว่าก็ทำตามประสบการณ์ ไม่ได้หาวิชาเพิ่ม ซึ่งตอนนี้ศึกษาเกี่ยวกับการแสดงมากขึ้น พัฒนาตัวเองทุกๆ วัน ก็มีความสุขแล้วกับการที่ได้ไปถ่ายแล้วได้พัฒนาตัวเอง มีความสุขกับการทำงาน”

พระเอกละครเรื่องแรก แม่ครัวคนใหม่

“ถ้าเป็นละครเย็นก็คือเป็นพระเอกเรื่องแรก ดีใจครับ ขอบคุณพี่อุ๊ที่ไว้ใจ การเป็นพระเอกเรื่องแรกก็ทำให้รู้ว่ามันก็กดดัน เครียดเหมือนกัน กดดันไม่ใช่ง่ายๆ เพราะคนจะดูไม่ดูก็ขึ้นอยู่กับเราเยอะเลย ถ้าเราทำได้ไม่ดี เข้าไม่ถึงบทเขาก็ไม่อยากดู ซึ่งต้องทำการบ้านเยอะ ความรับผิดชอบก็มากขึ้น

ตื่นเต้นและกดดันเหมือนกัน เพราะว่าเราถ่ายจบไปสักพัก แล้วก็เป็นเหมือนเรื่องแรกด้วย มันเหนื่อยจริงๆ ตอนถ่ายกันวันหนึ่ง 20 กว่าซีน เราทำงานแข่งกับเวลา บางทีก็ไม่รู้ว่าเราทำพลาดไปตรงไหนบ้างคนจะไม่ชอบตรงไหนบ้าง ก็มีคิดและเครียดเหมือนกัน แต่อยากให้ลองดู รอลุ้นเหมือนกันว่าคนจะชอบไหม เพราะว่าเนื้อเรื่องที่อ่านก็สนุก คนดูน่าจะมีความสุขไปกับเรื่องนี้

ถามว่า พร้อมมั้ยสำหรับคำว่าพระเอก พร้อมนะ เพราะว่ารู้สึกว่าเราพัฒนามาเยอะแล้ว ตอนนี้ที่ถ่ายอยู่ ต่อไปนี้อาจจะรับทีละเรื่อง เพราะว่ามันจะโฟกัสกับเรื่องนั้นได้เต็มที่ ซึ่งเรื่องนี้ก็เสียวนิดหนึ่ง เพราะว่าถ่าย 2 เรื่อง ต้องถ่ายหนังอีก แต่ก็เต็มที่ไม่รู้ว่ามันสุดแค่ไหนเปรียบเทียบกับการถ่ายเรื่องเดียว”

ตอนนี้ยังโสด เพราะคนที่ใช่มันหายาก

“จะบอกว่าคนที่ใช่มันหายาก คนที่เข้ากับเราได้ เคมีตรงกันจริงๆ มันหายากมาก ก่อนหน้านี้เราก็มีลิสต์ไว้บ้างว่าชอบสเปกแบบไหน เราชอบคนผอม ตัวเล็ก ขาเล็ก อันนี้คือสเปกส่วนตัวเลย ก็คือเคยเจอแบบนั้นแต่ว่าถ้ามันเข้ากันไม่ได้ สุดท้ายแล้วมันอาจจะอยู่ที่ความเข้ากันได้ นิสัย ทัศนคติที่มันสำคัญที่สุด

เราคิดว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดคือความเข้ากันได้ เราก็ไม่รู้เลยว่าจะเป็นใครตอนนี้เลยไม่มีเลย แล้วสเปกที่ลิสต์ไว้ก็เหมือนจะไม่เป็นไปตามนั้นแล้ว มันคงเป็นความสบายใจมากกว่าที่ทำอะไรก็เข้ากันได้ อยู่ด้วยกันเคมีเข้ากัน มีความสุขก็พอแล้ว

แต่ตอนนี้ไม่ได้โฟกัสเรื่องนั้นมากเท่าไร เริ่มกลับมา Black to basic มากกว่า อยู่กับตัวเอง พัฒนาตัวเอง มีความสุขกับตัวเอง แล้วก็อยู่กับครอบครัว เลยไม่รู้ว่าจะตามหาให้เครียดทำไม ถ้ามาคงมาเอง หรือเราเจอเราอยากทำความรู้จัก เลยไม่อยากฟุ้งซ่านอยู่กับครอบครัว ตั้งใจทำงานมากกว่า ยิ่งเราตามหายิ่งไม่เจอยิ่งปวดหัวเปล่าๆ เราขอทำตรงนี้ให้ดีก่อน อยากให้เขาเข้ามาแหละ แต่ไม่เข้าก็ไม่เป็นไร เราก็มีความสุขกับตัวเองได้”

ขอบคุณทุกคนที่ติดตาม

“อยากจะบอกคนที่รู้จักเราอยู่แล้วว่าขอบคุณมากๆ มีหลายคนเลยนะที่ตามผมมาตั้งแต่เลิฟซิค เขาเรียนอยู่ เขาเข้ามหาวิทยาลัยพร้อมเรา จนเขาทำงานพร้อมเรา อยู่ตั้งแต่เข้ามา เรียกว่าโตมาด้วยกัน คอยซัพพอร์ตกัน สนิทกันจนเหมือนญาติกันไปแล้ว

สำหรับคนที่ไม่เคยรู้จักเราเลย ก็อยากจะให้ลองดูละครเรื่องใหม่ แม่ครัวคนใหม่ ทางช่อง 3 เราเป็นคนที่ตั้งใจเต็มที่ แล้วอยากให้ทุกงานออกมาดี เชื่อว่ามันสนุก ถ้าได้ดูเรื่องนี้คิดว่าทุกคนจะสนุกไปกับเนื้อเรื่องแล้วมีความสุขได้รอยยิ้มแน่ๆ จากโรแมนติกคอมเมดี้ เรื่องแม่ครัวคนใหม่ครับ”.

ผู้เขียน : โอ้ว…ซาร่า

กราฟิก : Sriwon Singha

ช่างภาพ : เอกลักษณ์ ไม่น้อย

ดูข่าวต้นฉบับ

ที่มา : https://www.thairath.co.th/entertain/news/2041315
ขอขอบคุณ : https://www.thairath.co.th/entertain/news/2041315