“ซาร่า” เหนื่อยรัก “คริสเตียน” ทนคบเพราะไม่เห็นด้วยตา เลื่อนแผนวิวาห์ไม่มีกำหนด
“ซาร่า” รับยังคบ “คริสเตียน” แต่เลื่อนแพลนแต่งงานอย่างไม่มีกำหนด รับเหนื่อยกับความรัก ต้องรับรู้อะไรบางอย่าง เผยมีผู้หวังดีคาบข่าวมาบอกอยู่เรื่อยๆ รับไม่ได้ผู้ชายเจ้าชู้ แต่ไม่เห็นด้วยตา ให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ พ้ออาจเหมาะสถานะซิงเกิลมัม ครอบครัวฝั่ง “ไมค์ พิรัชต์” ตามใจ หากอยากส่งลูกไปเรียนอังกฤษ
รักเงียบๆ จนคล้ายจะเลิกรากันไปพักใหญ่ๆ หลังเหตุการณ์แชตหลุดที่ระบุว่า “หนุ่มคริสเตียน” คุยกับผู้หญิงอื่่น แต่ล่าสุด “ซาร่า คาซิงกินี” ก็โพสต์ภาพกุมมือผู้ชายจนทำให้ชาวเน็ตสงสัยว่าอาจคืนดีกับหนุ่มคริสเตียนแล้วหรือเปล่า โดยสาวซาร่าเปิดใจกลางงาน Charity Afternoon Tea ณ ร้านจันทร์เจ้า แอนทีค สโตร์ ชั้น G เพนนินซูล่า พลาซ่า ราชดำริ ยันคบกันปกติ แต่ก็รับไม่ได้กับผู้ชายเจ้าชู้
“ตอนนี้ทุกอย่างก็ยังปกติดีค่ะ ก่อนหน้านี้ที่มีแชตหลุดว่าเขาไปคุยกับหญิงอื่น เรามีการคุยกันถึงเรื่องนี้ จริงๆ ทุกความสัมพันธ์ก็มีปัญหาอยู่แล้ว เราก็ได้มีการพูดคุยกันบ้าง เหตุผลที่เขาพูด เราอาจจะพูดถึงไม่ได้ แต่เคลียร์กันเรียบร้อยแล้ว ถามว่าทุกวันนี้เป็นคนรักกันอยู่ไหม ทุกอย่างปกติค่ะ”
“เราก็ไม่ติดใจค่ะ จริงๆ ก่อนหน้าที่จะมีอะไรหลุดออกมาแบบนั้น เราก็พอทราบอยู่บ้าง ก็เลยไม่ได้มีปัญหาอะไรตอนที่มีข่าวหลุดออกมา ไม่ได้รับได้กับหนุ่มเจ้าชู้ค่ะ (หัวเราะ) เราก็ไม่โอเค ถ้ามีแฟนเจ้าชู้ ถามว่าที่คบกันมา เขาเจ้าชู้ไหม เราก็ไม่รู้จะตอบยังไงดี เพราะไม่อยากตัดสินใคร ด้วยอะไรที่เราไม่ได้เห็นด้วยตา ก็ต้องใช้เวลาในการพิสูจน์อะไรหลายๆ อย่าง”
เผยผู้หวังดีคาบข่าวมาบอกเรื่อยๆ
“ถามว่าที่ผ่านมาไม่เคยจับได้ ส่วนมากจะเป็นแบบคนส่งมามากกว่า ซึ่งมีค่อนข้างเยอะ อาจเพราะด้วยความที่เราไม่ค่อยเปิดตัวแฟนด้วย พอเราเปิดตัวก็มีผู้หวังดีค่อนข้างเยอะ คนเป็นห่วงส่งมาให้เราเรื่อยๆ เราก็ถามค่ะ เราก็มีคุยกัน มีอะไรก็บอกว่ามีคนส่งแบบนี้มาอีกแล้วนะ เราก็ก็รู้สึกล่ะค่ะ ก็เป็นเรื่องที่ต้องคุยกัน”
ตอบไม่ได้ ยังไว้ใจอยู่ อยู่กันได้ทุกสถานะ ให้เวลาพิสูจน์
“ตอนนี้ตอบไม่ได้ มันต้องให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ ตอนนี้ทุกอย่างยังปกติ เราก็ยังดูอยู่ว่ามันจะเป็นยังไง ไม่ได้ลดความสัมพันธ์ค่ะ จริงๆ เราก็ไม่ได้ให้โอกาส เหมือนเราก็เป็นเพื่อน เป็นพี่ เป็นน้อง อยู่กันได้ในทุกสถานะ แล้วใช้เวลาในการพิสูจน์ดีกว่า”
แพลนแต่งงานต้องเลื่อนออกไป ต้องดูยาวๆ หวั่นลายออก ไม่โอเคจะถอยออกมา
“กว่าจะเลื่อนขั้นเป็นแฟนก็ยากนะ เพราะว่าเราก็ค่อนข้างซีเรียส ถ้าใครจะมาอยู่กับเราก็อยากให้อยู่กันไปยาวๆ ไม่อยากคบกันแค่แป๊บๆ เราเคยมีแพลนว่าจะแต่งงานกัน แต่แพลนมันก็เลื่อนออกไปอีก เราขอดูพฤติกรรมเขาก่อน ต้องไว้ใจเขาแค่ไหน มันตอบยากนะคะ มันก็ต้องใช้เวลาเป็นหลัก คนเราบางทีอยู่ด้วยกันเป็นสิบ ยี่สิบปี แล้วเพิ่งมาออกลาย เราก็ไม่รู้ ต้องดูอะไรหลายๆ อย่าง”
“มาตรการเด็ดขาดก็ไม่มีค่ะ เราเป็นคนไม่จู้จี้จุกจิก เราปล่อย ไม่ได้บอกว่าคุณต้องทำแบบนั้นแบบนี้ คือก็ปล่อยให้เขาอยากทำอะไรทำ เราก็แค่ดูพฤติกรรมไป ถ้าเราไม่โอเค ก็แค่ถอยออกมา ที่ผ่านมาเวลามีคนส่งอะไรมา ไม่ใช่ว่าไม่เชื่อ เราก็เป็นคนเหมือนนักสืบ (หัวเราะ) พอมีคนส่งมา ดูปุ๊บก็ไม่ใช่ว่าเชื่อเลย ก็ต้องไปกรองข้อมูลอีกทีหนึ่งว่ามันจริงเท็จแค่ไหน”
เหนื่อยที่จะต้องรับรู้อะไรแบบนี้
“ตอนนี้ก็มีคนส่งข่าวมาให้น้อยลงค่ะ อาจจะเพราะเราไม่ได้โพสต์อะไรเกี่ยวกับเขาแล้วด้วย หลายคนก็อาจจะคิดว่าเลิกกันแล้ว มันก็เลยทำให้คนไม่ได้ส่งอะไรมา เราเลือกที่จะอยู่เงียบๆ ของเราดีกว่า เราเหนื่อยที่จะต้องรับรู้อะไรแบบนี้เยอะๆ ตอนนี้ก็เรียกว่าคุยกันอยู่แล้วกันค่ะ แพลนต่างๆ เราก็ยังใช้ชีวิตของเราปกติในตัวของเรากับลูก แต่เรื่องของเราสองคนก็ต้องขอดูก่อน ถามว่าเลื่อนไม่มีกำหนดไหม เหมือนเราไม่ได้พูดเรื่องตรงนั้นกันแล้ว ปล่อยให้เวลามันตัดสินทุกอย่าง”
เหนื่อยกับปัญหาความรักที่เกิดขึ้นตลอดเวลา อาจเหมาะกับสถานะซิงเกิลมัม
“เหนื่อยค่ะ เรารู้สึกว่าเป็นคนดวงไม่ค่อยดีเรื่องความรักเท่าไหร่ บางทีก็คิดว่าตัวเองอาจจะเหมาะกับการอยู่เป็นซิงเกิลมัม ก็มีแว๊บเข้ามาในหัวบ้าง”
ลึกๆ อยากมีครอบครัวที่สมบูรณ์
“ถามว่าเคยดูดวงไหม เคยเชื่อมากๆ แล้วพอเราเชื่อมากๆ ทุกที่จะทักดวงความรักเราไม่ดี ไม่ควรมีคู่ แล้วเราก็คิดว่าเราต้องเป็นแบบนี้จริงๆ ใช่ไหม ลึกๆ แล้วเราก็อยากมีความรัก อยากมีครอบครัวที่สมบูรณ์”
“โดนทักแบบนี้มันก็กลัว แต่ก็เป็นคนดื้อนะคะ คืออะไรที่เขาทักที่เขาเตือน แต่เราอยากรู้ อยากเห็นด้วยตัวเอง เพราะบางทีเราก็ไม่รู้หรอกว่ามันจริงหรือไม่จริง แต่พอเราได้รู้ เราก็จะแบบ ฉันรู้แล้วแหละ ว่ามันจริงนะไม่จริงนะ อะไรแบบนี้ค่ะ”
ตอบไม่ได้หากผิดหวังกับรักครั้งนี้
“ตอบไม่ได้เลยค่ะ เพราะว่ามันไม่เจอคนที่ใช่ มันก็คงเป็นไปไม่ได้ แต่ถ้าวันหนึ่งเจอคนที่ใช่ มันก็เป็นเรื่องของอนาคตค่ะ”
มีหนุ่มแวะเวียนเข้ามา
“มีค่ะ มี แต่เราก็ชัดเจนเรื่องความสัมพันธ์ของเรากับคนที่อยู่ปัจจุบัน ก็บอกว่ามันมีปัญหานะโน่นนี่นั่น แล้วเราก็ไม่ได้พร้อมที่จะคุยกับคนใหม่อะไรขนาดนั้น เรารู้สึกว่าเป็นเพื่อน เป็นพี่ เป็นน้องกันดีกว่าค่ะ คริสเตียนก็ยังเป็นอันดับหนึ่งค่ะ”
ส่ง “น้องแม็กซ์เวลล์” เรียนเต้น เรียนการแสดง ร้องเพลง
“ซนค่ะ ดื้อ เหมือนเดิม แต่ก็เริ่มรู้เรื่องขึ้น มีพัฒนาการที่ดีขึ้น ตอนนี้ก็เริ่มส่งเขาเรียนเต้น เรียนการแสดง เรียนร้องเพลง เขาอยากเรียน เราก็โอเค ถ้าลูกชอบแม่ก็ซัปพอร์ตเต็มที่ ถามว่าไปได้สวยไหม เรื่องเต้นยังไม่ค่อยเท่าไหร่ แต่เขาชอบแอ็กติ้งมาก กับร้องเพลง ซึ่งงานในวงการ ถ้าเขาชอบเราก็ซัปพอร์ตเต็มที่ แต่ถ้าวันหนึ่งเขาไปถึงจุดๆ หนึ่ง แล้วไม่ชอบแล้ว เราก็โอเค เปลี่ยนลูก”
ยังอยากให้ย้ายไปเรียนอยู่อังกฤษเหมือนเดิม รอลงตัว ฝั่งอดีตสามีตามใจ
“ก็คอนโทรลได้ง่ายขึ้นค่ะ เราจะคุยกับเขาด้วยเหตุผล เขาก็เห็นแม่ทำงานเหนื่อยนะ ได้เงินมาเท่านี้นะ เอาไปทำนี้นะ เขาก็จะเข้าใจ แพลนตอนนี้ก็จะให้เรียนที่กรุงเทพฯ อยู่ แล้วก็ดูช่วง ยังไงก็ยังอยากให้ย้ายไปที่อังกฤษเหมือนเดิม เพราะว่าครอบครัวซาร่าอยู่ที่อังกฤษด้วย ก็ดูก่อนว่าช่วงไหนจะเหมาะกับเด็กที่ไป”
“ฝั่งคุณไมค์ (พิรัชต์ นิธิไพศาลกุล) เขาตามใจเราแหละค่ะ เพราะว่าเราดื้อ (หัวเราะ) เราจะเป็นคนเหมือนแบบ ชีวิตลูกเรา เราก็จะรู้ว่าอันไหนเหมาะ เพราะเราเลี้ยงเขาเองด้วย เราก็แค่แจ้งไปทางโน้นว่าจะมีแพลนแบบนั้นแบบนี้ เราก็โอเคทุกอย่างค่ะ คือจริงๆ อยากไปช่วงนี้ แต่ว่าคนเขาก็พูดว่าถ้าไป เราก็ต้องไปด้วย แล้วเราก็กังวลว่างานเราก็ต้องทำ เราก็ต้องดูจังหวะให้มันเหมาะสม คือเราจะต้องลงตัวประมาณหนึ่ง เราถึงจะย้ายไปอยู่ที่นั่นได้นะคะ ก็ไม่ได้ไปถาวรค่ะ แค่ให้น้องเรียนอยู่ช่วงหนึ่งค่ะ แล้วก็กลับมา”
