หนุ่ม คงกระพัน เผยจากไม่เคยเชื่อเรื่องลี้ลับ ก้าวเข้าสู่วงการ มูเตลู เต็มตัว


ให้คะแนน


แชร์

หนุ่ม คงกระพัน พิธีกรมากความสามารถ คุณพ่อลูกสาม เผยจากไม่เคยเชื่อเรื่องลี้ลับ ตอนนี้ก้าวเข้าสู่วงการ มูเตลู เต็มตัว ขึ้นชื่อเป็น สายมูตัวพ่อ

เกาะติดข่าว กดติดตาม ข่าวสด

เป็นคุณพ่อลูกสามที่ยังหนุ่มหล่อแข็งแรงฟิตแอนด์เฟิร์มอยู่ตลอด สำหรับนักแสดง หนุ่ม คงกะพัน แสงสุริยะ ที่ตอนนี้ผันตัวไปรับหน้าที่พิธีกรเป็นส่วนใหญ่ เมื่อได้มาเยือนรายการ ต้มยำอมรินทร์ ผลิตโดย CHANGE2561 ได้เผยว่าเหล่าเรื่องที่เกิดในชีวิตที่เหลือเชื่อตั้งแต่เรื่องลูกฝาแฝดที่เกิดขึ้นไปจนเรื่องราวต่างๆ ที่ตัวเองได้พบเจอได้ไปสัมผัสมาเองกับตาที่ไม่เชื่ออย่าลบลู่

หนุ่ม คงกะพัน : “ตอนนี้อายุของผมก็ 48 แล้วครับ มีลูกๆ สามคน คนโตอายุ 6 ขวบครับ จริงๆตั้งใจมีลูกสองคน แต่ปรากฏว่าเราได้แฝดซึ่งมาจากธรรมชาติด้วยครับ เพราะเราก็ไม่ได้ตั้งใจเลยเพราะว่าตอนนั้นพอตั้งท้องได้ก็ไปตรวจที่โรงพยาบาล ผมก็ถ่ายคลิปช่วงที่คุณหมอตรวจอัลตร้าซาวด์คุณหมอก็ดูขึ้นดูลงแล้วก็ทำหน้าตกใจ เราก็ถามว่ามีอะไรผิดปกติไหม คุณหมอก็ชูสองนิ้วเราก็คิดว่าเราได้ลูกชายคนที่สอง (เพราะคนโตเราก็เป็นผู้ชายแล้ว) คุณหมอก็บอกว่าไม่ใช่เราได้ลูกแฝด เราก็ตกใจตอนนั้นพอได้รู้ว่าได้ลูกแฝดภรรยาของผมร้องไห้เลย เขาคงเซอร์ไพรส์ตกใจด้วยครับ ส่วนเราก็ตกใจเหมือนกันครับ เพราะว่าครอบครัวของผมไม่เคยมีประวัติว่ามีลูกแฝดแล้วภรรยาก็ไม่มีประวัติเหมือนกัน เป็นแฝดผู้หญิงตอนนี้ 2 ขวบครึ่งแล้วครับ น่ารักมาก ซนมาก”

ได้ยินมาว่า พี่หนุ่ม ก็คือหนึ่งในสายมูตัวพ่อเลย ตอนที่ได้น้องมาไปมูที่ไหนมาก่อนไหม? “ไม่ได้มู ครับ แต่ผมมีน้องหมาตัวหนึ่งที่ผมรักมากเลยแล้วพอลูกชายคนแรกเกิดมาได้ขวบนิดๆ น้องหมาก็เสียผมก็ร้องไห้เลย ตอนนั้นเวลาไปไหนก็ขอให้เขากลับมาเป็นพ่อลูกกันอีกนะ เราคิดถึงเขามากแล้วก็ทำบุญให้เขาทุกปี พอภรรยาท้องแล้วผมก็นึกถึงเรื่องนี้ว่าเรื่องที่เราขอเทวดาให้เรามาจริงๆ ก็เลยแถมให้อีกหนึ่งหรือเปล่าอันนี้คิดเล่นๆ นะครับ แต่ว่าความเป็นจริงเป็นยังไงก็น่าจะเป็นแฝดแหละ ซึ่งเราก็ได้ถามคุณหมอว่าผมและภรรยาไม่ได้มีประวัติว่าครอบครัวของเรามีแฝดเลยทำไมถึงเกิดขึ้นได้ คุณหมอบอกว่าบางทีเรามีลูกตอนที่อายุมากเรามีโอกาสท้องแฝดได้ ซึ่งอาจจะเป็นจังหวะที่ไข่ตกพร้อมกันสองฟองแล้วก็ปฏิสนธิกันครับ ซึ่งลูกแฝดของผมเกิดจากไข่คนละฟองหน้าเขาเลยไม่ได้เหมือนกันครับ”

เมื่อก่อนก็ไม่ได้มูมากเท่าไหร่ ทำไมตอนนี้ถึงกลายเป็น สายมู ตัวพ่อของวงการบันเทิงเลย? “เมื่อก่อนผมเป็นคนที่ไม่เชื่อเลย ก็เป็นวัยรุ่นธรรมดาเลยครับ เกิด แก่ เจ็บ ตาย ซึ่งสิ่งที่ผมเชื่อก็คือเหมือนเป็นกุศโลบายของคนสมัยก่อนให้คนได้กลัวความผิดมีแบบตายแล้วตกนรก ตายแล้วขึ้นสวรรค์จะได้ทำดีโลกหน้าไม่น่ามีหรอก ผมก็เชื่ออะไรแบบนี้มาตลอด พอผมโตขึ้นมาประมาณอายุ 20 กว่าผมก็เริ่มทำรายการเดินทางไปเจอผู้คนเยอะแยะในเรื่องต่างๆ เป็นเรื่องของสายมูบ้าง เป็นเรื่องวิทยาศาสตร์บ้าง สายพุทธบ้าง ศาสนา ประวัติศาสตร์ โบราณคดีบ้างเป็นเรื่องต่างๆ ย้อนรอยในเรื่องนั้นๆ ก็ทำมาหลายปี ได้ไปเจอพระ คน อาจารย์ ด็อกเตอร์ เจอบุคคลที่มีความรู้ความสามารถมากมาย คือชอบคุยกับเขาคือเราไปนั่งคุยกับเขาเราก็ได้เรื่องราวของเขาที่เขาเล่ามาให้เราฟัง ทั้งชีวิตที่เขาได้เรียนรู้ได้ศึกษามาแล้วเขาก็นำมาถ่ายทอด เราก็มานั่งคิดวิเคราะห์ว่าอย่างที่เราไปเจอ พระเกจิต่างๆ ท่านก็ไม่โกหกท่านก็บอกเราว่ามีสิการเวียนว่ายตายเกิดมี พอเราถามหลายๆ องค์เข้าท่านก็ตอบเหมือนกัน เราก็รู้สึกว่าทำไมเราไม่เห็น เราก็ถามว่าทำไมการเวียนว่ายตายเกิดมีอยู่จริงทำไมมนุษย์สมัยก่อนมันน้อย ทำไมเดี๋ยวนี้มันเยอะทำไมมันไม่เท่ากัน หลวงพ่อท่านก็มีคำตอบที่ทำให้เรารู้สึกแบบหมดคำถามไปทีละเรื่องว่า จริงๆ การเวียนว่ายตายเกิดมีจริงๆมันเป็นสิ่งที่บางทีเรามองไม่เห็นหรอกเรื่องแบบนี้มันมีอยู่แหละเพียงแต่ว่าเราอยู่กันคนละคลื่นวิทยุกันเราเลยไม่ได้ยินเราเลยไม่ได้เห็น แต่บางทีคนที่มีคลื่นเขาเลยได้เห็นได้ยินหรือว่าคนที่ปฏิบัติจริงๆ เป็นพระที่วิปัสสนามากๆ ก็จะสามารถรับรู้เรื่องนี้ได้”

หนุ่ม คงกะพัน : “พอหลังจากที่ผมรู้ชัดแล้วก็เริ่มที่จะนั่งสมาธิบ้างทำในสิ่งที่ฆราวาสอย่างเราทำได้ ไม่ได้ถึงขั้นที่ไปธุดงค์หรือไปวิปัสสนาหลายวัน แต่ผมก็พยายามอ่านหนังสือธรรมะสิ่งที่ผมชอบคือไม่ใช่เรื่องที่วิปัสสนาจนได้ญาณชั้นสูงหรืออย่างไร แต่เราชอบเรื่องหลักธรรมคำสอนที่พระพุทธเจ้าได้สั่งสอนไว้ให้เราได้เดินทางสายกลางมาเป็นหลักคิดในการดำเนินชีวิตมาใช้ในการแก้ปัญหาในการทำงาน หรือว่าลูกซนเหลือเกิน หรืออยู่บ้านมีปัญหาโน้นนี่มากมายเรื่องนี้มันจะถูกแก้ปัญหาได้ด้วยวิธีคิดของทางพระพุทธศาสนาที่สอนเราได้ดีมาก”

แล้วในเชิงวิทยาศาสตร์ที่เราได้เดินทางไปมาทั่วทิศแล้วเคยเจออะไรที่ทำให้เราอึ้งจนทำลายวิทยาศาสตร์ของเราไปสู่อีกด้านหนึ่งไหม? “ก็เป็นปฏิปทาของพระสงฆ์ต่างๆ ครับ อย่างตอนนี้ผมทำรายการกับพี่แท่ง ศักดิ์สิทธิ์ ก็จะเดินทางไปวัดต่างๆ นานา พอเราไปวัดไปเจอเรื่องราวของหลวงพ่อในอดีตที่ท่านได้ศึกษาเล่าเรียนไปธุดงค์โน้นนี่มา อย่างล่าสุดได้ไปหลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก เรื่องราวของพระก็จะเป็นตำนานเล่าขานหลวงพ่อได้ทำอะไรมาบ้าง แต่ของหลวงพ่อจง คือเป็นจังหวะเลยมีคนถ่ายรูปเอาไว้ คือท่านเป็นพระเกจิที่เคร่งเลย ถ้าเป็นภาษาของพระคือ พุทธาคม วิทยาคมแบบสุดยอด แล้วมีอยู่ภาพหนึ่งที่ท่านไปปลุกเสกเป็นพิธีใหญ่ปีประมาณ 2400 กว่าๆ แล้วท่านก็ไปเจอกับพระอาจารย์พ่อท่านคล้าย วัดสวนขัน ท่านเป็นพระเกจิดังทางใต้ ก็เหมือนพระเกจิท่านผู้ใหญ่ทำน้ำมนต์กันเพื่อให้ปลุกเสกทำน้ำมันต์ พอพ่นออกมาก็เต็มขวด ส่วนพระอาจารย์จง ท่านพูดว่าของอาตมาไม่ต้องพ่นหรอกไม่ต้องถวายน้ำเดี๋ยวอาตมาทำเอง ท่านก็เอามือวางไว้ที่ขวดแล้วก็มีน้ำมนต์ไหลออกมาจนเต็มขวด แล้วคือในสมัยนั้นมีช่างภาพถ่ายภาพนั้นไว้ได้พอดีว่ามีน้ำไหลออกมาจากมือของท่านลงไปในขวดน้ำมนต์ เราก็เลยรู้สึกว่าตำนานต่างๆ เหล่านี้นึกว่าเป็นเรื่องเล่าว่าในอดีตหลวงพ่อเสกโน้นนี่ ไม่มีภาพ แล้วบังเอิญคืองานนั้นเป็นงานใหญ่แล้วมีภาพอยู่ทำให้เรารู้สึกว่าไม่เชื่อแต่ลบลู่ไม่ได้นะ ทำให้เราได้เห็นก็ยิ่งศรัทธา ยิ่งเชื่อ เดี๋ยวนี้พอเราไปวัดไหนก็เห็นสะสมพระทุกวันครับ”

ซึ่งเราก็เก็บพระเครื่องจริงๆ? “เก็บครับ แต่ว่าเป็นพระที่เราศรัทธาเป็นหลวงพ่อที่เราได้ไปพบเจอตอนที่เราไปทำรายการ ไม่ได้ต้องตามหาหรือเป็นเซียนพระที่ราคาสูงหรือราคาแพง”

ถ้ารวมแล้วเป็นมูลค่าเป็นร้อยล้านถึงไหม? “ไม่ถึงหรอกครับ แต่เป็นหลักล้านอยู่ครับ แต่เราคือเก็บด้วยความศรัทธาเป็นความทรงจำของเรา”

แล้วเหล็กไหลที่มีอยู่เป็นอย่างไรบ้าง? “เหล็กไหลก็ได้มาจากการที่เราไปถ่ายรายการครับ ซึ่งเหล็กไหลที่เฉียบที่สุดในเมืองไทยคืออยู่ที่เขาอึมครึม จังหวัดกาญจนบุรี คนที่เล่นเหล็กไหลต้องไปที่นั่น คือเราไปถ่ายรายการ เราก็ไปกับผู้ชำนาญทางคนหนึ่งเพราะเขาเป็นคนที่ไปหาเหล็กไหลตั้งแต่เด็กๆ ซึ่งเหล็กไหลที่เป็นแบบหัวกะทิสุดๆ เลยจะไม่มีอยู่แล้วครับ เพราะชาวบ้านไปขุดขายกันหมดแล้วที่เราได้มาคือจะเป็นหางๆ แล้วเป็นก้อนโตๆ เป็นขี้เหล็กไหล เราก็ขอขมาเพื่อเอามาที่ออฟฟิศ เพื่อที่จะทำมาถ่ายทำและเสร็จแล้วจะนำไว้เก็บบูชาที่ออฟฟิศ”

องค์ไหนที่หวงที่สุด? “ก็คงเป็นองค์ที่คุณพ่อให้มานะครับ หลวงปู่ทวด วัดช้างให้ รุ่นแรกๆ เลยครับ ซึ่งคุณพ่อเคยเล่าให้ฟังว่าคุณพ่อท่านก็ไปที่วัดเลยเช่าจากชาวบ้านข้างวัดเลยที่เขาเก็บบูชาไว้”

ฟังเรื่องพี่หนุ่ม แล้วเพลินมากเลย ถ้าอยากติดตามเรื่องราวของพี่หนุ่ม สามารถติดตามได้ช่องทางไหนบ้าง? “จริงๆ ผมมียูทูปของ บางอ้อทีวี ก็จะเป็นรายการต่างๆ ที่ผมทำ แล้วก็มีของลูกชาย Superpatt เพิ่งเริ่มทำเลยครับ เพราะลูกชายเขาอยากทำ ฝากเข้าไปติดตามด้วยนะครับ”

ดูข่าวต้นฉบับ

ที่มา : https://www.khaosod.co.th/entertainment/news_6365725
ขอขอบคุณ : https://www.khaosod.co.th/entertainment/news_6365725