‘ปุ๊กลุก’จบ‘พีพีทีวี’ด้วยดี รับงานอิสระ-ขอลองสิ่งใหม่


ให้คะแนน


แชร์

‘ปุ๊กลุก’จบ‘พีพีทีวี’ด้วยดี – สาวสวยฝีมือดี ‘ปุ๊กลุก’ ฝนทิพย์ วัชรตระกูล เพิ่งมาฝากฝีไม้ลายมือกับละคร “เล่ห์ลวง” ของทางช่องวัน 31 ให้แฟนๆ ได้หายคิดถึง หลังว่างเว้นงานแสดงมาพักใหญ่

เกาะติดข่าว กดติดตาม ข่าวสด

กระแสดีโกยเรตติ้งและคำชื่นชมไปเพียบ นับเป็นงานแสดงเรื่องแรกหลังพ้นสังกัด 7 สี มาอยู่กับพีพีทีวี แต่ละครเรื่องนี้กลับไม่ใช่ของพีพีทีวี แถมตอนนี้สาวปุ๊กลุกยังไร้สังกัด ออกมาเป็นนักแสดงอิสระ สาเหตุเพราะอะไรไปฟังจากปากเจ้าตัวกันเลย

สาเหตุที่ออกจากพีพีทีวี?

ปุ๊กลุก – “ไม่ได้ออกค่ะ เป็นการคุยกับผู้ใหญ่ ที่แจ้งว่าในอนาคตโปรเจ็กต์ละครไม่รู้จะยังไง บอกสมมติจบสัญญาตอนนี้ ยังไงได้บ้าง ผู้ใหญ่เรียกเข้าไปคุยปกติ เขาอยากจะลดจะยังไงได้บ้าง หนูก็ลดจำนวนปีลงมาเหลือปีครึ่ง จบกันด้วยดีมากๆ ทุกปัญหามีทางออก ณ วันที่เราก้าวเข้าไปอยู่ในบ้าน พีพีทีวีเป็นบ้านที่น่ารักผู้ใหญ่ทุกคนน่ารัก ไม่มีเหตุผลที่เราจะออกไปด้วยสิ่งไม่ดี สัญญาจบตั้งแต่ปีที่แล้ว มานั่งคุยหาทางออกที่แฟร์ทั้งสองฝ่าย ไม่มีเหตุอะไรที่หนูทำงานน้อยกว่าที่ตกลงกันไว้ แล้วจะได้เงินเต็มจำนวน”

เราเป็นคนที่วางแผนเรื่องการทำงานใน ระยะยาว พอเกิดแบบนี้ผิดแผนที่วางไว้ไหม?

ปุ๊กลุก – “ไม่ได้ผิดแผนไปหมด ผิดแค่ส่วนเดียว จากที่คิดไว้ว่าต้องเล่นให้พีพีทีวี ปีละ 2 เรื่อง มีเล่นเรื่องเดียว แล้วมีเรื่องจังหวะที่รอกันเกิดขึ้น ยังไงตอนที่เราเป็น นักแสดงสังกัดพีพีทีวี ตัวเลือกแรกคือต้องเป็นละครของช่อง แต่หนูมีสิทธิเล่นให้ที่อื่นได้ ดังนั้นไม่ได้ผิดแผนซะทีเดียวแค่เกิดการรอเท่านั้น ว่าจะเปิดกล้องหรือไม่เปิด แต่ระหว่างทาง การที่หนูมาคุยกับช่องวัน ถือเป็นเรื่องปกติ”

หลังจากนี้จะอิสระเต็มตัว?

ปุ๊กลุก – “ใช่ค่ะ อายุการทำงานในระดับนึง การที่เราเป็นนักแสดงอิสระมันก็มีข้อดี เรามีโอกาสเลือกสิ่งที่อยากทำจริงๆ เราอยากลองในสิ่งที่เราไม่เคยเจอ”

พอมีกรณีขวัญ (อุษามณี ไวทยานนท์) ที่ออกจากพีพีทีวีเหมือนกัน แต่เขาจบไม่สวย?

ปุ๊กลุก – “รู้ว่าต้องมีประเด็น และเราต้องถูกถามเรื่องนี้แต่ขอไม่พูดถึง เพราะดีลเราไม่เหมือนกัน ตอนที่ดีลเราย้ำชัดเจนว่าหนูต้องมีสิทธิเล่นละครของสังกัดอื่น ขณะที่อยู่ในสัญญา”

ออกมาแล้ววางแผนข้างหน้าไว้อย่างไรบ้าง?

ปุ๊กลุก – “อยากเล่นละครที่ยังไม่เคยเล่น เวลาเจอบทละครที่ดี รู้สึกมีความสุข ทุกๆ วันมีคุณค่า เหมือนเรารักในสิ่งนี้ แล้วก็ยังได้ทำในสิ่งนี้ค่ะ”

ต้องเป็นนางเอกอย่างเดียวไหม?

ปุ๊กลุก – “ต้องเป็นบทนำ อาจไม่ต้องเป็นคนดีก็ได้ มีความรู้สึกว่าไม่มีความสุข ถ้าเห็นตัวเองออกทีวีน้อยๆ เหนื่อยได้นะ แต่ขอบทที่สนุกเหมือนมีอิมแพ็กต์เวลาที่คนดูผลงานเราอาจทำงานเหนื่อยแต่ไม่ได้เห็นเราเป็นคน เดินเรื่อง ไม่ได้ใช้ความสามารถแล้วเราจะเป็นนักแสดงทำไม”

เดี๋ยวนี้นักแสดงอิสระต้องมีฉากเลิฟซีนแซ่บๆ?

ปุ๊กลุก – “เวลาเล่นเลิฟซีน ตะคริวชอบกิน คงเป็นเพราะเราเกร็งอาจเป็นสิ่งที่ไม่ถนัด ก็บอกพี่ผู้กำกับฯ ฉากร้องไห้หนูไม่มีอุปสรรคเลยนะ แต่ฉากยากคือเลิฟซีนดูดดื่มอย่างเรื่อง เพื่อน-แพง ฉากจบ พี่เวียร์ (ศุกลวัฒน์) ต้องหอมที่คอ แล้วตั้งแต่เล่นละครมา ไม่เคยโดนหอมปาก หอมคอ หอมแก้ม ฉากนั้นครึ่งตัวล่างต้องมีทีมงานดันขาอยู่ เพราะมันเกร็ง ทีมงานต้องคอยนวดขาเรา”

ไม่น่าเชื่อ?

ปุ๊กลุก – “หัวโบราณมาก คิดว่าเลิฟซีนน่าจะเล่นได้ แต่คงต้องทำการบ้านเพิ่ม ต้องทำความเข้าใจแล้วแม่หนูหัวโบราณ แรกๆ เล่นละคร แม่โกรธมาก ทำไมมีหอมแก้ม ไม่ได้เลย เปลืองตัวเราอาจได้รับการปลูกฝังมาแบบนี้”

มาเรื่องธุรกิจ หลายคนที่ออกมาเป็นอิสระ เพราะเรื่องของธุรกิจ เรามีเหตุผลนั้นรวมอยู่ด้วยไหม?

ปุ๊กลุก – “วันที่ตัดสินใจออกมา ไม่เกี่ยวข้องกับธุรกิจเลย ออกมาเพราะอยากทำอะไรที่ใหม่ๆ”

ตอนนี้ทำธุรกิจอะไรบ้าง?

ปุ๊กลุก – “มีทำ บองชา ชาไข่มุก ที่ทำกับ ไมค์ (ภัทรเดช) และพาร์ตเนอร์มีธุรกิจเครื่องสำอางที่วางขายในกัมพูชา ที่โน่นดูละครไทย เขาก็รู้จักเราซึ่งทำขายที่กัมพูชาก่อน ถ้าดีค่อยตีกลับเข้ามา”

ทำธุรกิจกับงานในวงการต่างกันเยอะไหม?

ปุ๊กลุก – “ต้องปรับตัวเยอะ เพราะตอนเป็นนักแสดง เราชินกับการใช้สมองฝั่งอารมณ์ ชินกับว่าฉันทำดีแล้ว หรือเราเล่นดีหรือยัง พลาด ตรงไหน พอไปทำธุรกิจ สิ่งที่ต้องปรับคือไปด้วยกัน ใจเย็น ไม่ใช่สั่งอะไรจะได้เสมอ การดีลงานกับลูกน้อง ดีลอย่างไรเขาจะเชื่อเรา รักเรา ทำงานด้านธุรกิจหนักมาก เพราะเวลาทำอะไรเราเต็มที่ พอทำงานกับคน หมู่มากในพาร์ตธุรกิจก็จะรู้สึกว่าทำไมไม่เข้าใจ ทำไมพูดไม่รู้เรื่อง เราต้องปรับตรงนี้ ไม่อย่างนั้นการทำธุรกิจจะทำให้เราไม่เหลือเพื่อน”

เรื่องความรักชัดเจนมาก?

ปุ๊กลุก – “หนูกับไมค์เรามีการตกลงกันไว้ คือไม่รู้ว่าอนาคตจะเป็นยังไง แต่เรารู้สึกว่าคนคนนี้ดีที่สุดแล้ว แล้วการที่เรามีเขามันก็ดี มันเหมือนเป็นการเดินช้าๆ แต่มั่นคง”

ตกลงกันว่าเราจะยังไม่ใช้คำว่าแฟน?

ปุ๊กลุก – “เราไม่อยากให้สเตตัสที่เป็นสาธารณะว่าเราเป็นใคร เรื่องที่ตามมาคือถ้าเราร่วมงานกับใคร มันจะเป็นปัญหามั้ย หึงหรือเปล่า เหมือนที่ตกลงกันคือเขาจะโฟกัสที่ความสัมพันธ์มากกว่า สิ่งที่หนูกับไมค์ชอบคืองานแสดง เวลาคนถาม อยากให้เขาโฟกัสเรื่อง การทำงาน แต่พอมีเรื่องความรัก คนก็จะถามแต่ความรัก เราเลยรู้สึกว่า ณ วันนี้เรายังไปได้อีก ยังเติบโตได้อีก เราให้คนโฟกัสที่ความตั้งใจของเรา”

“เราไม่ได้ปิดบัง แต่ให้สถานะอยู่ในจุดที่ดีต่อกัน เป็นต้นไม้ที่ค่อยๆ ลงราก เราเป็นตัวอย่างของเยาวชน วันนึงถ้าได้แต่งงานกันจริงๆ เราอยากเป็นตัวอย่างตรงเรื่องความรักไม่จำเป็นต้องหวือหวา ไม่จำเป็นต้องอวดใคร หรือเป็นมากกว่าความหวังดีที่ให้กันและกัน หนูมั่นใจว่า ถ้าเป็นเพื่อนก็สามารถเป็นเพื่อนได้ ร้อยเปอร์เซ็นต์เป็นเพื่อนที่อยู่เคียงข้าง และกล้าพูด ไม่ได้รู้สึกว่าเกร็งไม่กล้าพูด ถ้าคุณรู้สึกว่าคำพูด หรือความหวังดีของเรามันทำให้คุณไม่มีความสุข อันนั้นก็อาจ ไม่ใช่เวย์ของการที่เราจะไปด้วยกัน”

“เพราะสิ่งที่เราต้องการคือโตไปด้วยกัน เป็นเพื่อนที่เตือนกันได้ แล้วถ้ามันไปถึง จุดที่ดี จะแต่งงานก็ว่ากันไป แต่ระหว่างทางไม่อยากให้รู้สึกว่าเธอเป็นแฟนฉัน ห้ามลงรูป ห้ามทำแบบนี้ คนเป็นแฟนเขาไม่ทำกัน ไม่อยากให้มีตรงนี้เข้ามาจนรู้สึกอึดอัดค่ะ”

เวลาไมค์เล่นละคร แฟนๆ ก็จะจิ้นกับนางเอกหนัก เราไม่อยากให้ภาพนั้นของเขาหายไป?

ปุ๊กลุก – “ใช่ หนูรู้สึกว่า หนูเห็นงานเขาเยอะ แฟนคลับเขาก็ภูมิใจในการมีคู่ของเขา หนูรู้สึกว่ามันดีกับทั้งสองฝ่าย เขาไปร่วมงานกับใคร เขาก็สามารถจิ้นได้กับ ทุกคน เขาสามารถมีเคมีสาธารณะรวมถึงตัวเราด้วย หนูไปเล่นละครกับใคร เขาก็จะรู้สึกว่าคนนี้ยังไม่ได้ชัดเจนนะ มันก็มีเคมีที่ดี ยังไม่ได้ติดกับใคร”

คู่เรารู้จักกันมานานแค่ไหนแล้ว?

ปุ๊กลุก – “ถ้าเป็นการเริ่มพัฒนาความสัมพันธ์ ที่แบบคนนี้อยากรู้จักมากขึ้น 4 ปี แต่ก่อนหน้านั้นรู้จักกันมาเป็นเพื่อน 2-3 ปี เป็นเพื่อนแบบไม่ได้คิดอะไร รู้จักตั้งแต่ถ่าย อตีตา ซึ่งถ่าย 3 ปี เจอกันทุกวัน แล้วก็มา รอยรักแรงแค้น, นายฮ้อยทมิฬ”

เรื่องที่ไมค์เตือนเราบ่อยๆ คืออะไร?

ปุ๊กลุก – “ความใจร้อน การพูดตรง บางทีความจริงใจมี มันดี ความจริงใจพูดให้ซอฟต์ลงได้มั้ย ในพาร์ตธุรกิจไมค์จะเป็นคนพูด เขาจะซอฟต์กว่า หนูไม่ต้องพูดอะไรคนกลัวอยู่แล้ว”

“ไมค์จะเป็นพาร์ตประนีประนอม ระหว่างทางเขาก็ช่วยพัฒนาหนูในเรื่องความอดทน การพูดคุยกับคนที่นุ่มนวล เพราะความนุ่มนวลทำให้คนสามารถเปลี่ยนได้มากกว่าการพูดตรงๆ”

อนงค์ จันทร

ดูข่าวต้นฉบับ

ที่มา : https://www.khaosod.co.th/entertainment/news_6375321
ขอขอบคุณ : https://www.khaosod.co.th/entertainment/news_6375321