สิงโต ปราชญา บินเดี่ยวเป็นอิสระ ลุยทำเบื้องหลังตามความฝัน


ให้คะแนน


แชร์

“จริงๆ หลังออกมาเป็นนักแสดงอิสระก็เหมือนเดิมเลยนะครับ เพราะว่าตั้งแต่ก่อนที่ สิง จะหมดสัญญา สิง ก็มีพี่เจน (ผู้จัดการส่วนตัว) คอยดูแลร่วมกับทางบริษัทอยู่แล้ว หลังจากที่หมดสัญญากับทางบริษัทแล้ว ทุกอย่างก็เหมือนเดิมเลยครับ

สิ่งที่เพิ่มเติมขึ้นมาคือเรายังทำงานร่วมกับทางบริษัทปกติอยู่ เพียงแต่ว่าเราไม่มีสัญญากันเท่านั้นเอง อย่างงานที่ยังทำงานร่วมกันอยู่ จะมีงานในส่วนของซีรีส์ คอนเสิร์ต หรือว่ามีตติ้งต่างๆ ครับผม”

“ถามว่าทำไมถึงตัดสินใจออกมาดูแลตัวเอง ข้อนี้จริงๆ สิง มีแพลนที่คิดว่าอยากไปเรียนต่อปริญญาโทที่ต่างประเทศ มันคือหนึ่งในเหตุผลที่ สิง ตัดสินใจว่า ตัวเองอยากจะออกมาพิจารณางานของตัวเองแล้วก็รับงานที่หลากหลายมากขึ้น

เพื่อที่ว่าทางบริษัทจะได้ไม่ต้องแพลนงานที่เป็นแพลนแต่ละปีให้เรานะครับผม ซึ่งทางบริษัทก็โอเคและเห็นด้วยกับเรา มันก็ยังทำงานร่วมกันได้ ถึงแม้จะไม่มีสัญญาร่วมกับเราเป็นข้อผูกมัดก็ตามครับ”

อยากเรียนต่อ มีทางเป็นของตัวเอง

สิงโต บอกกับเราว่า ส่วนหนึ่งที่ช่วยตัดสินใจไม่เซ็นสัญญาต่อ ก็เพราะว่าอยากจะไปเรียนต่อที่เมืองนอกด้วย เพราะถ้าบริษัทวางแพลนงานไว้ให้ ถ้าเกิดไม่สามารถไปร่วมงานได้ ก็จะทำให้เขาเสียโอกาส และเกรงใจนักแสดงคนอื่นๆ ด้วย 

“อีกอย่างก็คือ สิง มีแนวทางในอนาคตมากขึ้น เห็นภาพตัวเองในการทำงานเบื้องหลังในอนาคตมากขึ้น อยากเรียนต่อในสายวิชาที่เป็นฟิล์มโปรดักชั่นในต่างประเทศครับ แต่ในขณะเดียวกันทางบริษัทก็จะมีแพลนประจำปีของบริษัทเอง เช่น ปีนี้สิงจะมีซีรีส์กี่เรื่องๆ มีโปรเจกต์ใหญ่กี่งาน

ซึ่งถ้าเกิดว่า สิง ต้องมีแพลนในอนาคตที่ต้องไปเรียนต่อ หรือว่ามีแพลนต่างๆ ที่เป็นของตัวเอง ถ้าบริษัทวางแพลนแล้ว สิง ไม่สามารถไปร่วมงานได้ มันทำให้เกิดการเสียโอกาสของทั้งตัวบริษัทเอง ของสิงเอง และต่อนักแสดงคนอื่นๆ ด้วย เลยเป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้ สิง ตัดสินใจว่า เราเป็นนักแสดงอิสระดีกว่า เพื่อให้ทางบริษัทไม่เดือดร้อนกับเราด้วย”

“สิงวางไว้แล้วว่า ถ้าเป็นไปได้ก็อยากไปเรียนต่อปริญญาโทที่ต่างประเทศให้ได้ไวที่สุด แต่ว่าในปีที่ผ่านมามันมีสถานการณ์ของโควิดเข้ามา แล้วต่อให้เราไปเรียนต่อต่างประเทศก็สามารถเรียนได้แค่ทางออนไลน์อย่างเดียว ซึ่งในสาขาวิชาที่สิงอยากจะเรียน การเรียนออนไลน์มันไม่ได้ช่วยอะไร มันสามารถเรียนที่ไทยก็ได้ เพราะฉะนั้นก็เลยเลื่อนไปก่อน

ตอนนี้ก็เลยคิดว่าจะเริ่มภายในปีหน้าครับผม แล้วมหาวิทยาลัยที่มองไว้ว่าจะไปเรียนต่อก็จะเป็นที่มหาวิทยาลัยเซาเทิร์นแคลิฟอร์เนีย ( University of Southern California : USC) ที่สหรัฐอเมริกาครับ สาขาวิชาฟิล์มโปรดักชั่น ด้านการถ่ายทำภาพยนตร์ครับผม”

มีช่องยูทูบ SingtoPrachaya 

“จริงๆ ก็มีแฟนคลับส่วนหนึ่งเขาทราบกันอยู่แล้วว่าเราจะหมดสัญญา 5 ปีกับทางบริษัท เพราะแฟนๆ ก็แอบมีนับเวลาตั้งแต่เราเข้ามาทำงาน ก็มีเข้ามาถามในโซเชียลเน็ตเวิร์กว่าเราหมดสัญญารึยัง ซึ่งแฟนๆ ส่วนใหญ่ก็ไม่ได้ว่าอะไรครับผม เขาจะเคารพการตัดสินใจของเรา ซึ่งเราก็จะบอกเขาแล้วว่า เรายังทำงานร่วมกับทางบริษัทเหมือนเดิม

แฟนๆ เขาก็เข้าใจและคอยซัพพอร์ตผลงานสิงมาโดยตลอดครับ แม้ว่าตัวเราจะเป็นนักแสดงอิสระแล้วก็ตาม อย่างงานล่าสุดงานของยูทูบที่เราเปิดช่องยูทูบเป็นของตัวเอง ซึ่งอันนี้ก็เป็นงานในพาร์ตของการที่เราเป็นนักแสดงอิสระแล้ว

แฟนๆ ก็ให้การตอบรับดีมากเลยครับ EP.1 ยอดวิวน่าจะเกินแสนวิวไปแล้วครับ คือแฟนๆ มักจะบอกอยู่เสมอว่า ไม่ว่าเราจะทำอะไรก็ตามเขาก็พร้อมที่จะซัพพอร์ตเราเสมอ ก็ขอขอบคุณแฟนๆ จริงๆ ครับ”

“และแฟนๆ หลายคนจะรู้อยู่แล้วว่าสิงเพิ่งมาทำ Vlog เล่นเป็นของตัวเองในอินสตาแกรม ในไอจีทีวีต่างๆ ที่เวลาไปเที่ยวชื่อว่า สิงโต Goes Around และมีความรู้สึกว่าเราได้ใช้ความรู้ที่เราเรียนมาทางนิเทศศาสตร์และความรู้เบื้องหน้าที่เราทำงานมาทำตรงนี้

เลยรู้สึกว่าถ้าในอนาคตเรามีโอกาสได้ทำยูทูบเป็นของตัวเอง มันก็คงจะตอบโจทย์ชีวิตอะไรบางอย่างของเราเหมือนกันนะ และอีกอย่างหนึ่งทำให้แฟนๆ สามารถติดตามผลงานของเราได้นอกจากทางทีวีแล้วยังสามารถติดตามทางยูทูบได้อีกครับผม

เลยคิดว่ามันถึงเวลาแล้วที่เราจะเปิดช่องยูทูบเพื่อให้แฟนคลับได้ติดตามผลงานของเราเพิ่มเติมด้วยครับผม

ยังไงก็ขอฝากช่อง SingtoPrachaya ด้วยครับผม เราตัดสินใจว่าจะปล่อยคลิปทุกวันที่ 1 และ 16 ของทุกเดือนนะครับ เวลา 6 โมงเย็น ฝากกดไลค์ กดติดตามด้วยนะครับผม

ซึ่งคอนเทนต์จะเป็นไลฟ์สไตล์ของสิงเอง ว่าสิงชอบทำอะไร เป็นยังไง มีอุปนิสัยยังไง และก็ในไลฟ์สไตล์ของสิงเนี่ย วันๆ สิงต้องเจออะไรบ้าง ทำงานยังไงอะไร ไปเที่ยวไหนบ้าง มีการใช้ชีวิตแบบไหนคอนเทนต์ก็จะประมาณนี้ครับ”

“ซึ่งกระแสตอบรับจากแฟนๆ ดีมากเลยด้วย เพราะว่าแฟนๆ บอกตั้งแต่ตอนที่สิงทำ สิงโต Goes Around ในไอจีแล้วว่า อยากให้สิงเปิดช่องยูทูบของตัวเอง เพื่อที่จะให้แฟนคลับ ไม่ใช่แค่แฟนคลับในไทยนะครับ แต่รวมไปถึงแฟนคลับต่างชาติสามารถติดตามผลงานของเราได้

แม้ว่าเราจะไม่มีผลงานทางหน้าจอทีวี ณ ตอนนั้น แต่ก็จะมีผลงานทางยูทูบออกมาให้เขาให้เห็นเรื่อยๆ เขาจะได้ไม่เหงา คนดู EP. แรกเกินแสนแล้วครับ แล้วก็มีแฟนคลับทำซับมาทางสิงให้เราเป็นซับของช่องแล้วด้วย หลายต่อหลายภาษามากๆ เลย ขอบคุณมากนะครับ”

แดน วรเวช เป็นไอดอล

“จริงๆ สิง โตขึ้นจากประสบการณ์การทำงานในวงการค่อนข้างเยอะพอสมควรครับผม และค้นพบตัวเองมากขึ้นด้วย ก็คือก่อนมาทำงานในวงการ เรายังไม่รู้ว่าเรามีความชอบในด้านนิเทศศาสตร์ ในการทำงานเบื้องหลังมากน้อยแค่ไหน

จนกระทั่งได้มาทำงานในวงการบันเทิง และมีโอกาสได้แตะในเรื่องของเบื้องหลังมากขึ้น และก็มีโอกาสที่เราได้ไปเรียนในคณะนิเทศศาสตร์ของ ม.กรุงเทพ ยิ่งทำให้เราได้ค้นพบว่า จริงๆ แล้วตัวสิงเองชอบงานเบื้องหลังมากๆ เลย

ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายรูป การถ่ายภาพยนตร์ การถ่ายวิดีโอ การย้อมสีภาพยนตร์ วิดีโอ เวลาสิงทำงานด้านนี้รู้สึกว่าตัวเองมีความสุข และเหมือนตัวเองไม่ได้ทำงาน 

เพราะฉะนั้นจุดที่ตัวเองวางไว้ในอนาคต เป็นเหมือนกับว่าเราอยากทำงานเบื้องหลังซะมากกว่า แต่ก็แอบคิดในใจว่าไม่อยากทิ้งงานเบื้องหน้าเหมือนกัน เพราะว่ามันมีความท้าทายในการแสดงเหมือนกัน

ยิ่งเวลาเราได้รับบทบาทใหม่ คาแรกเตอร์ใหม่ที่ฉีกไปจากเดิม มันท้าทายความสามารถเราขึ้นไปเรื่อยๆ และสามารถทำงานร่วมกับเบื้องหลังของเราได้ด้วย ก็เลยอยากทำงานเบื้องหลังและเบื้องหน้าควบคู่กันไปด้วย จริงๆ มีไอดอลคือ พี่แดน วรเวช ครับผม ที่เป็นทั้งผู้กำกับและเป็นทั้งนักแสดงและศิลปิน”

มีสติทุกครั้งในการใช้ชีวิต

“ต้องบอกว่า วงการบันเทิงทำให้สิงใช้ชีวิตอย่างมีสติมากขึ้น อันนี้เป็นข้อดีหลักๆ ที่สิงได้รับมาจากการทำงานในวงการบันเทิงเลย เพราะว่าเราอยู่ในที่แจ้งครับผม พอเรามาทำงานในวงการบันเทิง เวลาเราจะพูดอะไร จะทำอะไร หรือว่าจะวางตัวแบบไหนก็ตาม ทุกอย่างเราถูกจับจ้องตลอดเวลา

และทุกอย่างที่เรากระทำออกไป แสดงออกไปมันกระทบต่อสังคมเป็นวงกว้าง เพราะฉะนั้นอะไรก็ตามที่เราคิดไว้ในใจ หรือว่าอะไรที่เราตัดสินใจจะทำ มันเหมือนว่าเราผ่านการกรองด้วยความคิดของเรามาอย่างดีแล้ว และต้องมีสติตลอดเวลาว่า สิ่งที่เราทำคือสิ่งที่ถูกแล้ว เหมาะสมแล้วที่จะทำออกไป

เพื่อให้กระทบต่อคนอื่นน้อยที่สุด และกระทบต่อคนอื่นในแง่ดีที่สุดเท่าที่เราจะทำได้ ก็เลยรู้สึกว่าทุกวันนี้สิงใช้ชีวิตอย่างมีสติมากขึ้น เวลาจะพูดอะไร คิดอะไร เราผ่านการกลั่นกรองมากขึ้น นับว่าเป็นเรื่องที่ดีจากการเข้ามาทำงานในวงการครับ”

ยกให้คุณพ่อคือกำลังใจคนสำคัญ

“คุณพ่อจะบอกเสมอครับว่า ไม่ว่าสิงจะทำอะไรในพาร์ตไหนก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นการเรียน การทำงาน ตราบใดที่สิงทำแล้วมีความสุข พ่อจะยินดีด้วยเสมอ พ่อจะไม่บังคับเราเลยครับว่าเราจะต้องทำอย่างนี้ แบบนี้ดีกว่านะ พ่อไม่เคยบังคับเลยครับ แม้แต่การทำงานหรือการเรียน

ยกตัวอย่างตอนที่สิงย้ายจาก ม.เกษตรฯ มาเรียนที่ ม.กรุงเทพ คณะนิเทศศาสตร์ แม้ว่าตอนนั้นสิงจะอยู่ปี 4 แล้วก็ตาม ก็แค่บอกพ่อว่าสิงอยากเรียนเกี่ยวกับนิเทศศาสตร์นะ ชอบด้านนี้ ขอย้ายได้มั้ยครับ พ่อก็บอกว่า อะไรก็ตามที่มีความสุข ทำไปเลย ไม่จำเป็นต้องขอพ่อ

เรื่องหมดสัญญาจากค่าย มาเป็นนักแสดงอิสระก็เช่นกัน เราก็บอกพ่อไว้ตั้งแต่แรกแล้วว่าถ้าหมดสัญญา สิง อยากมาทำงานเป็นนักแสดงอิสระนะ เพื่อที่ในอนาคตข้างหน้าเราจะไปเรียนต่อได้อย่างไม่มีข้อผูกมัดครับผม พ่อก็โอเคเต็มที่เลย อยากทำอะไรทำเลย มีความสุขก็ทำไปเลย”

“สุดท้ายนี้ขอบคุณแฟนๆ ทุกคนจริงๆ ที่คอยซัพพอร์ตทุกผลงานของสิงเลย อย่างล่าสุดการทำยูทูบเบอร์ของสิง แม้ว่าจะเป็นครั้งแรกของสิงก็ตาม ขอบคุณจากใจจริงๆ และเรารู้สึกว่าคนกลุ่มนี้ที่เป็นมากกว่าแฟนคลับ สิงจะบอกพวกเขาเสมอว่าเขาคือครอบครัวของสิง เขาคือกลุ่มคนของสิง ไม่ว่าสิงจะทำถูกทำผิดอะไร เขาจะคอยตักเตือน คอยซัพพอร์ตสิงทุกด้านเสมอ ขอบคุณจริงๆ ครับ”.

ผู้เขียน : โอ้ว…ซาร่า

กราฟิก : Sriwon Singha

ดูข่าวต้นฉบับ

ที่มา : https://www.thairath.co.th/entertain/news/2087956
ขอขอบคุณ : https://www.thairath.co.th/entertain/news/2087956