เปิดที่มาธุรกิจ เชือกกายภาพ “หนูเล็ก ก่อนบ่าย” จดลิขสิทธิ์ เป็นของครอบครัว


ให้คะแนน


แชร์

เปิดที่มาธุรกิจ เชือกกายภาพ “หนูเล็ก ก่อนบ่าย” จดลิขสิทธิ์ เป็นของครอบครัว

เกาะติดข่าว กดติดตาม ข่าวสด

ขยัน กตัญูเป็นที่สุด สำหรับตลกสาวชื่อดัง หนูเล็ก ก่าก๊า หรือ ภัทรวดี ปิ่นทอง ที่จะเห็นว่าเธอผุดธุรกิจ ทำนู่นขายนี่ หาเงินเข้ากระเป๋าตลอด แถมยังคิดหาหนทางทำรายได้ให้กับครอบครัวที่บ้านทางภาคใต้ ที่กำลังลำบากเพราะช่วงโควิด นั่นก็คือการทำ “เชือกกายภาพบำบัด” ออกมาขาย ซึ่งเป็นไอเดียคิดค้นจากพี่ขายของเธอเอง ที่เคยทำเพื่อนรักษาพ่อที่ป่วย นำมาสู่ธุรกิจที่กำลังเติบโสร้างรายได้

จุดเริ่มต้นธุรกิจเชือกกายภาพ? “เริ่มจากที่พ่อเราป่วยเป็นเส้นเลือดตีบในสมองและโรคหัวใจพร้อมกัน หมอก็ปั๊มหลายรอบมากกว่าจะฟื้นขึ้นมา สุดท้ายก็ฝืน นอนอยู่โรงพยาบาลก็เริ่มดีขึ้นแต่ว่าก็นอนเป็นผักอยู่เหมือนเดิม พอกลับบ้านหมอบอกว่าต้องกายภาพบำบัดนะ ก็คือต้องพาไปกายภาพที่โรงพยาบาลทุกวัน แรกๆก็พาไป จ้างรถยนต์ไปบ้าง แต่ที่นี้ไม่ไหวเพราะพ่อตัวใหญ่ รถเราไม่มี จะจ้างทุกวันก็ไม่ไหว

ตอนนั้นก็เลยให้พี่ชายลองคิดดู ประดิษฐ์ขึ้นมาให้พ่อได้ออกกำลังกายก็เลยกลายมาเป็นเชือกกายภาพบำบัดตัวนี้ พ่อก็ออกกำลังกายทุกวัน จากนั้นหนึ่งเดือนพอเดินได้ แขนขากล้ามเนื้อแข็งแรงทุกอย่างดีขึ้นมากๆ เหมือนมันได้ขยับตลอดเวลา เพราะพ่อทำทั้งวันเลยนะ

ตอนนั้นเอาให้คุณหมอดู คุณหมอบอกดีมากไม่ต้องไปทำที่นู่นเลยทำอยู่ที่บ้านได้เลย กินยาตื่นเช้ามาก็ปั่น คือมันสามารถทำได้ทั้งการปั่นจักรยาน การเดินทางการวิ่งได้หมดเลย เพราะว่ามันได้เคลื่อนไหว ทั้งแขนทั้งขาคนที่เป็นไหล่บิดก็ดีมากนะ แล้วหลังจากที่พ่อไม่อยู่แล้วแม่ก็ได้เอาตัวนี้มาออกกำลังกายทุกวัน ตอนนี้หน้าอายุ 80 ก็แข็งแรงดีค่ะ

คือเชือกตัวนี้เริ่มผลิตหลังจากที่หนูกลับบ้านไปแล้วเห็นพี่ชายเครียดกันมาก เพราะโควิดมันทำให้ไม่มีรายได้เลย มันทำให้เราไปทำงานที่ไหนก็ไม่ได้ ก็เลยคิดว่า พี่ลองถักเชือกขึ้นมาใหม่ซิ พี่ถักตอนนี้เลย แล้วพอถักเสร็จหนูก็ไลฟ์สดตอนนั้นเลย พอไลฟ์สดคนเห็น ผลตอบรับดีมาก

ตอนนั้นเราทำทั้งบริจาคด้วยและจำหน่ายด้วย รีวิวกลับมาคือเค้าบอกว่าพ่อแม่เค้าสนุกสนานและตื่นเต้นมากที่จะได้ใช้ บางคนบอกว่าพ่อกล้าเดินมากขึ้น ตอนนี้พ่อลุกขึ้นนั่งได้แล้วนะ จากที่นอนติดเตียงตอนนี้พอเริ่มขยับขาแล้วนะ ตอนนี้พ่อเริ่มดึงแล้วก็ปั่นเองได้แล้วนะ คือรีวิวพวกนี้มันทำให้เราภูมิใจ แล้วก็มีความสุขมากๆมันได้ใช้ประโยชน์จริงๆ คนป่วยคนอายุเยอะผู้สูงอายุได้ใช้ประโยชน์จริงๆ”

แล้วไอเดียตรงนี้ไปอิงมาจากที่ไหนหรือเปล่า หรือคิดค้นขึ้นมาเองใหม่เลย? “พี่ชายประดิษฐ์เองให้มันแข็งแรงสามารถรับน้ำหนักพอได้”

นานแค่ไหนแล้วที่เครื่องนี้ไปสร้างความสุขให้กับหลายครอบครัว? “ปีนึงแล้ว ปีนึงเต็มเต็มๆ ตั้งแต่โควิดรอบแรกจนมาถึงตอนนี้ลูกค้าก็ยังสั่งตลอดสั่งต่อเนื่อง แล้วก็สถานที่ที่เราส่งไปบริจาคเค้าก็ยังกลับมาสั่งซ้ำสั่งเพิ่ม”

คิดไว้ไหมก่อนที่จะทำออกมาขายว่าจะได้รับผลตอบรับมากขนาดนี้? “ตอนแรกไม่คิด ตอนแรกแค่อยากจะทำบริจาค ขายเป็นเสริมๆ หลักๆคือบริจาค แล้วเราก็ทำมาสำเร็จค่ะ แต่ตอนนี้เราก็บริจาคทุกวันอยู่แล้ว ก็คือสั่งแอดมินไว้ว่าคนไหนที่ดูลำบากดูป่วยอาการหนักเราก็บริจาคค่ะ”

ตอนนี้มีออเดอร์เข้ามาเยอะ พี่ชายทำเองคนเดียว? “ตอนนี้เลยให้พี่ชายคนแรกที่ออกแบบขึ้นมาให้สอนพี่ชายอีกสองคน ตอนนี้ทำกันสามบ้าน คือตอนนี้ก็เริ่มมีสต๊อกบ้างเล็กน้อย สต๊อกยังไม่เยอะสต๊อกน้อยมาก เพราะลูกค้าสั่งเยอะ พี่ๆก็นอนตี1 ตี2 ทุกคืน แล้วในบ้านมีแต่เชือก ไม่มีอะไรเลย แต่เค้ามีความสุขมาก เราเห็นเราก็มีความสุข พี่ชายจากดำ ตอนนี้ขาวจั๊วะเลย ไม่ได้ไปไหนเลย (หัวเราะ) ”

กลายเป็นธุรกิจไปแล้ว ? “จดลิขสิทธิ์เรียบร้อยแล้วค่ะ ตั้งแต่ปีที่แล้ว พอพี่ชายเป็นคนออกแบบเองว่าจะทำแบบนี้ว่าจะถักแบบนี้ก็เลยต้องรีบไปจดให้เขา”

เติบโตไปเรื่อยๆมีวางแผนธุรกิจตรงนี้ยังไงบ้าง? “หนูวางแผนเอาไว้ว่า ถ้าทำสามครอบครัวไม่ไหวไม่ทันจริงๆ ก็จะนำรายได้ตรงนี้ไปแบ่งปันให้ชุมชนได้มีรายได้ให้คนในหมู่บ้านได้มีรายได้ด้วย หนูก็มีพื้นที่เล็กๆอยู่ข้างบ้าน ว่าจะทำเป็นโรงเรือนขึ้นมาเป็นโรงงานเป็นหลังๆ อันนั้นเป็นที่ของหนูเอง หนูก็จะทำขึ้นมาเพื่อให้ทุกคนได้ไปนั่งทำงานกันที่นั่น วางของเก็บของกันที่นั่น”

หนึ่งชิ้นใช้เวลาการทำนานไหม? “นานนะ มันถักยาก ต้องใช้มือนั่งถัก คือมันมีสี่ชิ้นที่ต้องนั่งถักแล้วก็ต้องเอามาถักประกอบรวมกัน ส่วนตัวทำไม่เป็นเลย พี่ชายเป็นคนผลิต ส่วนเราก็เป็นคนขาย”

ดูข่าวต้นฉบับ

ที่มา : https://www.khaosod.co.th/entertainment/news_6435039
ขอขอบคุณ : https://www.khaosod.co.th/entertainment/news_6435039