แพงมหาโหด 10 ค่าตัวซุป’ตาร์ฮอลลีวูด หนังไทยหายใจรวยริน


ให้คะแนน


แชร์

ที่ 10-6 ค่าตัวแรงเกินต้านจริงๆ 

ขวัญใจแฟนหนังตัวจริง เคียนู รีฟส์ Keanu Reeves ค่าตัวพุ่งไม่หยุด เงินที่โกยได้จากหนัง 2 เรื่อง The Matrix Reloaded และ The Matrix Revolutions ปี 2003 ได้ไปเรื่องละ $ 15,000,000 เหรียญสหรัฐอเมริกา ราว 467 ล้านบาท บวกอีก 15% จากยอดรายได้รวม ส่วนตัวเลขชัดๆ จากหนังใหม่น่าจะแรง John Wick : Chapter 4-5 และ The Matrix 4 ยังไม่รู้ตัวเลขเป๊ะๆ แต่ที่แน่ๆ น่าจะได้ไปเยอะมหาศาล คาดว่ามากกว่า 70 ล้านเหรียญสหรัฐอเมริกา

หล่อล่ำรวย สามีมโนของใครหลายคน เทพเจ้าสายฟ้า หรือ คริส เฮมส์เวิร์ท Chris Hemsworth จากเรื่อง Avengers : Endgame ปี 2019 ได้ค่าเหนื่อยไป $ 15,000,000 เหรียญสหรัฐอเมริกา ราว 467 ล้านบาท ค่าตัวยังพุ่งต่อไป เพราะมีหนังหลายเรื่อง กำลังถ่ายทำอยู่ เช่น Extraction 2 ,Untitled Hulk Hogan Biopic ,Furiosa ,Thor : Love and Thunder ,Escape From Spiderhead

เจมส์ บอนด์ 007 ที่ฆ่าไม่ตาย ขายดีตลอดกาล คนดูได้ไม่รู้เบื่อ แดเนียล เคร็ก Daniel  Craig รับค่าตัวเยอะจาก No Time to Die ปี 2021 ได้ไป  $ 25,000,000 เหรียญสหรัฐอเมริกา หรือราว 778 ล้านบาท ไว้ใจได้เรื่องความแรง มีหนังกำลังถ่ายทำอีกเพียบ ค่าตัวพุ่งต่อชัวร์ เช่น The Creed of Violence ,Knives Out 2-3
 

พระเอกออสการ์ฝีมือไม่แพ้ใคร ไรอัน กอสลิ่ง Ryan Gosling ฟาดค่าตัวได้ $ 29,000,000 เหรียญสหรัฐอเมริกา ประมาณ 903 ล้านบาท จากหนังฮิต La La Land ในปี 2016 หล่อเด่นฝีมือเยี่ยม ได้ไปต่อกับหนังหลายเรื่อง เช่น Project Hail Mary ,The Actor ,Wolfman ,The Gray Man
 

ตำนานคนเหล็ก อาร์โนลด์ ชวาร์เซเนกเกอร์ Arnold Schwarzenegger จาก Terminator 3 : Rise of the Machines ในปี 2003 ถึงแม้จะไม่โดนใจมหาชน แต่ได้ค่าตัวไป $ 29,250,000 เหรียญสหรัฐอเมริกา ราว 903 ล้านบาท สูงวัยไม่ใช่ปัญหา ยังมีหนังแรงๆ ให้เล่นต่อ ค่าตัวพุ่งไม่น้อยหน้าใคร หนังที่กำลังถ่ายทำอยู่ เช่น The Legend of Conan ,Triplets ,Kung Fury 2
 

อิจฉาแรง ที่ 5-1 ค่าตัวต้องร้องกรี๊ด!!!

อีกหนึ่งดาราดังนานข้ามยุค อภิมหาอมตะหล่อไม่เลิก แบรด พิตต์ Brad Pitt จากหนัง Ocean’s Eleven ในปี 2001 ได้เงินไป $ 30,000,000 เหรียญสหรัฐอเมริกา หรือประมาณ 904 ล้านบาท ระยะหลังๆ ไปทำงานเบื้องหลังเป็นโปรดิวเซอร์ให้หนังหลายเรื่อง ที่กำลังถ่ายอยู่ เช่น Wrong Answer ,Black Hole ,The Curious Incident of the Dog in the Night-Time ,Blonde
 

โล้นซ่าบู๊แหลก วิน ดีเซล Vin Diesel ค่าตัวจาก Fast & Furious 7 ในปี 2015 ได้ $ 47,000,000 เหรียญสหรัฐอเมริกา หรือราว 1,457 ล้านบาท ยอดเยอะเพราะรวมเงินจากการเป็นโปรดิวเซอร์ให้ด้วย แรงต่ออย่าหยุด มีงานแน่นๆ ให้เล่นต่อ เช่น The Machine ,Furya ,Muscle ,Fast & Furious 9 ฯลฯ
 

สุดยอดฝีมือแห่งยุค ยกให้เลย ลีโอนาร์โด ดิคาปริโอ Leonardo DiCaprio เล่นหนัง Inception ปี 2010 ฟันค่าตัวได้ $ 59,000,000 เหรียญสหรัฐอเมริกา ราว 1,838 ล้านบาท โดยรวมส่วนแบ่งจากรายได้ทั่วโลก รายได้จากดีวีดี DVD และช่องทางต่างๆ ที่นำหนังไปฉายให้อีกด้วย ดังต่อเกินต้านชัวร์ๆ เพราะยังมีหนังรอฉาย รอถ่ายทำอีกเพียบ เช่น Roosevelt ,The Black Hand ,Killers of the Flower Moon  ,Don’t Look Up ฯลฯ ค่าตัวต่อเรื่องยังโกยสนั่นโลกได้อีกๆ
 

อดีตเคยติดยาชีวิตดิ่งลงเหว แต่ปัจจุบันกลับตัวใหม่ได้นานแล้ว ดังเปรี้ยงกว่าเดิม เป็นอีกตัวอย่างของคำว่า คนล้มอย่าข้าม โรเบิร์ต ดาวนีย์ จูเนียร์ Robert Downey Jr. ได้เงินค่าตัวจาก Avengers: Infinity War ปี 2018 ได้เงินไปมากถึง $ 75,000,000 เหรียญสหรัฐอเมริกา ประมาณ 2,336 ล้านบาท ถ่ายทำหนังต่ออีก 2 เรื่อง Sherlock Holmes 3 ,All-Star Weekend ค่าตัวแรงๆ ต่อแน่นอน

หล่อแรงเท่ข้ามยุคของแท้ ทอม ครูส Tom Cruise ฟาดเงินเพียบจาก Mission : Impossible III ปี 2006 ได้ไปมากถึง $ 75,000,000 เหรียญสหรัฐอเมริกา ราว 2,336 ล้านบาท โดยได้เงินรวม จากส่วนแบ่งยอดรายได้หนังด้วย ฮอตต่อยังมีหนังอีกหลายเรื่องรอฉาย รอถ่ายทำ เช่น Luna Park ,Untitled Tom Cruise / SpaceX Project ,Live Die Repeat and Repeat ,Mission : Impossible 7-8 ,Top Gun : Maverick ฯลฯ หนังมีแววปังแทบทุกเรื่อง ค่าตัวยังพุ่งแรงได้อีกเยอะ!
 

ค่าตัวซุป’ตาร์หญิงแรงอยู่ แต่ไม่สู้ซุป’ตาร์ชาย

อีกความเหลื่อมล้ำที่แก้ยากอยู่ ในสังคมโลกที่ชายมโนว่าเป็นใหญ่ คือดาราหญิงฮอลลีวูด ถึงจะเล่นเก่งมากๆ กระแสแรงแค่ไหน ค่าตัวก็ยังไม่แพง ไม่แรงสู้ดาราชาย ตัวแม่ดาราหนังฮอลลีวูด ที่ค่าตัวแพงได้อีกๆ ทางเว็บหนังระดับโลก IMDB ก็รวมมาแล้ว เช่น สการ์เล็ต โจแฮนสัน Scarlett Johansson ซุปเปอร์ฮีโร่จาก Avengers : Endgame ปี 2019 ได้เงิน $ 35,000,000 เหรียญสหรัฐอเมริกา ประมาณ 1,090 ล้านบาท  

ตัวแม่ตัวจริง แองเจลินา โจลี Angelina Jolie ฟาดค่าตัวสูงมากจาก Maleficent ในปี 2014 ไปถึง $ 33,000,000 เหรียญสหรัฐอเมริกา ราว 1,028 ล้านบาท ต่อด้วย นิโคล คิดแมน Nicole Kidman จากหนัง The Golden Compass ปี 2007 เคยได้ค่าตัว $ 15,000,000 เหรียญสหรัฐอเมริกา ประมาณ 467 ล้านบาท สวยมากและรวยมากๆ

ปัจจัยขึ้น-ลงของค่าตัวซุป’ตาร์ฮอลลีวูด 

ค่าตัวขึ้นลงตามแต่ตกลง ถ้าถูกใจใช่เลยที่บท-ผู้กำกับ-ทีมงาน ตัวพ่อตัวแม่ดาราฮอลลีวูดหลายคน ก็ไม่เกี่ยง ยอมเล่นนะ ถึงแม้จะได้ค่าตัวไม่เยอะ ถ้าเล่นหนังดังมากๆ มาก่อน หนังเรื่องถัดไป จะอัพค่าตัวได้สูงอีกหลายๆ เท่าเลย และจะค่าตัวพุ่งๆ ไปอีก ถ้าหนังยังคงดังต่อเนื่องอีกหลายเรื่อง ตรงกันข้ามถ้าหนังแป้ก คนดูยี้ ทำเงินได้น้อย ค่าตัวของซุป’ตาร์คนนั้น ก็จะลดลงเรื่อยๆ

ยอดเปอร์เซ็นต์ จากรายได้ทั่วโลก ซุป’ตาร์ฮอลลีวูดบางคน ชอบเลือกเงื่อนไขนี้ ยอมลดค่าตัวลงมาหน่อย เพื่อจะหวังเก็บกินเงินทีหลังจากจุดนี้ ส่วนจะได้กี่เปอร์เซ็นต์ ก็แล้วแต่จะเคลียร์กันได้ และการได้รางวัลใหญ่ จากสถาบันต่างๆ เช่น ออสการ์ Oscars หรือ Academy Awards ,ลูกโลกทองคำ Golden Globe Award ฯลฯ ก็มีผลเช่นกัน ที่ทำให้ค่าตัวพุ่งสูง  

ค่าตัวดาราไทย เล่นหนังไม่สูงอย่างที่คิด

จะกล้าทุ่มจ้างดาราดัง มาเล่นหนังไทย ต้องดังจริงๆ หลักเลยต้องมีกระแสแรงด้วยจากละครทีวี เพราะมีฐานแฟนคลับคนดูที่กว้างจริง จึงจะอัพค่าตัวสูงได้ มีอำนาจต่อรอง ก็ได้เงินทะลุหลักล้านอยู่ แต่ถ้ายังเป็นดาราหน้าใหม่ๆ ผลงานยังไม่เด่นนัก ก็ได้เงินหลักแสน ค่าตัวชัดๆ เป๊ะๆ ของดาราดังส่วนใหญ่ยังเป็นความลับอยู่ อาจจะกลัวภาษี กลัวดาราคู่แข่งได้ค่าตัวมากกว่า ฯลฯ

ส่วนแบ่งเพิ่มเป็นเปอร์เซ็นต์ จากยอดรายได้ทั้งหมด เหมือนวงการหนังฮอลลีวูด วงการหนังไทย ยังไม่มีค่ายไหนจัดให้ดาราไทย ส่วนใหญ่จ่ายจบก้อนเดียวไปเลย แต่ถ้าหนังเรื่องไหนโกยเงินทะลุหลักร้อยล้าน ก็อาจจะมีเงินเพิ่มให้บ้าง ตามแต่ผู้บริหารหนังนั้นจะพิจารณาให้ไปเอง

หนังถ้าฟอร์มดีในตัวของมันเอง คือผู้กำกับดี ค่ายหนังดี บทดี ก็ไม่จำเป็นต้องไปง้อดาราดังมากนัก ไม่จำเป็นต้องไปทุ่มกับดาราดัง เพราะแฟนหนังตัวจริง ชอบที่บทว้าว เล่าเรื่องแตกต่างสดใหม่ นักแสดงเล่นได้เข้าถึงตีบทแตกกระจุย โปรดักชั่นเจ๋งจัดมากกว่า

ส่วนดาราดังๆ มีส่วนสำคัญ แค่ช่วงโปรโมตแรกๆ ที่ต้องเร่งดึงคนให้แห่มาดู ถ้าหนังลงตัวทุกอย่าง ดาราดังเล่นดี ก็ดีไป ทำเงินได้ไว แต่ถ้าหนังห่วย กระแสไม่ได้ ปากต่อปากว่ายอดแย่ ดาราดังก็ไม่ช่วยอะไรได้ เพราะมีตัวอย่างหนังหลายเรื่องแล้ว ที่ได้ดาราดังมาเล่นให้ แต่หนังเจ๊ง! 

หนังไทยยังแย่ในยุคโควิด

ค่ายหนังใหญ่ๆ ของไทยช่วงโควิด ต้องเบรกๆ เลื่อนๆ หลายโปรเจกต์ไปก่อน ต้องคิดแล้วคิดอีกหลายตลบ รอบคอบรัดกุมมากกว่าเดิม กับเงินที่จะทุ่มลงไป ซึ่งความเสี่ยงของหนังไทยก็เพิ่มมากขึ้นพักใหญ่แล้ว กับการระบาดของโควิด ตั้งแต่ระลอก 1-3 ซึ่งก็ไม่แน่โควิดที่ไทย อาจจะมีระลอก 4-5-6 ฯลฯ ถ้ายังบริหารจัดการแบบเดิมๆ อีกต่อ อาจจะมีหลายระลอกก็ได้

หนังไทยยังแย่นะ ถ้าดูจากจำนวนที่เข้าฉายในปีนี้ ซึ่งมีน้อย คนไปดูหนังในโรงช่วงโควิดก็น้อย เลยทำให้หนังทำเงินน้อยลงตามไปด้วย ผลกระทบเป็นลูกโซ่ไปหมด ส่วนเรื่องงบสร้างหนังไทยส่วนใหญ่ตอนนี้ เรียกว่าเป็นความลับสุดยอด ปล่อยให้หลุดออกไปไม่ได้ เพราะการบอกงบลงทุนชัดๆ ก่อนหนังจะทำเงินได้ จะมีผลกับภาพรวมกำไรขาดทุน ตอนหลังออกฉายไป

มีหนังแค่ไม่กี่เรื่อง ที่ยอมบอกว่าใช้ทุนสร้างเท่าไร ซึ่งส่วนใหญ่จะบอกโอเวอร์เกินจริงอยู่ เพื่อให้ภาพลักษณ์ตัวหนังดูดี และจะกล้าบอกงบลงทุนจริงๆ หลังจากที่หนังทะลุร้อยล้าน ประสบความสำเร็จไปแล้ว

มีแววแรง 2 หนังไทยที่แฟนหนังรอ

เจ็บหนักอยู่ แต่ไม่ตายหรอกนะ แค่ไม่โตอย่างที่จะเป็น สำหรับหนังไทยในช่วงโควิดร้ายหลายระลอกที่ผ่านมา ยังมีหนัง 2 เรื่องต้องตามต่อ เรื่องแรก ร่างทรง The Medium ค่ายไทย GDH ร่วมทุนกับ Showbox ค่ายหนังใหญ่จากเกาหลีใต้ ชวนขนหัวลุกแน่ ไปร่วมค้นลึก กับการสืบทอดทายาทร่างทรงของครอบครัวลึกลับ ที่ภาคอีสาน

ร่างทรง The Medium เป็นหนังสั่นประสาทในรอบ 14 ปี ของผู้กำกับร้อยล้าน โต้ง บรรจง ปิสัญธนะกูล ที่เคยทำ ชัตเตอร์ กดติดวิญญาณ Shutter สยองสนั่นโลกมาแล้ว จนฮอลลีวูดซื้อบทไปรีเมกใหม่ ร่างทรง ยังมีพระเอกหล่อ เต๋อ ฉันทวิชช์ ธนะเสวี มาร่วมเขียนบทให้ด้วย

ส่วนหนังไทยเรื่องที่ 2 ต้องจับตาคือ 7 Boy Scouts จิกกัดสังคมการเมืองผ่านลูกเสือ-เนตรนารี ผลงานกำกับของ ต้อม ยุทธเลิศ สิปปภาค ปล่อยตัวอย่างออกมา ทำเอาหลายคนสะดุ้ง! จริงๆ จะได้คิวฉายแล้ว แต่ต้องเลื่อนๆ ออกไปก่อนเพราะพิษโควิด นำโดย คิทตี้ ชิชา อมาตยกุล หรือแนนโน๊ะ ที่เพิ่งมีกระแสแรงจาก เด็กใหม่ 2 Girl from Nowhere

ผู้เขียน : รุ่งโรจน์เรืองรอง

กราฟิก : Sathit Chuephanngam 

 

ดูข่าวต้นฉบับ

ที่มา : https://www.thairath.co.th/entertain/news/2107331
ขอขอบคุณ : https://www.thairath.co.th/entertain/news/2107331