นอกจากนี้ นักแสดงแวดล้อมล้วนแต่ลงตัว ไม่ว่าจะเป็น เค้ก-นันทวัชร์, ลาล่า-ลาริสา, น้ำฟ้า-ธัญญภัสร์, มายด์-ฑาริกา, แก๊ป-จักริน, คิน-การันต์, บูม-วิศรุต, พีช–พิมพ์ลดา และนักแสดงมากฝีมืออย่าง อ้น-สราวุธ, เกิร์ก ชิลเลอร์, จุ๊บแจง- วิมลพันธ์, ใหม่-นัฏฐา ลอยด์, กบ-ทรงสิทธิ์, เต๋า-สโรชา, อั๋น-โอลิเวอร์, มะปราง-วิรากานต์, แป้ง The Star, ปาล์ม-ศุภชัย, ท๊อป-ดารณีนุช และ ดีใจ ดีดีดี ฯลฯ กำกับการแสดงโดย วุ้น-ทรงศักดิ์ เจ้าพ่อหนังรักที่ขยับมากำกับละครให้ช่อง 3 เป็นครั้งแรก

พบกับเรื่องราวความรักของทนายสาวไฟแรง ทิชากร (เบลล่า) ที่หวนมาเจอกับ คิว (กองทัพ-พีค) อดีตเด็กเกเรที่เธอเคยช่วยเหลือจนเห็นเธอเป็นไอดอล พลิกชีวิตแบดบอยมาตั้งใจเรียนกฎหมาย ก่อนจะมุ่งมั่นตามพี่สาวในฝันมาฝึกงาน ทนายอยู่ใกล้ตัว ขณะ ที่ ทิชากร ก็พร้อมเปิดศึกช่วงชิงเพื่อตำแหน่งหน้าที่การงานกับเพื่อนร่วมงานอย่าง ทนายคามีเลีย (พิ้งกี้) โดยมีเป้าหมายต้องแย่งชิง บอสเบน (อู๋-ธนากร) งานนี้ ต้องเจอทั้งคดียุ่งๆ และคดีรักที่พร้อมให้ ทนายทิชา ต้องฝ่าฟันขึ้นศาลและตัดสินหัวใจไปพร้อมๆกัน

สาว เบลล่า กล่าวว่า “รับบทเป็น ทนายทิชากร ทนายความสาว Working Woman ที่สวยและเก่ง เพียบพร้อมทุกอย่างแต่โสด ถึงแม้มีผู้ชายหลายคนเข้ามาจีบ แต่ทิชาไม่สนใจเรื่องความรักอีกเลยนับแต่เลิกกับแฟนเก่า เพราะเธอต้องการคว้าตำแหน่งพาร์ตเนอร์ผู้หญิงคนแรกของบริษัท รอสแอนด์ฮาร์วี่ย์ ซึ่งเรื่องนี้ถือว่าเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่เบลชอบมากๆ ทั้งบรรยากาศของกองที่เวลาถ่ายไม่กดดันและไม่เครียดเลยค่ะ ทุกคนยิ้มแย้ม เฮฮามาก หัวเราะกันตลอดเวลา เป็นกองถ่ายที่เรามีความสุขที่จะทำงานด้วยมาก เมื่อพูดถึงฉากที่ยากที่สุด ถ้าเป็นเบลก็น่าจะเป็นฉากที่ต้องฟาดมาตรากฎหมายใส่กับพี่พิ้งกี้ ซึ่งเป็นอะไรที่เบลแอบกังวลว่าจะจำได้มั้ย เล่นออกมาตามที่พี่ต้น ผู้จัดกับพี่วุ้น ผู้กำกับอยากได้มั้ย แต่ทุกอย่างมันก็ผ่านไปได้ด้วยดีเพียงแค่เทกเดียวผ่านเลย เพราะเบลกับพี่พิ้งกี้ทำการบ้านมา แต่ต้องบอกเลยว่าฉากนั้นที่แฟนๆได้เห็นไปใน ep1 ถือว่าเป็นอีกฉากที่หินสำหรับเบลแล้วค่ะ (หัวเราะ)”

ด้านพระเอกป้ายแดง กองทัพ–พีค เผยว่า “พีครับบทเป็น คิว ฉายาไอ้เด็กหน้ามึนครับ เรื่องนี้เป็นละครเรื่องแรกในชีวิตของพีค ถ้าจะยากพีคว่าน่าจะเรื่องของการเตรียมตัวรับบทนี้ครับ ละครเรื่องนี้เริ่มต้นถ่ายตอนพีคกลับมาจากเกาหลี พีคต้องไปปรับเรื่องการใช้ภาษาไทยใหม่ รวมถึงต้องไป workshop และเรียน acting เพิ่มเติม ซึ่งใช้เวลาหลายเดือนครับ เราต้องใช้สมาธิเยอะมากระหว่างการถ่ายทำ ไม่ว่าจะตัวบทที่เป็นภาษากฎหมาย ในขณะที่บทก็ต้องพูด เราก็ต้องพยายามไปตาม blocking ที่เราวางไว้กัน แต่พีคก็แค่เป็นตัวละครของพีคและฟังเค้าให้มากที่สุดเท่าที่พีคจะทำได้ครับ พอทำแบบนี้ปึ๊บ ทุกอย่างก็ค่อยๆตามมาครับ จนพีครู้สึกทุกอย่างง่ายขึ้น และอีกหนึ่งเหตุผลเป็นเพราะบรรยากาศของกองที่ไม่กดดันและไม่เครียดด้วยครับ ทุกคนยิ้มแย้ม เฮฮามาก เป็นกองถ่ายที่พีคมีความสุขที่จะทำงานด้วยมากครับ ขอบคุณพี่ต้นที่คอยให้คำแนะนำตลอด รวมถึงทั้งพี่วุ้น ผู้กำกับ ครูหลี่เจิน ที่คอยดูแลการแสดงพีคด้วย และพี่ๆนักแสดงทุกคนที่เป็นพาร์ตเนอร์ที่ดีสำหรับพีคและที่สำคัญมากๆ พีคก็ต้องขอบคุณทุกคำติชมและกำลังใจจากคนดูทุกคนครับ พีคจะนำคำเหล่านั้นมาเป็นแรงพัฒนาตัวเองต่อไปครับ”

ต่อมาสาว พิ้งกี้ เผยว่า “บทบาททนายสาวที่พิ้งกี้ได้รับเรื่องนี้ ถือว่าเป็นอีกหนึ่งบทบาทที่ท้าทาย เพราะในเรื่องนี้เราต้องใช้ความจำในการพูดมาตรากฎหมายบทมันค่อนข้างยาว ซึ่งในเรื่องนี้ ตัวของคามีเลียถือว่าเป็นคนฉลาด เก่งมาดมั่น จริงจังเรื่องงาน และจับพิรุธคนเก่ง และการมาร่วมงานครั้งแรกกับเบลล่าและพี่อู๋ ต้องบอกเลยว่าสนุกมากๆ เพราะเวลาอยู่ในกองหรือแม้แต่ตอนเข้าฉากด้วยกัน มันเหมือนเติมพลังให้กันชนิดที่ว่ามองตาก็รู้ใจกันว่าเราควรจะเล่นไปในทิศทางไหนให้ออกมาดีที่สุดในฉากนั้นๆ”

“Dare To Love ให้รักพิพากษา” ละครที่กำลังมาแรงทั้งเรตติ้ง และยอดวิว รวมทั้งกระแสฟีดแบ็กในโซเชียล ติดตามชมกันได้ทุกคืนวันพุธ–พฤหัสบดี 20.30 น. ทางช่อง 3 กด 33.

เม้าท์ชัด จัดทุกตอน ติดตามได้ที่ www.thairath.co.th/novel และ Facebook Fanpage : นิยายไทยรัฐ