ตรงประเด็น กับ “หนึ่งคนว่าย หลายคนช่วย” กิจกรรมที่คุณทำมันยิ่งใหญ่มาก “ชื่อโครงการ ONE MAN & THE SEA หนึ่งคนว่าย หลายคนช่วย ว่ายน้ำตัวเปล่า ข้าม 12 เกาะ เริ่มต้นจากจังหวัดสุราษฎร์ธานี ไปสิ้นสุดที่เกาะสมุย รวมระยะทาง 82 กิโลเมตร เริ่มวันที่ 19 มี.ค.63 ตั้งเป้าสิ้นสุดวันที่ 5 เม.ย.63 นอกจากว่ายแล้วยังช่วยเก็บขยะในชุมชนและริมชายหาดไปพร้อมกับชาวบ้านในพื้นที่เส้นทางการว่าย เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างโลกที่น่าอยู่ ความสำคัญคือ เราทำสิ่งนี้ขึ้นมาเพื่ออะไร มากกว่ามองว่าเราว่ายได้ไกลแค่ไหน”

มีคนเปรียบคุณกับพี่ตูน บอดี้สแลมไหม “ผมไม่กล้าเปรียบเลยครับ พี่ตูนคือพี่ชายที่ผมรัก ทุกครั้งที่พี่ตูนทำอะไรแบบนี้ผมเองก็ไปช่วยกัน แต่ที่สำคัญคือ ทีมงานที่มาช่วยผมในครั้งนี้ก็คือทีมงาน “ก้าวคนละก้าว” เราคือทีมเดียวกันที่มาช่วยกัน ดังนั้น ผมว่าอะไรที่เราช่วยกันถ้าทำให้บ้านของเราดีขึ้น เรามาช่วยกันเถอะ ไม่สามารถดีขึ้นได้ด้วยคนหรือสองคน ต้องให้คน 70 ล้านคนมาช่วยกันมันถึงจะเกิดขึ้นได้”

มันมี 2 อย่าง ระหว่างคนที่มาทำอะไรยิ่งใหญ่แบบนี้ ไม่เป็นคนกล้ามาก ก็บ้ามาก คุณว่าคุณบ้าไหม “หลายคนพูดแบบนั้นนะครับ แต่ผมว่าผมปกติ เพียงแค่ผมคิดว่าถ้าผมไม่ทำอะไรเลย ดูสิผมมีทุกวันนี้ได้เพราะหลายคนรักและสนับสนุนผม ผมได้มีอากาศหายใจ เพราะมีแผ่นดินให้ผมได้ยืน มีอากาศหายใจ ให้ผมได้ทำตามความฝัน แต่โลกของเราบ้านของเรา มันแย่ลงทุกๆวัน ถ้าเรารู้แล้ว เราไม่ช่วย ผมมองว่าผมเป็นคนใช้ไม่ได้มากกว่า ผมเลยไม่อยากเป็นแบบนั้น”

กับ…ความรักของคุณสมัยก่อนกับตอนนี้แตกต่างกันไหม? “แตกต่างครับ สิ่งที่เหมือนเดิมคือ เวลารักคือรัก รักหมดหัวใจ แต่แตกต่างออกไปคือใช้เวลามากขึ้น ไม่ด่วนได้ด่วนสรุป เวลามีส่วนสำคัญกับความรัก ไม่ใช้อารมณ์ การที่จะบอกรักใครสักคน มันแค่พูด ยิ่งทุกวันนี้สามารถส่งคำว่ารักให้กับทุกคนในเวลาเดียวกัน แต่ความรักของผมมันดูที่การกระทำ และสิ่งที่จะบ่งบอกการกระทำของผมก็คือ เวลา”

ในเรื่องความรัก คุณคือผู้ชายมีตำหนิ รู้สึกไหมว่าเวลาไปจีบใคร เราไม่คู่ควรกับเขา? “ก็รู้สึกนะครับ รู้สึกว่าเราคิดมาก ต้องคิดให้ดี การที่จะมาเป็นแฟนผมมีข่าวแน่ๆ กลัวทำให้เขาเสียหาย ได้รับผลกระทบอะไรไหม แต่ถามว่าผมเป็นคนมีตำหนิหรือต่ำต้อยไหม โทษนะครับ ผมไม่รู้สึกอย่างนั้น ผมไม่รู้สึกว่า การที่ผมเคยมีแฟนมา หรือมีต้นทุนชีวิตที่สูงส่ง มันคือการที่ผมเป็นคนมีตำหนิ แต่ถ้าเมื่อไหร่ผมใช้ชีวิตแบบไร้ศักดิ์ศรีหรือปากอย่างใจอย่าง แบบนี้ผมคงไม่กล้าจะไปจีบใคร หรือให้ใครมารักผม ความต่ำต้อยมันควรเป็นการกระทำในตอนนี้มากกว่า”

รักล่มเมื่อ 8 ปีที่ผ่านมา เป็นบาดแผลในชีวิตไหม? “ไม่เลย ผมรักเต็มที่ ผมพูดในวันแถลงข่าว ผมพูดในตอนที่รัก รักหมดหัวใจ แต่จบคือจบ ไม่อยากย้อนอดีตไปแก้ไขใดๆ ผมรักแฟนผมทุกคน”

รักที่ผิดหวังในชีวิตคุณ มีไหม? “ไม่มีเลยครับ ไม่ว่ามันจะทุกข์หรือสุข แม้ว่าเราจะร้องไห้ให้กับมัน ผมว่ามันดีงามไปหมดเลย ผมยังอยากขอบคุณเขาเลย เวลาเรารักใครเรารักหมดหัวใจ แต่ถ้าวันนึงมันไม่ใช่ ไม่ว่าจะเขาผิดหรือเราผิด มันก็คือจบเหมือนกัน ไม่โกรธไปแค้นอะไรกันต่อ มีแค่คอยอวยพร เอาใจช่วยเขาเป็น ผู้หญิง ผมจะไปเอาอะไรมากมาย จากเขา เราแค่ใช้ชีวิตเหมือนกับที่เป็นมา ไม่มีเลยครับที่รู้สึกเสียใจหรือเศร้าใจ”

รักครั้งต่อไป คุณจะประณีตในการรักมากขึ้นไหม อย่างรักครั้งล่าสุดกับน้องณิชา? “(คิดนานมาก) ณิชาเนี่ย ผมบอกก่อนเลยว่า ยังพูดไม่ได้ว่าเป็นความรักครั้งใหม่ ถามว่าน้องเป็นคนสำคัญสำหรับผม เป็นสิ่งดีๆในชีวิตที่เรารู้สึกว่าดีใจที่ได้เจอคนคนนี้ แต่มันต้องใช้เวลา ใช้แค่คำพูดและกระแสไม่ได้ การที่เราจะคบกัน มันอยู่ที่เราสองคน ดังนั้น ตอนนี้ยังไม่ใช่”

คุณจีบเขาอย่างไร? “ยังครับ ผมไม่เชื่อเรื่องคำพูด ผมเชื่อเวลาและการกระทำ ดังนั้นสำหรับผมมันไม่สำคัญว่าผมจะจีบหรือยัง ผมปฏิบัติในแบบที่ผมรู้สึก ผมให้เกียรติเขา ถ้ามันจะใช่ มันก็คงใช่ แต่ตอนนี้มันไม่ใช่เวลา เขาคือความน่ารัก เป็นความสดใสของผม แต่มันไม่ใช่หน้าที่ของผมที่จะไปเป็นเจ้าของเขา ทุกอย่างจะเป็นไปตามความรู้สึกของเราสองคน ไม่มีใครมาบอกให้เป็นแฟนกันได้แล้ว เอาความรู้สึกของกันและกันเป็นตัววัดมากกว่า ถ้าวันนึงผมดีพอ”

มีอะไรที่อยากจะบอกณิชา แล้วยังไม่ได้บอกบ้าง–คุณชอบอะไรในตัวณิชา และรับกับความผิดหวัง รับได้ไหม ตอบตรงๆ กับไทยรัฐ ทอล์ค จันทร์นี้ ห้ามพลาด!!