จัดมาเป็นประจำทุกปี สำหรับพิธีมอบรางวัล เพชรกนก และ กนกนาคราช ประจำปี 2562-2563 เพื่อเชิดชูเกียรติคนดีศรีแผ่นดิน ซึ่งจัดขึ้นโดย สมาคมผู้ผลิตรายการภาพและเสียง เพื่อมอบรางวัลให้กับบุคคล และองค์กรที่สร้างประโยชน์ให้สังคมและประเทศชาติมาอย่างต่อเนื่องและยาวนาน เพื่อเป็นการส่งเสริม สร้างขวัญและกำลังใจให้แก่คนดีเหล่านั้นให้ร่วมกันสร้างสรรค์สังคมที่มีคุณธรรม จริยธรรม ตลอดจนเป็นแบบอย่างเพื่อปลุกกระแสการสร้างสังคมแห่งความดีอย่างเป็นรูปธรรม

โดยปีนี้จัดขึ้นวันที่ 29 ตุลาคม 2563 ที่หอประชุม ทีโอที ถนนแจ้งวัฒนะ กรุงเทพมหานคร ภายในงานได้รับเกียรติจาก นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ เป็นประธานในพิธีและเป็นผู้มอบรางวัล ทั้งนี้การดำเนินการจัดงานดังกล่าวอยู่ภายใต้การดูแลของ คุณกุลภัคศรณ์ ปุณณภัคพสิษฐ์ นายกสมาคมผู้ผลิตรายการภาพและเสียง

บรรยากาศภายในงานมีบุคคลสำคัญและมีชื่อเสียงที่ได้รับคัดเลือกจากคณะกรรมการ ซึ่งมีหลากหลายวงการเข้ารับรางวัล ได้แก่ ศาสตราจารย์พิเศษ วิชา มหาคุณ คณบดีคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต นักกฎหมายผู้ทรงความยุติธรรม, ดร.เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ศิลปินแห่งชาติ, ดร.สนั่น อังอุบลกุล, ดร.ปราจิน เอี่ยมลำเนา, นายอภิศักดิ์ ธนเศรษฐกร, คุณระริน อุทกะพันธุ์ปัญจรุ่งโรจน์

พร้อมด้วยบุคคลแวดวงบันเทิง อาทิ นายบริพันธ์ ชัยภูมิ นายกสมาคมนักเพลงลูกทุ่งแห่งประเทศไทย, นายวิบูลย์ ลีรัตนขจร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัท เซิร์ช จำกัด, นายพวง แก้วประเสริฐ (น้าพวง เชิญยิ้ม) พร้อมด้วย นายนงค์ ปิยะโชติ (น้านงค์ เชิญยิ้ม) นักแสดง พิธีกร และศิลปินผู้อนุรักษ์สืบสานศิลปะการแสดงพื้นบ้าน, นายจักรวาร เสาธงยุติธรรม หรือ หนึ่ง จักรวาร โปรดิวเซอร์ดนตรี ผู้กำกับดนตรี นักเรียบเรียงเพลง, นางสาวนนทิยา จิวบางป่า (เจี๊ยบ) ศิลปินนักร้อง นักแสดงอิสระ, นางสาวชลนรรจ์ ลิ่มไทย (ลูกปัด) ศิลปินนักร้อง, นางจิรวรรณ ชัยรุ่งเรือง (เอิร์น) อดีตศิลปินนักร้อง ฯลฯ

ด้าน นก บริพันธ์ ชัยภูมิ นายกสมาคมนักเพลงลูกทุ่งแห่งประเทศไทย เผยถึงความภาคภูมิใจที่ได้รับรางวัลกนกนาคราชในครั้งนี้ และยืนหยัดจะทำความดีเพื่อสังคมต่อไป “ที่ผมได้รับเป็นรางวัลสำหรับองค์กร ก็คือสมาคมนักเพลงลูกทุ่งแห่งประเทศไทย ต้องขอขอบคุณคณะกรรมการที่คัดเลือกและมอบรางวัลนี้ให้กับสมาคมฯ ในฐานะที่เป็นองค์กรที่ช่วยเหลือส่งเสริมศิลปวัฒนธรรมเพลงลูกทุ่ง และช่วยเหลือคนในวงการลูกทุ่งที่บาดเจ็บ ไม่สบาย หรือป่วย

อย่างน้าพวง เชิญยิ้ม กับ น้านงค์ เชิญยิ้ม กว่าจะมีวันนี้ยอมต่อสู้กับความลำบากเพื่อยืนหยัดในสิ่งที่ตัวเองรักนั่นก็คือ เรื่องของศิลปวัฒนธรรมแบบพื้นบ้าน ไม่ยอมไปเล่นแขนงอื่น อดตายยังไงก็ไม่เอา

จนกระทั่งประสบความสำเร็จมาถึงวันนี้ ก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่าทุกรางวัล ทุกคุณงามความดีจะไม่หายไปจากสายตา เพราะฉะนั้นเรามาหมั่นทำความดีร่วมกัน เพื่อให้ประเทศชาติบ้านเมืองของเราก้าวหน้าอย่างมีความสุขร่วมกันครับ”

ทางด้าน น้าพวง เชิญยิ้ม และ น้านงค์ เชิญยิ้ม รู้สึกปลื้มใจที่สามารถสร้างรอยยิ้มและความสุขให้คนดู ตั้งมั่นจะสืบสานศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้านไปจนกว่าจะหมดแรง

น้าพวง เผยว่า “จริงๆ แล้วมีท่านคนดูมาบอกกับพวกเราว่า ขอบคุณพวกเรา พ่อแม่ปู่ย่าตายายเขาแก่แล้ว บางท่านนอนติดเตียงไม่เคยมีรอยยิ้มเลยท่านก็กลุ่มใจในสังขารของท่านและสงสารลูกหลาน ก็เลยไม่ค่อยมีรอยยิ้ม แต่มามีรอยยิ้มตอนได้ดูพวกเรา ก็ได้รับคำขอบคุณจากลูกๆ หลานๆ เขา พวกเราก็รู้สึกภูมิใจเรื่องของศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้านเราตั้งใจจะสืบสานไปจนกว่าจะหมดเรี่ยวแรงครับ ตอนนี้ยังมีแรงอยู่อยากจะทำเพื่อสังคม เพื่อทุกท่าน อยากฝากข้อคิดให้กับน้องๆ ศิลปินไม่ว่าจะเป็นแขนงไหนก็ตาม ขอให้ทำคุณงามความดีเพื่อสังคม เพื่อประเทศชาติของเรา แล้วท่านจะได้รับสิ่งตอบแทนที่น่าภูมิใจครับ”

น้านงค์ เผยว่า “ต้องขอบคุณคณะกรรมการและผู้จัดงานนี้ที่ให้เกียรติพวกเรา ของผมเป็นรางวัลเพชรกนก เป็นรางวัลสำหรับบุคคลที่กระทำคุณงามความดีให้กับสังคมและประเทศชาติ ก็เกี่ยวกับเพลงพื้นบ้านที่เราทำไว้ ก็มีผม น้าพวง และน้าโย่ง เชิญยิ้ม เราทำให้คนดูมีความสุข ทำให้คนที่เขาป่วยติดเตียงลุกขึ้นมาดูพวกเราได้เราก็ปลื้มใจ และต้องขอบคุณที่ได้เล็งเห็นความดีที่เราได้ทำ รางวัลที่เราได้รับจะสร้างกำลังใจให้เรา และสร้างผลงานต่อไปให้ดียิ่งขึ้น รางวัลที่ได้รับมีผลกับกำลังใจเรามากๆ เลยครับ อะไรที่ดีอยู่แล้วจะทำให้ดียิ่งขึ้นครับ”.