นักร้องหนุ่มอุ้มลูกส่งภรรยาครั้งสุดท้าย แชร์ประสบการณ์เศร้าติดโควิดยกบ้าน


ให้คะแนน


แชร์

ซึ่งนักร้องหนุ่มได้โพสต์ภาพและข้อความว่า “เราจะดูแลลูกให้ดีที่สุดนะ ไม่ต้องเป็นห่วงนะ ปัดจะอยู่ในใจเราเสมอนะ เจ็บปวดมามากพอแล้ว ปัดทำดีที่สุดแล้วนะ หลับให้สบายนะแม่ พ่อสัญญาจะทำให้ลูกๆ มีความสุขที่สุดนะ”

และงานนี้นักร้องหนุ่ม แฮม PMN ก็ได้ไลฟ์สดเล่าประสบการณ์ติดโควิดและเรื่องราวของครอบครัวให้ฟังว่า “ไม่ได้ออกไปไหน แต่เพราะกำลังต่อเติมบ้าน เลยมีช่างเข้ามา ซึ่งตัวเองก็ไม่ได้โทษช่าง แต่ประมาทเองแหละ

ช่างเป็น 10 เข้ามาทำเกือบเดือน จนวันที่แม่ของปัดเป็นไข้ประมาณวันที่ 2-3 สิงหา ก็ไม่ได้คิดว่าจะเป็นโควิด เพราะอยู่แต่บ้าน และตัวผมไปเช็กสภาพรถ เลยแวะซื้อที่ตรวจโควิดแบบใช้สเลดไปให้แม่ตรวจ

ตอนที่ตรวจตัวเองเป็นคนทำโดยไม่ได้ใส่ถุงมือและแมสก์ เพราะไม่คิดว่าจะเป็นโควิด ครั้งแรกทำพลาด ครั้งที่ 2 ไม่ถึงนาทีขีดก็ขึ้น สรุปเป็นโควิด แม่หน้าซีดมาก ไม่ได้ออกไปไหนทำไมถึงเป็น 

พอรู้ก็คิดว่าต้องติด เลยตรวจปัด และผลออกมาว่าติด สุดท้ายผมตรวจแต่ไม่ติด ผมแยกมานอนกับลูกสาวคนโต แต่ผ่านไป 2-3 วัน ลูกสาวเริ่มมีไข้ ก็เลยคิดว่าน่าจะติด ก็เลยให้ลูกไปอยู่กับแม่และยายในบ้าน

กลางดึกคืนหนึ่งปัดขับรถไปโรงพยาบาลและเอาลูกทั้ง 2 คนไปด้วยโดยไม่บอกผม พอตรวจเจอต้องนั่งรอเข้าห้องพักที่ม้าหินอ่อน นั่งตากน้ำค้างกันทั้ง 3 คนกว่าจะได้เข้าห้อง 

พอมาตรวจก็รู้ว่าตัวเองติด ซึ่งก็ไม่ได้ดูแลตัวเอง นอนดึก สูบบุหรี่จัดมาก ถ้าติดโควิดคงไม่รอด ปัดก็บอกให้ผมไปโรงพยาบาลเพราะผมมีประกัน เขาทำไว้ให้ผม แต่เขาไม่ได้ทำให้ตัวเอง เพราะเขาห่วงผมมาก

วันแรกที่ผมเข้าโรงพยาบาลก็ได้ยาฟาวิพิราเวียร์ 9 เม็ด แต่ปัดได้แค่ยาพาราและต้มกระชายที่เอาไปด้วยกินเองในหม้อหุงข้าว หลังจากนั้น 3-4 วัน เขาก็เพิ่งได้กินยา ยาฟาวิพิราเวียร์ 9 เม็ด

ตอนนั้นเขาเหนื่อยมาก ออกซิเจนเริ่มตก ส่วนแม่ยายก็อาการหนักแล้ว เข้า ICU หมอจับนอนคว่ำแล้ว เพื่อให้ปอดได้ขยาย และหมอก็บอกให้ทำใจ ตอนที่แม่ไปโรงพยาบาลแม่ขี่รถเครื่องไปคนเดียวตอนกลางดึก

จากนั้นไม่กี่วัน ปัดก็เริ่มทรุด เพราะเชื้อลงปอดนิดหน่อย ส่วนผมเชื้อลงปอด ข้างขวาเริ่มเป็นฝ้า ซึ่งผมติดเชื้อเดลตา และปัดต้องเลี้ยงลูก 2 คนไปด้วย เขาก็ยิ่งเหนื่อย 

ผมกับปัดคบกันมาตั้งแต่ปี 2012 วันที่ 24 สิงหา เป็นวันครบรอบที่เราคบกัน จะบอกว่าสุขสันต์วันครบรอบก็ไม่ได้เพราะเขาไม่รู้สึกตัวแล้ว 

พอผมเห็นรูปปัดในโทรศัพท์ที่พยาบาลถ่ายไว้ เขาเหนื่อยมาก (ร้องไห้) แววตาเขาสู้ เหมือนมีความหวัง เขาดูทรมานมาก มันน่ากลัวกว่าความตาย 

ซึ่งบ้านผมติดโควิดยกบ้าน ทั้งแม่ของผม และยายของผม ผมก็เลยย้ายโรงพยาบาลเพื่อดูแลลูก ตอนที่เห็นลูกผมร้องไห้ สงสารเขามาก และตอนนั้นก็คิดว่าปัดต้องเหมือนแม่แน่ๆ เลย 

แต่ไม่นานตัวเองก็ต้องถูกส่งไปรักษาตัวต่อที่โรงพยาบาลสงขลา ต้องฝากลูกไว้กับยายผมอายุ 70 กว่า และไม่บอกปัดแต่ถ่ายรูปเอาไว้เยอะๆ ส่งไปหลอกเขาเพราะไม่อยากให้เขาเครียด

ผู้ป่วยโควิด เป็นผู้ป่วยที่หดหู่มาก นอนอยู่บนเตียงโดดเดี่ยว มองแต่เพดาน ตอนนั้นออกซิเจนปัดตกอีกแล้ว แต่ปัดยังรู้สึกตัว ยังยิ้มยังยกมือได้ คิดดูว่าปัดสู้แค่ไหน

ผมส่งรูปลูกไปให้เขา ส่งไปที่ไลน์พยาบาลให้เขาดูว่าลูกกินข้าวเยอะมาก ดื้อมาก ไม่ต้องห่วง อาการผมก็ดีขึ้นด้วย เรื่องลูกจริง แต่เรื่องผมไม่จริง

พยาบาลส่งข้อความกลับมาบอกว่าเขายิ้มและร้องเลยที่เห็นคลิปลูก เขามีความสุขมากตอนที่ลูกกินข้าว พยาบาลส่งรูปปัดยิ้มชูสองนิ้ว ทั้งๆ ที่มีสายอยู่เต็มปาก เป็นภาพที่ผมมีความหวังว่าปัดเก่งมาก แต่พยาบาลบอกว่าอาการแย่ลง

หลังจากถ่ายรูปนั้นรูปสุดท้าย เขาก็เริ่มไม่ไหวแล้ว ปัดอยู่ไอซียูผมคุยกับปัดไม่ได้แล้ว ปัดพิมพ์อะไรไม่ได้แล้ว ผมโทรหาพยาบาลทุกวัน

จนวันที่ 23 ส.ค. ผมจะได้กลับบ้านแล้ว ผมรักษามา 12 วัน หมอให้กักตัวที่บ้านอีก 2 อาทิตย์ ผมดีใจมากจะได้กลับบ้าน

ผมจะบอกปัดว่าผมหายแล้วนะ แต่ตอนนั้นปัดไม่รู้สึกตัวแล้ว ผมไปรับลูก แต่ต้องเจอข่าวร้ายแม่ยายเสีย ยังบอกพี่สาวแฟนว่าอย่าบอกปัด เดี๋ยวปัดจะหนักกว่าเดิม แต่ปัดไม่รู้สึกตัว ต้องย้ายไป รพ.ที่ 4 แล้ว ปอดไม่ดีแล้ว ต้องให้ยานอนหลับ รีเฟอร์ปัดไป รพ.มอ.

ทุกครั้งที่ผมโทรไปถามอาการก่อนวางสายผมจะถามตลอดว่าเขาทรมานไหม เขาบอกให้ยานอนหลับ เขาไม่ทรมาน ต่อมาพบว่าปอดติดเชื้อแทรกซ้อน

ต่อมาหมอบอกว่าปัดไม่ตอบสนองต่อการรักษา เขาเริ่มดื้อยา ไม่เอายาตัวไหน (ร้องไห้) ก็ถามว่าจะรอดมั้ย แต่หมอบอกไม่ได้ เพราะเป็นโรคใหม่ก็รักษาตามกระบวนการ หมอจะพูดให้ผมทำใจใช่มั้ย

ตอนนั้นผมเครียดมาก จะทิ้งกันอีกแล้วเหรอ แม่ไปแล้ว ปัดก็จะทิ้งไปอีกคนเหรอ ปัดเป็นคนชอบทำบุญทุกวัน ผมเลยจุดธูปไหว้พระขอให้ช่วยให้ปัดอาการดีขึ้น ต้องบนแล้ว แต่ปัดก็ทรุดลงอีก 

ทำบุญมาทั้งชีวิต บุญคืออะไร แต่บุญที่ปัดกับแม่ไปทำทุกเช้ามันเปล่าประโยชน์ คนที่ตายคือคนที่ไปสบายแต่คนที่ยังอยู่คือคนเวร ต้องมารับรู้เรื่องการสูญเสีย 

หมอบอกว่าพยายามเต็มที่ขยายเครื่องช่วยหายใจกว่านี้ปอดจะแตก เขารักษาตามกระบวนการหมดแล้ว ทุกกระบวนการรักษาไม่ได้แล้ว อัดยาไปเยอะแล้ว จนร่างกายมีผลลบแล้ว อวัยวะอื่นๆ เริ่มทำงานหนัก ให้ยาจนไม่กล้าให้ต่อแล้ว

รู้ว่าปัดสู้สุดๆ แล้ว รู้ว่าปัดเหนื่อยมาก ทรมาน ไม่โทษใคร รู้ว่าปัดสู้ สู้เพื่อลูก แต่สู้ไม่ไหว เขาให้วิดีโอคอลครั้งสุดท้าย ผมมองหน้าปัดได้ไม่ถึง 5 วิ

ผมมองไม่ได้สภาพสงสารมาก เขาไม่รู้สึกตัวเลย ผมพูดกับเขาว่า ปัดต้องกลับมานะลูกรออยู่ เขาไม่ได้ยินหรอกเขาหลับอยู่ แต่ผมไม่หมดกำลังใจ

จนมาถึงทางตัน ผมบอกหมอทำยังไงก็ได้ให้เขาไปแบบไม่เจ็บปวด ผมไม่หลับไม่นอนนั่งจ้องโทรศัพท์ หมอโทรมาบอกเสียใจด้วยคนไข้จากไปตอนเที่ยงคืนสามสิบหกนาที ในระหว่างที่ไลฟ์นั้นนักร้องหนุ่มร้องไห้ ซึ่งก็มีแฟนๆ เข้ามาคอมเมนต์ให้กำลังใจมากมาย 

ดูข่าวต้นฉบับ

ที่มา : https://www.thairath.co.th/entertain/news/2189061
ขอขอบคุณ : https://www.thairath.co.th/entertain/news/2189061