ต้อม ณหทัย ร่ายยาว วิถีชีวิตคนอยู่ริมน้ำ สวดมนต์ไม่ช่วยอะไร


ให้คะแนน


แชร์

ต้อม ณหทัย ร่ายยาว วิถีชีวิตคนอยู่ริมน้ำ สวดมนต์ไม่ช่วยอะไร

เกาะติดข่าว กดติดตาม ข่าวสด

เป็นผู้เดือดร้อนจากภัยน้ำท่วมอย่างเต็มตัว สำหรับนักแสดงรุ่นใหญ่ ต้อม ณหทัย พิจิตรา ที่ตอนนี้น้ำท่วมขังถึงระดับอก แถมกระแสน้ำยังพัดเรือโบราณจมน้ำเสียหายหลักล้าน

ข่าวสดบันเทิงออนไลน์ ต่อสายตรงถามสถานการณ์น้ำที่บ้านตอนนี้ เจ้าตัวร่ายยาวรวดเดียวจบ ถึงปัญหาที่เจอตอนนี้ว่า

“วิถีชีวิตของคนริมน้ำ ตอนนี้เหนื่อยมาก เหนื่อยยกของยกกันหลายรอบ ยกกันจนกล้ามขึ้นแล้วตอนนี้ ยกหนีน้ำทุกวัน มันท่วมขังมาประมาณร่วมเดือนแล้ว แต่น้ำไม่ได้ลดลงเลยมาหนักขึ้นและหนักขึ้น อย่างที่บอกว่ามันขนกันหลายรอบมากแล้ว เทินกันจากเมตรไป 2 เมตร 3 เมตร จนตอนนี้คนที่อยู่บ้านชั้น 2 เขาจะไปอยู่หลังคากันอยู่แล้วนะ

คนแถวบางไทร บางบาล แถวเสนาหนักมากจริงๆ ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมปีนี้มันถึงหนักขนาดนี้ มันก็น้องๆปี 54 แล้วนะ ที่บ้านระดับน้ำอยู่อก แต่ได้ข่าวมาว่าอาจจะระบายมาอีกอีกประมาณ 50 เซนติเมตร คือถ้าเกิดมา 50 เซนติเมตร เราต้องไปอยู่บนหลังคาบ้านกันแล้วไหม คงไม่ไหวแล้ว

เมื่อวานที่ไปขับรถดูบริเวณที่เป็นทุ่งรับน้ำ ทำไมถึงไม่มีน้ำ อันนี้ก็งงเหมือนกันนะตรงนั้นที่เคยเป็นทุ่งรับน้ำไม่มีน้ำและอยุธยาก็ไม่มีน้ำ อันนี้เป็นเรื่องน่าแปลกนะสำหรับพี่ การท่วมไม่ทั่วถึงและก็มีข่าวว่าจะปล่อยมาอีกแล้ว

สมมุติว่าคุณจะปล่อยหรือระบายน้ำจากคนต้นน้ำอะไรก็แล้วแต่ คุณช่วยคุยกับปลายน้ำหน่อยว่าน้ำทะเลหนุนหรือเปล่า ถ้าน้ำทะเลมันหนุนคุณอย่าเพิ่งปล่อยได้ไหม เพราะคนที่อยู่ตรงกลางคนที่อยู่ริมน้ำ มันก็จะลึกขึ้นคุณควรคุยกันหน่อยการบริหารจัดการน้ำต้องใช้กึ๋นกว่านี้หน่อย

คุณต้องเห็นใจบ้างถ้าเกิดเป็นบ้านคุณ คุณจะรู้สึกอย่างไรไม่ต้องบอกให้เขาสร้างบ้านสองชั้นหรอก คนอยู่ริมน้ำเขามีสมอง ส่วนใหญ่เขาสร้างบ้าน 2 ชั้นอยู่แล้ว แต่ตอนนี้เขาขึ้นไปอยู่ชั้น 2 แล้ว ถ้าคุณยังปล่อยน้ำมาแบบนี้ โดยที่ปลายน้ำมีน้ำทะเลหนุนคือคุณต้องรู้ล่วงหน้า

เพราะตอนนี้บางบ้านเขาไปอยู่บนหลังคา ก็มีบางครอบครัวที่ต้องอพยพไปอยู่ริมถนนลำบากมากกางเต็นท์อยู่กลางวันก็แดดร้อนๆได้ถุงยังชีพหรอ ซึ่งมันก็ยังไม่ได้จริง ต้องวอนผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องเรื่องการจัดการบริการน้ำ ช่วยประสานงานกันให้ดีนิดนึง

ตัวพี่เองก็ถือว่าเป็นผู้ประสบภัยที่หนีโควิคมาจากนนทบุรีเพราะว่าตอนนั้นนนทบุรีเป็นพื้นที่สีแดงเข้ม เราก็หนีมาอยู่บางไทร เพราะเราต้องการที่จะหนีโรค ต้องเรียกว่าหนีเชื้อปะจระเข้

เป็นอะไรก็ไม่รู้ดึกๆดื่นๆชอบปล่อยน้ำ คุณต้องประกาศล่วงหน้าให้เขารู้ตัวจะได้มีการเตรียมตัวและน่าจะมีการเยียวยาชาวบ้านให้มากกว่านี้ ถ้ามีทางไหนที่จะกักน้ำไม่ให้ท่วมในพื้นที่ ก็ต้องยอมที่จะจัดเก็บภาษีของคนที่จะกักน้ำไว้ให้กับคนที่เขาต้องมารับน้ำ

มันต้องมีการจัดการบางอย่างให้มีมนุษยธรรมและช่วยกันมากกว่านี้ ในเมื่อคนเขาอยู่ริมน้ำกันมาแล้ว จะให้เขาย้ายไปอยู่ที่ไหน การบริหารจัดการน้ำพี่ว่าช่วยได้ อย่าบอกให้ไปสวดมนต์ สวดมนต์ไม่ช่วยจริงๆ เพราะพี่เป็นคนสวดมนต์ทุกวัน อย่าบอกเราให้คนริมน้ำเขาปลูกบ้าน 2 ชั้น

คนอยู่บ้านริมน้ำร้อยละ 80 ยกพื้นสูง 2 – 3 เมตรไปดูได้เลย เพราะฉะนั้นไม่ต้องบอกให้เขาสร้าง 2 ชั้น เพราะเขาสร้างอยู่แล้ว เขาอยู่ชั้น 2 แต่ถ้าเกิดยังเป็นแบบนี้ เขาจะต้องขึ้นไปอยู่บนหลังคาแล้ว คนที่มีส่วนเกี่ยวข้องต้องบริหารจัดการให้ดีกว่านี้ นี่คือสิ่งสำคัญมากๆ”

ถ้าพูดถึงมูลค่าความสูญเสียจากน้ำท่วมครั้งนี้? “มันว่ากันเป็นหลักล้าน แต่มันก็เป็นคุณค่าทางจิตใจของเราด้วยแล้ว สงสารชาวบ้านที่เขาติดอยู่ในบ้านไปไหนมาไหนไม่ได้ อย่างเราต่อเรือมาขึ้นรถตู้เราก็จอดไว้ที่สูง แต่บางคนเขาไม่ได้มีแบบนี้ เขาลำบากมากกว่าเราหลายเท่า บางทีเห็นหน่วยงานราชการมาระดับรองผู้ว่ามา ก็มาแค่แจกถุงยังชีพเหรอ ถุงยังชีพบางทีก็ไม่ได้ใช้ได้จริง ต้องมาดูว่าจะช่วยเยียวยาชาวบ้านเขาได้อย่างไร

ตัวพี่เองสูญเสียเรือไป 1 ลำ ทั้งฝน ทั้งลม ทั้งแรงน้ำทุกอย่างมันประดังมามันก็สูญเสียเยอะระดับน้ำที่สูงมากจริงๆอย่าให้หนักเหมือนปี 54 เลย แล้วน้ำปี 54 มันมีหลายอย่างมีน้ำการเมืองด้วย บางทีกักไม่ยอมให้เข้าพื้นที่ตัวเอง อย่าทำอย่างนั้นเลย ความเห็นแก่ตัวนำมาซึ่งความหายนะ”

ขอบคุณรูปจากไอจี : tom_nahatai

ดูข่าวต้นฉบับ

ที่มา : https://www.khaosod.co.th/entertainment/news_6664461
ขอขอบคุณ : https://www.khaosod.co.th/entertainment/news_6664461