“บิวกิ้น” เคลียร์ดราม่า “I ไม่ O” คล้ายเพลงเกาหลี ปลื้มของขวัญวันเกิดจากแฟนคลับ


ให้คะแนน


แชร์

“เพลงเก็บไว้ตลอดไป (Once & Forever) เป็นเพลงที่ยังอยู่ในความเป็นโซลป๊อปแต่ลดจังหวะกลางๆ เป็นเพลงโรแมนติกเพลงรักหวาน เล่าถึงการที่เราให้คุณค่ากับความทรงจำ บางทีการที่เราเคยผ่านเรื่องราวอะไรมา พอเรานึกย้อนกลับไปหรือไปเจออะไรที่ทำให้เรานึกถึงสิ่งนั้น เราอาจจะให้คุณค่ามันกว่า ณ เวลานั้นที่เราเจอมันจริงๆ มันเกี่ยวข้องกับผมส่วนนึง ตรงที่ผมเป็นคนอินกับเรื่องของความทรงจำ เพลงนี้อีกความพิเศษคือผมมีโอกาสได้ร่วมงานกับทีมทำเพลงเก่งๆอีกทีมหนึ่ง มีทางพี่ปิ้ว TELEx TELEXs มาเป็นโปรดิวเซอร์ และได้พี่โป-โปษยานุกูล มาเขียนเนื้อให้ ก็เหมือนเราได้เพิ่มประสบการณ์ที่ได้ไปทำงานกับคนเก่งๆ มากขึ้น ผมก็มีส่วนร่วมได้แชร์ไอเดียด้วยครับ”

ถามเรื่องเพลง I ไม่ O ที่มีกระแสว่าคล้ายกับเพลง You’re So Fine ของวง CNBLUE?

“จริงๆเพิ่งทราบประมาณวีกนี้ว่าเพลงมีบางส่วนที่ไปคล้ายกับเพลงของซีเอ็นบลู ก็มีการคุยกันภายในกับพี่ๆนาดาวมิวสิค และพี่เบล-สุพล ที่เป็นโปรดิวเซอร์ ทีมที่แต่งเนื้อ-ทำนองด้วย ส่วนตัวผมไม่เคยฟังเพลงนี้มาก่อน เราเพิ่งมาทำความรู้จักทีหลัง พอเราฟังแล้วก็รู้สึกว่ามีบางส่วนที่มันคล้ายจริงๆ เราก็กลับไปดูไปคุยกับพี่ๆทีมงานว่ามันเป็นยังไง ทางพี่เบลก็กลับไปถามต่อทางพี่บี อีทีซี กับพี่ปิง-จิระวัฒน์ ที่แต่งทำนองและเนื้อร้อง พอเค้าฟังมันก็มีหลายๆอย่างที่ฟังแล้วทำให้รู้สึกคล้ายกัน จริงๆเวลาที่เราทำเพลงมันจะมีการตั้งอารมณ์ของเพลงว่าอยากได้เป็นจังหวะประมาณไหน เวลาเขียนทำนองหรือเนื้อเราก็พยายามขึ้นมันใหม่อิงจากคอนเทนต์ของเรา การเริ่มต้นทำเพลงของเราคือเริ่มจากผมทำเพลงโซลป๊อปที่มีจังหวะ พี่บีเค้าก็ขึ้นโครงนี้มาให้ฟัง เราก็ชอบไม่ได้มีเจตนาและไม่ได้มีใครรู้มาก่อนว่ามีเพลงนี้ที่คล้ายๆกับเรา จนพักนึงเราเพิ่งจะมารู้ว่ามีเหตุการณ์นี้ขึ้น”

ได้ฟังเพลงนี้แล้วรู้สึกยังไง?

“มีส่วนที่คล้ายหลายจุดแต่ก็มีส่วนที่ไม่เหมือน เราก็รู้สึกว่าเพลงเค้าเพราะ เราก็ชอบเพลงเค้า ชอบมาก ตกใจมากกว่าที่มาคล้ายเพลง I ไม่ O

นอยด์มั้ย?

“จริงๆก็มีนอยด์นิดนึง พูดตรงๆ เหมือนเราไม่รู้ เราก็ร้อนใจว่าเกิดจากอะไร พอไปคุยกับพี่ๆทีมงานเค้าก็อธิบายกระบวนการทำงาน เค้าไม่ได้มี ref เป็นเพลงนี้จริงๆ มันอาจจะเป็นเรื่องบังเอิญจริงๆที่มันออกมาแล้ว มีความคล้ายกัน เรารู้ว่าเราไม่ได้มีเจตนาไปลอกเลียนงานของใคร เราไม่ได้บั่นทอนเพราะเรารู้สึกว่าบริสุทธิ์ใจมากกว่า เราทำเพลงนี้ขึ้นมาจากศูนย์จริงๆ”

ไม่ถึงขั้นเป็นแผลในใจ?

“ไม่ถึงขนาดนั้นครับ”

ค่ายที่เกาหลีมีฟีดแบ็กกลับมายังไง?

“จริงๆมีทางทีมของนาดาวมิวสิคติดต่อไปทางค่ายของซีเอ็นบลู มีการทำจดหมายไปเล่าให้เค้าฟังถึงเคสที่เกิดขึ้น ไปบอกเค้าว่าเราไม่ได้มีเจตนาหรือความตั้งใจจะลอกงานเค้าจริงๆ”

วันเกิดปีนี้ยิ่งใหญ่กว่าทุกปีอย่างไรบ้าง?

“แฮปปี้ครับ มันยิ่งใหญ่กว่าทุกปี เราโตขึ้นทุกปีด้วย เราก็ดีใจที่มีคนรักคนชื่นชอบเรา ชอบสิ่งที่เราทำเพิ่มมากขึ้น ดีใจที่มีคนเห็นคุณค่าในความเป็นตัวเรา เห็นคุณค่าในสิ่งที่เราทำขอบคุณที่รักและซัพพอร์ตผม ยิ่งมีมากขึ้นเรายิ่งดีใจ เราพยายามพัฒนาตัวเองในทุกๆด้าน ขอบคุณทุกคนที่ร่วมเดินทางด้วยกันมาตลอด”

แฟนคลับตั้งใจทำเพลงให้?

“เราดูแล้วน้ำตาซึม เค้าใส่ใจในรายละเอียดของชีวิตเรา ผมเป็นคนที่อินกับเรื่องของความทรงจำ เราดีใจ เราแฮปปี้ที่มีคนมาเป็นกำลังใจให้เรา เค้าช่วยผมในทุกอย่าง ซัพพอร์ตเราทุกๆทาง ทำให้เราเป็นตัวเองในเวอร์ชันที่ดีขึ้นในทุกๆวัน”

แฟนคลับทำบุญให้หลัก 1.3 ล้าน?

“ประทับใจหมดเลยไม่ว่าเค้าจะทำอะไรให้เราในรูปแบบไหน แค่เค้าชื่นชอบเรา ชื่นชอบงานที่เราทำก็เป็นกำลังใจให้เราแล้วนะ ไม่ได้ดูที่ตัวเงินว่ามีคนมาบริจาคให้เราเท่าไหร่ถึงแสดงว่าเค้ารักเราเยอะ”

โปรเจกต์ต่างๆที่แฟนๆทำให้มีโอกาสได้ไปดูบ้างมั้ย?

“ไปมาครับ จะมีพี่ผู้จัดการไปไล่ดูว่ามีป้ายเราอยู่ที่ไหนบ้าง ถ้าเราจะไปถ่ายรูปกับป้ายมาเวลาไหนถึงจะสวย เราไม่เคยคิดเลยว่าเราจะได้มีโอกาสมาอยู่ในวงการอะไรแบบนี้ ผมว่ามันเป็นกำไรชีวิตมากๆ”

ของขวัญจากแฟนๆเอารถอะไรมาขนกลับ?

“ของขวัญเยอะมากครับ มีพี่ๆที่นาดาวเป็น 10 คนมาช่วยดูของช่วยแยกของให้ มีทั้งมาจากแฟนคลับที่ไทยและต่างประเทศ มันเยอะจนเรารู้สึกว่าเราคงจะใช้มันไม่ทัน ของที่เค้าให้มามันไม่ได้มีมูลค่าแค่ตัวเงินแต่มันมีมูลค่าทางจิตใจ พูดตรงๆ ผมจะเก็บอะไรต่างๆที่เป็นความทรงจำดีๆของผม ถ้าคนเขียนการ์ดมาให้ตั้งแต่วันแรกที่ผมเข้ามา ผมจะเก็บหมด แต่ถ้าเก็บไว้จนถึงตอนแก่แล้วเอามาเปิดอ่านก็คงจะแฮปปี้ที่ได้อ่านมัน ของต่างๆบ้านผมเก็บไม่หมดแล้ว ผมเอาขึ้นกระบะขนไปที่บ้านแล้วทีนึง เราทิ้งไม่ลง แต่บ้านเราก็ไม่ได้เป็นคฤหาสน์ใหญ่โตเลยฝากเอาของไปเก็บไว้ที่โรงงานที่บ้าน อีก 10 ปีเรามีบ้านใหม่ค่อยทำเป็นพิพิธภัณฑ์”

ขอถามเรื่องที่ถูกคุกคาม?

“ผมว่าส่วนนึงมันอาจจะเกิดจากส่วนนึงแล้วเราโตขึ้น มันก็มองได้หลายมุม บางคนอาจจะมีเจตนาดีแต่เค้าอาจจะลืมนึกถึงเรื่องการคุกคามตรงนี้ไป ก็ปรึกษากับพี่ๆ มากกว่าว่าเราจะบอกเค้ายังไงดีว่าทำแบบนี้ไม่ดีนะ กับอีกส่วนนึงที่จริงๆ พูดง่ายๆก็คือเจตนาไม่ดีแหละ เอาความเป็นส่วนตัวหรือเอาอะไรบางอย่างของเราไปแสวงหาผลกำไร จริงๆ ทางบริษัทนาดาว มิวสิค และนาดาว บางกอก ก็สกรีนเรื่องพวกนี้ให้ผมอยู่แล้ว ผมไม่เล่นทวิตเตอร์ไง ก็จะไม่รู้เรื่องราว พี่ๆเค้าจะคอยดูแล คอยบอกเราอยู่แล้ว ก็อาจจะมีการดำเนินคดีบ้างกับการที่เค้ามาคุกคามเราโดยมีเจตนาที่ไม่ดี ก็นิดนึงว่ามันอาจจะต้องทำให้เราระวังตัวมากขึ้น เพราะเราไม่รู้ว่าเค้าจะเอาข้อมูลส่วนตัวของเราไปทำอะไร ช่วงนี้ก็ไม่ค่อยมีเพราะผมก็ไม่ค่อยออกจากบ้านด้วยครับ”.

ดูข่าวต้นฉบับ

ที่มา : https://www.thairath.co.th/entertain/news/2216777
ขอขอบคุณ : https://www.thairath.co.th/entertain/news/2216777