เรื่องบุญเทหมดหน้าตัก! “อ้น สราวุธ” ยอมสละเงินก้อนสำคัญ นำมาช่วยเหลือคน


ให้คะแนน


แชร์

เรื่องบุญเทหมดหน้าตัก! “อ้น สราวุธ” ยอมสละเงินก้อนสำคัญ นำมาช่วยเหลือคน ตอบเรื่องหัวใจ เป็นคนมีลูก(บุญธรรม)เยอะ ใครจะเข้ามาก็ต้องรับให้ได้

เกาะติดข่าว กดติดตาม ข่าวสด

เข้าสู่วัย 45 ปีไปหมาดๆ เมื่อวันที่ 2 ต.ค. ที่ผ่านมา แต่ต้องบอกเลยว่ากาลเวลาไม่สามารถทำอะไร นักแสดงหนุ่ม อ้น สราวุธ มาตรทอง ได้เลย เพราะเจ้าตัวนั้นทั้งหนุ่มและแน่น แถมดูแลตัวเองดีสุดๆ

ล่าสุด วันที่ 25 ต.ค.นักแสดงหนุ่ม อ้น สราวุธ มาฟิตติ้งซีรีส์วายแห่งปี “สะพานปูน” ณ Dad Studio Bangkok ประดิษฐ์มนูธรรม และให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับวันเกิดที่ผ่านมา โดยเจ้าตัวบอกว่าปีนี้หมดเงินไปกับการทำบุญเยอะมาก

เพิ่งผ่านวันเกิดมา “45 ปีครับ ดีใจนะ ย้อนกลับไปผมคิดว่าผมกลัวเลข 3 มากเลย ผมคิดว่ามันคงน่ากลัวมาก มันคงใส่กางเกงยีนส์ไม่ได้ เพราะเราเลข 3 แล้วอะไรแบบนั้น คิดเยอะมาก แต่พอผ่านเลข 3 ปุ๊บอ้าวไม่เห็นมีอะไรเลยวะ (หัวเราะ) พอชีวิตมันเลยไป รู้สึกว่ามันเป็น 45 ที่เรามีความสุขครับ ก็รู้สึกรักตัวเองมากขึ้นและภูมิใจกับตัวเองด้วยครับ”

ได้ทำบุญอะไรบ้าง “เยอะมาก เพราะเดือนนี้เป็นเดือนตุลาคมที่ทำบุญโคตรเยอะครับ จริงๆ แล้วมีเงินเก็บไว้เป็นของขวัญก้อนนึง แต่ตอนนี้หมดแล้ว เป็นเดือนที่ทำบุญเยอะมากจนเงินเก็บที่จะเอาไว้เที่ยวหมดแล้ว”

ไปทำบุญด้านไหนทำไมใช้เงินเยอะ “คือมันเป็นช่วงบังเอิญมั้ง เราก็ช่วยเหลืออะไรหลายๆ อย่างมาตลอด จริงๆ แล้วมันเป็นเงินจากการที่ผมขายรถไป ช่วงโควิดผมก็ขายรถคันที่ผมรักไปคันนึง เป็นรถเก่าวินเทจ ก็เอาไว้สำหรับซัพพอร์ตวางแผนการเงินในอนาคต เพราะเราไม่รู้ว่าโควิดมันจะเป็นยังไงกับเราบ้าง ทีนี้ผมก็ได้เงินมาก้อนนึงเป็นเงินของขวัญ ก็เป็นเงินของผมแหละ แต่ที่บ้านก็แบ่งให้เป็นเงินอ้นก้อนนึง อยากจะกิน จะเที่ยวอะไรก็ว่ากัน เพราะมันก็ไม่ได้ไปเที่ยวไหนมากอยู่แล้ว

ปรากฎว่าเดือนตุลาคมมีคนขอความช่วยเหลือมา ญาติพี่น้อง เพื่อน แฟนๆ ทำบุญ ปล่อยชีวิตสัตว์ ช่วยเหลือบ้าน ทำนู่นทำนี่ พูดเยอะเดี๋ยวดูเหมือนคนรวย แต่ตอนนี้พูดเลยนะครับ เส้นแดงมาก ยังไม่ต้องขอมาเพิ่มนะครับ (หัวเราะ) ตอนนี้ถ้าอยากจะขอก็อยากจะบอกว่าถ้าใครมีเงินเยอะๆ ช่วยบริจาคให้ผมบ้าง เพราะตอนนี้เงินหมดแล้ว (หัวเราะ)”

เป็นหลักล้านเลยมั้ย “ไม่ได้ล้าน คือผมไม่ใช้เงินเยอะ และคิดว่าเราต้องตั้งหลักในการใช้ชีวิตนะ เงินค่าขนมผมประมาณ 5 หมื่นครับ ที่ผมกันไว้ของผมเอง ซึ่งที่บ้านบอกว่าอยากจะเอาไปทำอะไรก็ไปทำ แต่นี่ยังไม่ได้บอกที่บ้านนะ”

ได้ทำแบบนี้แล้วรู้สึกยังไงบ้าง “สบายใจมากครับ รู้สึกมีความสุข จริงๆ แล้วเงินมันเป็นเรื่องสำคัญมากสำหรับเราทุกคนช่วงนี้ มันเป็นช่วงที่เราต้องกระเบียดกระเสียน ต้องประหยัด ต้องวางแผน ฟุ่มเฟือยไม่ได้ ผมเข้าใจเรื่องนี้มาก แต่มันกลายเป็นเดือนตุลาคมที่ผมได้ทำบุญเยอะมากในหลายๆ ทาง ซึ่งผมก็ดีใจนะ แต่ผมแค่แอบกลัวที่บ้านนิดนึง (หัวเราะ) เพราะถ้าเขารู้เขาอาจจะตกใจ”

ถ้าบอกไปเขาจะเซอร์ไพรส์เหรอ “ถึงบอกเขาก็ไม่เซอร์ไพรส์หรอก เขารู้นิสัยเราอยู่แล้ว แต่เรายังไม่กล้าบอกเท่านั้นเอง (หัวเราะ) 5 หมื่นเยอะนะ แต่ช่างมัน ไม่เป็นไร ตอนนี้ก็กลับมาเริ่มทำงานแล้ว เราก็ใช้วิธีตั้งหน้าตั้งตาทำงาน เราทำธุรกิจด้วยก็ตั้งหน้าตั้งตาขายของ ตอนนี้กำลังถ่ายสะพานบุญก็ตั้งหน้าตั้งตามาทำงาน มีอะไรดีก็ทำๆ เก็บเงินไว้ เอาไว้วางแผนในอนาคต เราทำตัวดีๆ ที่บ้านจะได้ไม่ว่าเวลาที่เราทำบุญเยอะ”

มีซื้อของอะไรให้ตัวเองมั้ย “(ส่ายหน้า) ไม่ได้ซื้ออะไรให้ตัวเองครับ เพราะรถเก่าคันนั้นเป็นของขวัญวันเกิดเมื่อ 3 ปีที่แล้วที่ซื้อให้ตัวเอง แต่ตั้งแต่โควิดเราได้อยู่กับมัน ได้ดูแลมัน รักมากๆ เลย พอถึงเวลานี้มันเกิดสถานการณ์แบบนี้เราต้องอยู่กับความเป็นจริงนะครับ ถึงแม้เราจะรักอะไรก็ตาม แต่ในความเป็นจริงมันสอนให้เรารู้ว่าอะไรที่เราตัดได้เราต้องตัด และวางแผนในอนาคตให้ดีเพราะฉะนั้นผมก็ต้องยอมสละของรักของผมออกไป 1 ชิ้น ผมก็ไม่ได้ร่ำรวยอะไรมากมาย ที่มีอย่างทุกวันนี้ก็เก็บเงินเก็บทองมาและสร้างมาด้วยตัวเอง”

45 ปีแล้วเรื่องหัวใจเป็นยังไง “ผมมีลูกแล้วนะครับ ลูกผมมีเยอะมาก ถ้ารักผมต้องรักลูกผมมากๆ และลูกติดเยอะมากนะครับ บอกก่อนเลยว่ารักคนโสด ซิงๆ พันธะไม่มี ตรงนี้ไม่มีนะครับ (หัวเราะ) คือลูกเยอะมาก แต่ว่าผมชุ่มช่ำดี จะมีคนให้เราได้คุยบ้างมันก็มีแหละ เราก็ขอใช้เวลากับมันเอง”

มองเรื่องคู่ชีวิตไว้บ้างมั้ย “เราเคยเป็นคนที่แพลนเรื่องชีวิตคู่และครอบครัวนะครับ แต่พอเราผ่านชีวิตมาพอสมควรเราก็รู้สึกว่ามันไม่มีแพลนใดเลยที่มัน 100% ทุกอย่างสามารถเปลี่ยนแปลงได้ แม้แต่ธุรกิจ ทุกวันนี้ผมไม่เคยคิดเลยว่าวันนึงผมมองฟ้าแล้วผมจะไม่เห็นเครื่องบิน

เพราะฉะนั้นตอนนี้สิ่งที่เราทำได้คือปัจจุบันนี้เท่านั้นเอง ทำให้มีความสุขที่สุด ถ้าเรามีคนที่เรารักก็ดูแลให้ดีที่สุด แต่สิ่งสำคัญคือคุณต้องเริ่มรักตัวเองก่อน เพราะถ้าไม่มีตัวเราแล้วเราไปไม่รอดนะครับ และที่เหลือมันจะแบ่งปันให้คนอื่นได้ และสำหรับจะมีใครในอนาคตหรือจะยังไงผมว่าถึงเวลามันก็คงจะมีของมันเองครับ ไม่เหงาครับ เหนื่อยมาก”

ดูข่าวต้นฉบับ

ที่มา : https://www.khaosod.co.th/entertainment/news_6695776
ขอขอบคุณ : https://www.khaosod.co.th/entertainment/news_6695776