หลังจากคุณพ่อจากไป แบงค์ ศรราม เตรียมสานต่อคณะลิเกยังไงบ้าง?
“ในเรื่องของการปรับเปลี่ยนอย่างที่คุณพ่อตั้งใจ เคยพูดไว้แต่ยังไม่ได้ทำ แบงค์ก็จำได้ อาจจะเป็นในเรื่องของเวที แสงสี ที่มันจะเพิ่มอรรถรสมากขึ้น ที่มันเป็นความทันสมัยมากขึ้นแต่ว่าคุณพ่อยังไม่ได้ทำ ในอนาคตข้างหน้า แบงค์บอกเลยว่าจะทำแน่นอนอย่างที่คุณพ่อตั้งใจไว้ และก็อาจจะมีปรับเปลี่ยนบ้างเรื่อง บางจุดคือแบงค์ก็อยากจะเอาในมุมของวัยรุ่นเอาเข้ามาใช้ ให้มันเหมือนเป็นละคร เหมือนเป็นหนังให้มากกว่าการดูลิเกประมาณนั้น”

ตอนนี้หลังคลายล็อกดาวน์เห็นว่าเจ้าภาพกลับมาจองงานเยอะขึ้น?
“ตอนนี้เริ่มมีแล้วครับ จองล่วงหน้าไปถึงปี 2565”

แต่ที่ผ่านมาช่วงโควิด-19 คณะลิเกสูญเสียรายได้ไปเยอะมาก?
“ก็ประมาณ 8 หลักครับ ซึ่งตรงนี้ที่สูญไปก็เป็นรายได้ของคณะ ของทุกๆ คนด้วย”

เรามีความรับผิดชอบที่ต้องดูแลคนในคณะทั้งหมดกี่ชีวิต?
“ร่วมร้อยชีวิตครับ”

ปรับตัวหารายได้ยังไงบ้างในช่วงที่ต้องเจอปัญหาวิกฤติโควิด-19?
“ก็มีการแสดงลิเกออนไลน์ โควิดที่มาระลอกที่ 2 แบงค์ก็ลองจัดออนไลน์ และแฟนคลับก็สามารถโอนให้มาลัยน้ำใจได้ โอนผ่านบัญชี ศิลปินที่ท่านชื่นชอบและก็กองกลาง เงินกองกลางที่เราได้มาก็จำแนกแจกจ่ายเป็นเงินค่าตัวให้แต่ละคน รวมไปถึงเด็กเวทีด้วย คือเราทิ้งไม่ได้”

การเล่นลิเกสดกับออนไลน์มันแตกต่างยังไงบ้าง?
“แตกต่างนะครับ เล่นสดเราได้เจอคน ชอตไหนที่มันสนุก เขาขำเขาสนุกเราจะเห็นเลย ถ้าอย่างแสดงออนไลน์ท่านผู้ชมจะเห็นชัดว่าแบงค์ใช้กล้อง 3 ตัว จะเห็นชัดมาก เป็นระบบที่ชัด ก็จะได้อรรถรสอีกอย่างหนึ่ง รวมถึงศิลปินแต่ละคนก็จะเต็มที่กับการแสดงมาก เพราะว่าเราไม่สามารถที่จะแก้ไขได้ เราแสดงได้แค่ครั้งเดียว ก็กลายเป็นว่าเราต้องสื่อสารกับกล้อง อย่างถ้าว่าเราโกรธ ก็จะมองไปที่กล้องตัวใดตัวหนึ่ง”

นอกจากปรับตัวเรื่องเล่นลิเกออนไลน์เห็นว่ามีปรับตัวอย่างอื่นด้วย?
“ก็มีขายของออนไลน์ครับ อย่างโควิด-19 รอบแรก แบงค์ก็ทำน้ำพริกขาย รอบสามแบงค์ก็ทำเป็นของหวานครับ เป็นเบเกอรี่ เป็นบราวนี่ เป็นฟรุตเค้กครับ คือแบงค์เป็นคนชอบทานขนมพวกนี้ ทานมาเยอะ ก็เลยมีพี่ที่เป็นเพื่อนรู้จักกันเนี่ยแหละ เค้าชอบทำพวกขนมพอดี แบงค์ก็เลยสร้างงานสร้างรายได้ ไปทำมาเดี๋ยวเราช่วยกันชิม ช่วยกันปรับสูตร อย่างถ้ามันหวานไปก็ลดลงมา ประมาณนั้นครับ ก็เลยได้มาอีกหนึ่งอาชีพไปเลย สั่งได้ที่เพจ : น้ำพร๊ง น้ำพริก รวมสินค้าทุกอย่างเลยที่แบงค์ขายอยู่”.