“ถามว่าแอบไหมก็แอบแหละค่ะ มันสนุกไหมก็สนุกค่ะ (หัวเราะ) มันดีอะ

ด้วยความเป็นเด็กวัย 20 ต้นๆ มันวิ้ว (ยิ้ม) ยิ่งมาบอกห้ามให้ใครรู้นะ โอ้โหมันก็สนุกดี”

แซมมี่ยกตัวอย่างเหตุการณ์ให้เห็นภาพมากขึ้น เช่น เวลาไปดูภาพยนตร์ด้วยกันก็ห้ามเดินเข้าไปในโรงภาพยนตร์พร้อมกัน ต้องกินข้าวบนรถ ไม่นั่งตามร้านอาหาร นัดเจอกันแต่ไม่เจอตามที่สาธารณะ

ช่วงอยู่ในห้วงรักก็สนุก แซมมี่กล่าวเช่นนี้ แต่เมื่อต้องเลิกรากันไป ส่วนใหญ่มีเหตุผลมาจาก “ละครจบเรื่องบ้าง ไม่ใช่บ้าง บางทีก็หมดช่วงหวือหวารักเอยก็ห่างหายกันไป แต่ถามว่ามีคบจริงจังไหม ก็มีค่ะ มีแค่คนเดียว เคยคบเมื่อ 6 ปีแล้ว”

อยู่ดีๆ แซมมี่ก็เข้าช่วงไฮไลต์ว่า คนที่เคยคบเป็นถึงพระเอก คบนานถึง 6 ปี โดยเปิดตัวย่อชื่อของพระเอกคนนี้ (สามารถดูได้ในคลิป)

“เพราะความเป็นเด็กของเรา เราเองก็แอบไปมีนิดๆ หน่อยๆ แล้วมันหลายนิดหน่อยกับสิ่งที่เขาต้องเจอ หนูยอมรับค่ะว่าความผิดมันอยู่ที่เรา” แซมมี่เล่าถึงสาเหตุที่ต้องเลิกรากับพระเอกคนนี้ เธอยอมรับด้วยใบหน้าเศร้าว่าแซมมี่เป็นคนผิดเอง และยังสามารถเจอหน้ากันได้ พูดคุยกันได้ แต่ถามว่าสามารถกลับมาเป็นเพื่อนกันได้ไหม แซมมี่เชื่อว่าเป็นได้ เพียงแต่ต้องอาศัยระยะเวลาอีกสักหน่อย 

ประสบการณ์แปลว่าเป็นอดีตที่ผ่านพ้นไปแล้ว และประสบการณ์นี่แหละที่สอนให้เรามีชีวิตต่อไปได้โดยมีอดีตเป็นบทเรียน 

“สมัยก่อนมันหวือหวา มันสนุก มันตื่นเต้น แต่มาตอนนี้เรามีพี่ๆ คอยสอนเรา ทำให้เราลำดับความสำคัญได้ เรื่องความรักเลยไม่ได้อยู่ลำดับต้นๆ ซึ่งเมื่อก่อนไม่ได้เลยนะ หนูให้ความรักมาเหนือทุกอย่าง แต่ตอนนี้หนูก็เลยค่อนข้างที่จะสบายๆ กับเรื่องความรักแล้ว” แซมมี่ผู้ตกผลึกความรักเล่าด้วยท่าทางสบายๆ ซึ่งเธอย้ำอีกครั้งว่า ตอนนี้ให้น้ำหนักชีวิตเรื่องครอบครัวกับงานมาอันดับหนึ่ง 

“ความรักมีมันก็ดี แต่ถ้าไม่มีก็ไม่เป็นไรค่ะ”

พิธีกรเห็นจังหวะแซมมี่เล่าเรื่องความรักเพลินๆ ก็ยิงคำถามที่เชื่อว่าทุกคนย่อมอยากรู้ “วันนี้แซมมี่มีแฟนหรือยัง?” แน่นอนว่านางเอกหน้าสวยผู้นี้ไม่ทำให้เราและแฟนคลับผิดหวัง ประกาศให้รู้กันไปว่า 

“มีคนที่อยู่ข้างๆ มีคนที่คุยกันอยู่ เรียกว่าเป็นคนที่สนับสนุนกัน เขาไม่ใช่ดารา ไม่ใช่คนที่อยู่ในวงการบันเทิง เป็นคนธรรมดาที่พูดคุยกันมาประมาณ 3 ปีแล้วค่ะ ซึ่งไม่มีใครรู้เลย (หัวเราะ)

“เอาจริงๆ หนูใช้ชีวิตปกติมากนะ ไปกินข้าว ไปดูหนัง ไปเที่ยวต่างจังหวัดไปต่างประเทศ เพียงแต่ไม่มีรูปร่วมเฟรมกัน คือแซมมี่แยกเรื่องส่วนตัวกับงานออกจากกันชัดเจน ถ้าจบเวลาทำงาน มันก็คือชีวิตฉันแล้ว อยากจะไปไหนก็ไป เพราะเราไม่ได้ทำอะไรผิด เราไม่ได้ทำอะไรไม่ดีต่อหน้าสาธารณะ”

แซมมี่เคยให้สัมภาษณ์กับสื่ออื่นๆ ว่า เมื่อก่อนเธอเป็นคนแรดเรื่องความรักมาก แต่ปัจจุบันแซมมี่ ‘เลิกแรดเรื่องรัก’ แล้ว

“สำหรับหนูนะการอยู่คนเดียวแล้วมันแฮปปี้ (ยิ้ม) เมื่อก่อนเป็นคนขี้เหงามาก แต่ตอนนี้เราอยู่ได้ ไม่มีผู้ชายก็อยู่ได้ แม้ตอนนี้จะมีคุณคนนี้อยู่ แต่ก็ไม่ได้คุยโทรศัพท์หากันบ่อยๆ ยิ่งตอนนี้ชอบพิมพ์หากันมากกว่า แล้วพิมพ์หากันก็ไม่ได้พิมพ์อะไรเยอะ

สมัยก่อนเป็นคนคลั่งรักนะคะ แต่ไม่ใช่คนที่อวดหรืออะไร

แต่สมัยนี้ก็ (นิ่งคิด) เลยจุดคลั่งรักมาแล้วมั้งคะ”

ทุกวันนี้ความคิดเรื่องการแต่งงาน การใช้ชีวิตคู่ของคนสองคนกลายเป็นประเด็นถกเถียงได้หลายความคิดเห็น บางคนไม่อยากแต่งมองไม่เห็นความสำคัญ บางคนอยากแต่งงานเพื่อความสุขและการประกาศถึงการใช้ชีวิตคู่กับคนคนนี้ไปตลอดกาล ส่วนแซมมี่ก็มีความคิดในเรื่องการแต่งงานได้น่าสนใจทีเดียว 

“ถามว่าเชื่อไหม ก็ไม่เชิงแต่ก็ยังอยากแต่งงานนะ มีภาพอยู่นะคะว่าวันหนึ่งเราจะแต่งงาน แต่ไม่ได้เร่งรัด ไม่ได้กำหนดเป็นเป้าหมายชีวิตว่าต้องแต่งงานตอนอายุเท่านี้นะ ถ้าจังหวะมันจะได้แต่ง มันก็จะได้แต่งเอง”

นางเอกใบหน้าลูกครึ่งคนนี้จบสัมภาษณ์เรื่องราวความรักได้ซื่อตรงเหมือนคำแรกที่เธอเล่าชีวิตและประสบการณ์ส่วนตัว เอาจริงๆ เราดีใจที่ได้พูดคุยกับแซมมี่ เคาวเวลล์ ไม่ใช่ที่เธอสวยปานนางฟ้า แต่ประทับใจนิสัยพูดตรง กล้าเล่าในสิ่งที่เคยเกิด ถึงจะเป็นเรื่องลับของดาราที่ใครก็อยากรู้ แต่เราได้มากกว่านั้น มันคือความคิดตกผลึกของผู้หญิงคนหนึ่งที่มีประสบการณ์ความรักมามาก จนสามารถนำข้อคิดมาสอนคนอื่นๆ ได้ต่างหาก 

ผู้เขียน : Bouquet Talk