พูดถึงความรู้สึกหลังเห็นแฟนๆ มาซัพพอร์ตในวันนี้?
“แอนเห็นพลังของคนไทยทุกคนวันนี้แล้วรู้สึกภูมิใจมากที่เป็นผู้หญิงไทยคนนึงที่จะเป็นตัวแทนประเทศของเรา แอนอยากจะบอกว่าขอบคุณมากค่ะสำหรับทุกอย่าง กำลังใจ การซัพพอร์ต ขอบคุณมากค่ะ ถามว่าคิดว่าแฟนๆ จะมากันเยอะขนาดนี้มั้ย ก็ตกใจค่ะ ไม่ได้คิดว่าจะมาเยอะขนาดนี้ เป็นเซอร์ไพรส์ที่แอนก็ชอบเนอะ รู้สึกอบอุ่นค่ะ พอลงมาก็ตกใจค่ะ (ยิ้ม) ก็เห็นป้ายที่แฟนๆ ทำมา เหลือเชื่อค่ะ ก็เป็นเด็กผู้หญิงคนนึงเนอะที่กำลังจะทำความฝันให้เป็นจริง มันก็เป็นจริงระดับนึงแล้วค่ะ”

แอนมีเวลาน้อยในการฝึกฝนต่างๆ เหนื่อยมั้ยหรือใจสู้อยู่?
“สู้ค่ะ และยิ่งเห็นวันนี้ยิ่งสู้เข้าไปใหญ่ค่ะ”

วันนี้แอนมาในชุดเดินชุดแรกที่ไปออดิชั่นเลย มีความหมายยังไงกับเราบ้างมั้ย?
“มันเป็น Group Circle Moment ค่ะ คือกำลังจะไปมิสยูนิเวิร์ส แล้วชุดนี้ก็เป็นชุดแรกที่ไปมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ มันเป็นชุดที่ส่งพลังมากๆ อยากบอกว่าการใช้ชุดซ้ำเป็น Stable Fashion คือไม่มีอะไรผิดกับเสื้อผ้าที่เราใส่ซ้ำ เพราะเราชอบและรู้สึกมั่นใจ ก็ใส่ไปเลยค่ะ ทั้งชุดสำคัญเพราะว่าวันที่แอนใส่ชุดนี้ มันเป็น emotional มากกว่าทุกอย่าง”

เป็นการเริ่มประเด็นเกี่ยวกับโลกเรื่องการใส่ชุดซ้ำ?
“ใช่ค่ะ แต่มันมากกว่านั้นด้วย มันได้ชุดซ้ำ และเป็นชุดที่มีความหมายมากๆ”

แสดงว่าปีนี้ไม่ได้เอาเสื้อผ้าไปเยอะใช่ไหม?
“รอดูค่ะ แต่ว่า Stable fashion ในสไตล์ของโลกใหม่ค่ะ New Global ในความคิดของแอนค่ะ ถามว่าเอาไปกี่ใบ 8 ใบค่ะ บวก 1 คือกระเป๋าส่วนตัวค่ะ (หัวเราะ)”

เป็นกระเป๋าเคล็ดลับที่พร้อมเปลี่ยนตลอดเวลาหรือเปล่า?
“เปล่าค่ะ ชุดนอน (หัวเราะ) ถามว่ามีอะไรต้องตามไปไหม ไม่มีค่ะ คือชื่นชมทีมเบื้องหลังมาก เรื่องนี้มันไม่ได้เร็วสำหรับแอนคนเดียว มันเร็วสำหรับทั้งทีม แล้วการที่เรามาทำงานด้วยกันอย่างนี้ ทำได้สำเร็จถึงเลเวลนี้ อยากพูดถึงว่านี่คืองานทีมจริงๆ”

lookbook เตรียมไปเยอะมั้ย?
“ก็ถ่ายสองวันเต็มๆ เอาไปเล่มเดียวค่ะ แอนเก็บคนเดียวนะคะ”

ย้อนถามถึงชุดประจำชาติ?
“คือรู้ว่าทุกคนจะชอบมากชุดประจำชาติปีนี้ของเรานะคะ แล้วคิดว่าเหมาะสำหรับแอนมากๆ เป็นนักสู้แล้วก็มาจากสายกีฬา เหมาะกับมวยไทย แอนอยากให้ทุกคนรอดูมากกว่าค่ะ”

อย่างมวยไทยเองแอนก็ไปเรียนด้วย?
“ใช่ค่ะ ถามว่าสำหรับชุดประจำชาติเลยใช่ไหม ไม่ค่ะ แอนเคยเล่นมวยไทยมาก่อนแล้ว และออกกำลังกายไปด้วยเล่นมวยไทยไปด้วยไงคะ เป็นสิ่งที่แอนอยากทำอยู่แล้ว”

ฟิตติ้งเป็นยังไงบ้าง?
“เกือบเป๊ะทุกชุดค่ะ”

สิ่งแรกที่อยากทำเมื่อไปถึง?
“แอนอยากไป Dead Sea เพราะว่าได้ยินหลายอย่าง เป็นคนที่ชอบดูวิว ไปสังเกต เปิดประสบการณ์ของประเทศนั้นๆ ถามว่าเป็นกำหนดการของกองหรือว่าแอนอยากไปเอง ก็ต้องอยู่กับกองแหละค่ะ ไปเองไม่ได้ค่ะ (หัวเราะ) ซึ่งแม่ปุ้ย (ปิยาภรณ์ แสนโกศิก) ก็จัดไว้แล้วค่ะ”

ตอนนี้มีเพื่อนกี่ประเทศแล้ว?
“อุ๊ย ทุกคนก็เป็นเพื่อนกันแล้วไม่ใช่เหรอคะ (ยิ้ม)”

เห็นมีไลฟ์กับเพื่อนๆ บางประเทศไปบ้างแล้ว มีเพื่อนเพิ่มอีกไหมหลังจากนั้น?
“ยังค่ะ แต่กว่าจะไปทักคืนนี้สัก 3-4 คน เพราะเป็นคนที่รักทุกคน เป็นคนที่ชอบมีเพื่อน ก็อยากทักทาย”

พูดถึงความพร้อมของเราในวันนี้?
“ถึงวันนี้แล้วเนอะ พร้อมค่ะ พร้อมมาก พร้อมที่จะคว้ามงสาม มุ่งมั่นในเป้าหมายที่ที่ไม่ใช่แค่อันนี้ เป็นไทยแลนด์แล้ว แล้วก็เชื่อในตัวเองมาก แต่ไม่กดดัน ทำให้เต็มที่ แล้วแอนคิดว่าคนไทยทุกคนจะภูมิใจมากค่ะ”

อแมนด้าให้คำแนะนำแล้วเป็นไงบ้าง?
“โห รักพี่ด้ามาก พี่ด้าบอกทุกอย่างที่หนูต้องรู้ค่ะ แล้วสิ่งที่หนูอาจจะกังวลเพราะว่าเป็นเด็กไม่มีประสบการณ์ พี่เขาก็จัดเรียบร้อยแล้ว บอกทุกอย่างที่ต้องเตรียมพร้อมตอนเข้าไปกองค่ะ ก็ขอบคุณมากค่ะพี่ด้าที่ช่วยหนู (หัวเราะ)”

อยากบอกอะไรถึงเป็นแฟนนางงาม?
“อย่างแรกก็ขอบคุณมากค่ะ เพราะแอนคงไม่ได้อยู่ในจุดนี้ถ้าไม่ใช่แฟนๆ นางงามคนไทย แล้วก็เจอกันที่นิวยอร์กค่ะ”

หลังจากนั้น ปุ้ย ปิยาภรณ์ แสนโกศิก ผู้ถือลิขสิทธิ์จัดประกวด Miss Universe Thailand ก็ได้ออกมาตอบคำถามต่อสื่อมวลชนถึงดราม่าภาพโปรเตอร์โปรโมตของแอนชิลีที่เหยียบพรมลายคล้ายธงชาติไทยไว้ว่า “ก่อนจะบินเนี่ยชอบมีดราม่าทุกปี แต่ขอให้ดูที่เจตนาของ TPN และแอนชิลี เราขอยืนยันตรงนี้นะคะว่าเราจะทำทุกอย่างเพื่อสายสะพายไทยแลนด์ เราจะพัฒนาวงการประกวดนางงาม รวมถึงสื่อเอ็นเตอร์เทนเมนต์ในประเทศไทยของเราให้โลกรู้จักยิ่งขึ้น วันนี้ทุกคนรักประเทศไทยค่ะ เพราะฉะนั้นอย่าไปบิดเบือนให้เป็นเจตนาอะไรที่มันไม่ดีเลยเรามาสร้างสรรค์สังคมร่วมกัน มามอบความรักให้กัน แล้วก็ทำอะไรก็ได้ให้ชื่อเสียงประเทศชาติของเราให้ใครๆ ก็อยากมาเยือน

กับดราม่าที่เกิดขึ้น ก็จะบอกว่าถ้าจะไปแจ้งความนู่นนี่นั่น เรื่องที่หนึ่งคือแอนชิลีก็ไม่รู้เรื่องหรอกค่ะ เพราะเวลาถ่ายรูปมันก็ถ่ายอยู่ในฉากหลังสีขาวพื้นขาว ส่วนแผนกกราฟิกดีไซน์ไปทำซีจีนั่นเป็นอีกเรื่องหนึ่งค่ะ แต่ยังไงก็ตามนั้นไม่ใช่การเหยียบธงชาติค่ะ นี่ค่ะคือธงชาติ (ถือธงชาติ) ใครจะไปเหยียบไม่ได้ อันนั้นคือการใส่ซีจีเข้าไปที่สำคัญพี่เรียกเด็กมาถามแล้วว่าเธอจะสื่อถึงอะไร เขาบอกว่ามันหมายถึงประเทศไทยและทุกคนรักประเทศไทย เราอยากให้ต่างชาติเข้ามาสปอตไลต์ประเทศไทยของเรา และเข้ามาซึมซับบรรยากาศดีๆ ความสวยงามของประเทศไทยของเราแค่นั้นเอง นั่นคือความหมาย

ถามว่าเครียดไหมไม่มีเวลาเครียดเลยค่ะ เพราะว่าแพ็กของถึงตีสามตีสี่ยุ่งมาก ทั้งน้องแอนชิลีและทีมไม่มีใครเครียดเพราะไม่มีเวลาให้เครียด และเรามองผ่านค่ะ เรามองว่าเจตนาของเราคืออะไร มองเห็นกันหรือไม่ เราทำวันนี้เพื่ออะไร นั่นคือสิ่งที่เราจะมุ่งมั่นต่อไป เลยทำให้เรารู้สึกว่าไม่ต้องเครียดเพราะเราไม่เคยคิดไม่ดี เรารักประเทศไทยค่ะ ก็ขอขอบคุณสื่อมวลชนนะคะที่ให้พื้นที่ได้มาเล่าสู่กันฟังตรงนี้ ว่าความคิดของเรา เจตนาของเราคืออะไร เพราะฉะนั้นมันก็อธิบายแล้วก็น่าจะต้องจบดราม่า แล้วมาสร้างสรรค์สังคมกันในแง่ดีๆ ดีกว่าค่ะ”

เมื่อถามว่าในแง่ข้อกฎหมาย มีคนบอกว่าผิด พ.ร.บ. เขาจะเอาเรื่อง ผู้จัดประกวดเวทีดังตอบว่า “ก็ไม่ทราบเหมือนกันค่ะ ก็ต้องให้ทนายตีความว่าเราเหยียบพรมจริงหรือไม่ นั่นคือพรมหรือไม่ อันนี้ถ้าเราวางอยู่ (หยิบธงขึ้นมา) แล้วไปเหยียบ มันใช่แบบนั้นหรือเปล่า คือเราทำด้วยเจตนาดีแน่นอนค่ะ แล้วพี่ๆ น้องๆ สื่อมวลชนคิดว่าทุกวันนี้เรามาอยู่จุดนี้ เราเจตนาดีหรือไม่ดีนะคะ”