คริสพูดถึงคุณพ่อที่เสียชีวิตไปแล้ว โดยระหว่างพูดถึงนั้น บางช่วงก็มีน้ำตาคลอๆ ไปด้วย “ที่ผ่านมาทำงานมาเก็บตังค์ ใช้เยอะแต่ยังพอมีสติ ที่เก็บเงินไว้บ้าง คริสมีความบ้าๆ บอๆ อาจจะโดนเทรนมาจากเรียนบัลเลต์

“อุ๋ยเป็นคนสอนคริสเมื่อ 15 ปีที่แล้ว เป็นคนสอนคริส เพราะตอนนั้นได้เงินเดือนจากไอเอสบี อุ๋ยบอกคริสว่า ยูก็แยกไปเลย ก้อนนี้ให้ปะป๊าหม่ามี้ ก้อนนี้ผ่อนรถ ก้อนนี้จ่ายบัตร

“พอสเกลใหญ่ขึ้น ลิ้นชักอาจจะผ่อนรถทุกคน จ่ายบัตรเรา และปะป๊าหม่ามี้ด้วย ลิ้นชักเราก็ใหญ่ขึ้น เงินที่หาได้ต้องเก็บในลิ้นชักมากขึ้น แล้วยูฝันอยากใช้ชีวิตแบบไหน ต้องใช้เงินเดือนสักเท่าไร ยูต้องหาให้ได้มากกว่าที่ยูต้องใส่ในลิ้นชัก

“เหตุการณ์ปะป๊าเสีย ทำให้ต้องเตรียมตัว เข้าโรงพยาบาล 6 วัน โรคเกี่ยวกับหัวใจ โรงพยาบาลจะให้เซ็นไว้ เผื่อเกิดอะไร เช่น อันนี้ไว้บายพาส รวมกันทั้งหมดไม่รู้กี่ล้าน แต่เราเซ็นไว้ก่อน

“ไม่ได้อยู่ในลิ้นชักเราสักอัน มันอยู่ในลิ้นชักเผื่อชีวิตเรา เราต้องเปิดตู้เซฟนี้ ขอบคุณความบ้าคลั่งตัวเอง ที่ทำลิ้นชักเหล่านี้ ขอบคุณคนจ้างงานทั้งหมดทำให้คริสโชคดี มีตู้เซฟนี้ได้ อยากให้ทุกคนเริ่มทีละเล็กทีละน้อย มีตู้เซฟ”

อุ๋ยถามๆ กับคริสถึงการจัดการทุกข์ คริส บอกดังๆ “เพิ่งทำเป็นไม่กี่ปี เพราะเจอแต่เรื่องเบา ไม่มีอะไรทำให้เสียใจหนัก แต่มีช่วงหนึ่งในชีวิตที่อยากรู้ว่าชีวิตตัวเองจะดำเนินไปยังไง จะแต่งงานมั้ย ต้องหาแฟนมั้ย ชีวิตอนาคตต้องเป็นอย่างนั้นอย่างนี้

“ลิสต์เยอะมาก พอเช็กลิสต์ไม่ตรงสิ่งที่คาดหวัง ผิดหวังจมลงไปอีก ไม่มีใครช่วยเราได้เลย คนอกหักดูนะ ถ้าเราไม่ช่วยตัวเอง แต่พอเราเปลี่ยนความคิด เหมือนไขนอตลาก่อนเลย มีความสุขแบบไม่ต้องเอาความคาดหวัง และอนาคตไปผูกกับสิ่งที่เราควบคุมไม่ได้ ต้องใช้เวลาปล่อยวาง ต้องข้ามให้ได้”

อุ๋ย ยิงคำถามต่อว่า ถ้าเหลือเวลาชีวิตอีกปีเดียว จะทำยังไง คริสบอกไวๆ เลยว่า “ใช้เงินให้หมด ตายไปเอาไปไม่ได้ ที่หามาได้แบ่งให้หม่ามี้…เคยคิดอะไรคือความสุข คือ ตัวเองทำงานมีความสุข ดีใจที่ยังมีคนเห็นคุณค่าเรา ได้เงินตอบแทนเป็นรางวัล เก็บใส่ลิ้นชักตู้เซฟ รางวัลเราจะไปซื้ออะไรก็ได้ ฉันก็ยังบ้าซื้อของยี่ห้ออยู่

“อยากเล่นสกีหรืออยากมีผู้ชายพาไปลันช์ที่ฝรั่งเศส นั่งเครื่องบินส่วนตัวกลับมา ฉันต้องหาเงินเพื่อตัวเองให้ได้ จะมีผู้ชายคนนั้น หรือไม่มีผู้ชายคนนั้นในชีวิต อยากได้อะไร ต้องทำให้ตัวเองให้ได้ก่อน ถ้าทำยังไม่ได้ ก็ได้เท่าที่ตัวเองทำ”

ประเด็นใหญ่คือการเสียชีวิต คริส ตอบดังๆ ไปว่า “อยากนอนหลับแล้วก็ตายไป ใช้ชีวิตอย่างมีความสุข ถ้าจะตายยังไม่อยากตาย ดีสุดคือการหลับไป” 

ส่วนอีกประเด็นที่น่าสนใจ ที่หลายคนยังทำไม่ได้คือ จะกลับมาคบกับแฟนเก่าแบบเพื่อนได้หรือไม่ คริส รีบบอกว่า “มีคนฝากถามมา เราจะเป็นเพื่อนกับแฟนเก่าได้ขนาดนี้จริงๆ เลยเหรอ คริสเป็นเพื่อนกับแฟนเก่าหมดเลย เพราะคิดว่าทุกคนที่เข้ามาในชีวิตสอนประสบการณ์อะไรบางอย่างให้เสมอ

“ช่วงเวลาที่อยู่ด้วยกัน ไม่ว่าจะจบกันด้วย 1 เหตุการณ์ 2 เหตุการณ์ ที่ไม่ลงล็อกกัน จะดีหรือไม่ดี ที่ผ่านมาเราได้ใช้ความสุขด้วยกันไปแล้ว ก็จะเก็บสิ่งนั้นไว้ แล้วก็คิดว่าคนคนนั้นอย่างน้อยเขาก็เคยเป็นเพื่อนสนิทที่สุดของเรา เลยเป็นเพื่อนกับทุกคน ยินดีกับความก้าวหน้าของทุกๆ สเตปในชีวิต ที่เห็นในไอจี ยังนึกเวลาไถผ่าน เขาทำอะไรอย่างนี้ดีจังเนาะ

“มันอาจมีช่วงเวลาที่หายไปแวบหนึ่ง แรกๆ สิ่งที่คริสจะถามคือ มันมีเทคนิคอะไร บางคนเขาอยากคุยกับแฟนเก่าได้เหมือนกัน บางคนดูรูปไอจีก็ยังยินดีร้อยเปอร์เซ็นต์แบบคริสเป็น แต่เจอกันแล้วไม่สามารถเป็นเพื่อนกันแบบนี้ได้

“อย่างวันนี้ ถ้าคริสมีเรื่องอะไรที่คริสรู้ว่าอุ๋ยรู้ ไม่ว่าคริสจะอยู่กับใคร คริสก็จะโทร.หาอุ๋ยได้เลยด้วยความใสๆ หวังดีจริงๆ ขณะที่ อุ๋ย ก็ยอมรับว่า ใช่ ไม่มีสักนิดมาปนเรื่องชู้สาวเลย เข้าใจ”.