ทำความรู้จัก เต้-เสือ คู่จิ้นเคมีใหม่ ต่างที่มาแต่กลายเป็นส่วนผสมที่ลงตัว


ให้คะแนน


แชร์

เพิ่งจัดงานอีเวนต์เปิดตัวซีรีส์ไปหมาดๆ ซีรีส์วายเรื่อง You’re My Sky จุดหมายคือท้องฟ้า ซึ่งมีกำหนดฉายต้อนรับปีเสือ ในวันที่ 8 ม.ค. 2565 นี้ สำหรับซีรีส์เรื่อง You’re My Sky จุดหมายคือท้องฟ้า เป็นนิยายสายวายชื่อดัง ผลงานของคุณ Karnsaii และได้นักแสดงวัยรุ่น เต้ ชยพัทธ์ คงทรัพย์ มารับบท ทัพฟ้า และ เสือ กฤษณะพงศ์ ศรีภัททิยานนท์ รับบท ธรณิน เป็นแสดงนำของเรื่อง

ล่าสุด บันเทิงไทยรัฐออนไลน์ ได้มีโอกาสพูดคุยกับ 2 หนุ่ม เต้-เสือ เป็นครั้งแรก ซึ่งทั้ง 2 คนบอกว่า ตื่นเต้นมาก เพราะซีรีส์ใกล้จะออนแอร์แล้ว และในวันเปิดตัวก็เพิ่งมีโอกาสเจอแฟนคลับอีกด้วย นอกจากนี้ทั้งคู่ยังได้เล่าถึงการทำงานร่วมกันเป็นครั้งแรก แบบไม่เคยเจอกันมาก่อน กระทั่งคลิกกันและกลายเป็นคู่ซี้ไปแล้ว

ตื่นเต้นสุดๆ กับการได้เป็นนักแสดงนำเรื่องแรก

เต้ “ในวันที่เปิดตัวซีรีส์ ผมตื่นเต้นครับ คนมาเยอะและเป็นครั้งแรกที่เราได้ดูทีเซอร์ซีรีส์เป็นครั้งแรกด้วยครับ เพราะว่ายังไม่เคยได้เห็นเลย ตื่นเต้นแล้วคนก็มาเยอะด้วยครับ ทั้งตื่นเต้นและดีใจ”

เสือ “ดีใจที่คนมาเยอะ และตื่นเต้นมากๆ ทุกคนน่าจะเห็นว่าผมตื่นเต้นมาก แล้วก็ลุ้นด้วยว่ามันใกล้จะฉายแล้ว จะเป็นยังไง จะออกมาดีมั้ย มันเป็นความรู้สึก 3 แบบเลยครับ (ยิ้ม) รอบแรกที่ผมไปยืนบนเวทีอะ เป็นการเปิดตัวนักแสดง แต่พอรอบ 2 เป็นการเปิดตัวซีรีส์ และเราได้ไปยืนบนเวที เจอแฟนคลับ เลยทำให้ผมตื่นเต้น เพราะมันเป็นงานที่ใหญ่กว่า”

เต้ “เรื่องนี้เป็นซีรีส์เรื่องที่ 2 ของเต้ครับ จริงๆ แล้วเป็นเรื่องที่ 2 ของทั้งคู่เลย”

เสือ “ใช่ครับ เป็นเรื่องที่ 2 ของเราทั้งคู่เลย”

เต้ “เรื่องแรกผมเล่น Y–Destiny หรือเป็นที่พรหมลิขิต ครับ”

เสือ “ของผมเล่นเรื่อง You Never Eat Alone ครับ”

เต้ “เรื่องนี้ You’re My Sky จุดหมายคือท้องฟ้า ผมกับเสือเล่นเป็นตัวหลักครั้งแรกครับ และเป็นซีรีส์ยาวเรื่องแรกของเรา”

เจอกันครั้งแรกก็เกร็งแล้ว

เต้ “เราไม่เคยร่วมงานกันมาก่อนครับ เคยเห็นกันแค่ผ่านๆ แต่รู้ว่าคนนี้คือ เสือ แต่ไม่เคยคุยกันครับ เจอกันครั้งแรกก็ตอนถ่ายรูปเปิดตัวนักแสดงครับ ยังงงๆ กันอยู่

แต่พอได้มาร่วมงานกันก็สนุกดีครับ แรกๆ ก็ต่างคนต่างมีกำแพง เหมือนวางมาดใส่กันครับ แต่พอรู้จักกันมันก็ปลดล็อกไปเรื่อยๆ ครับ เริ่มสนิทมากขึ้นเรื่อยๆ พอทำงานด้วยก็สนุกครับ”

เสือ “สำหรับ เสือ ครั้งแรกที่มาเจอพี่เต้ ก็รู้สึกเกร็งครับ เราก็แอบกลัวเขานิดนึง เพราะเขาโตแล้ว เขาโตกว่าเราในระดับหนึ่ง เขาเป็นคนนิ่งๆ เราก็กลัว แต่หลังๆ มาก็เรียก เต้ แล้ว เดี๋ยวนี้ไม่เรียกพี่แล้ว ที่บอกว่ากลัว คือผมเกร็งเขา เพราะยังไม่รู้ว่าจะเข้าหากันยังไง”

เต้ “ในวันเวิร์กช็อปเราได้เจอกัน ก็จะมีละลายพฤติกรรมกัน พอหลังจากเวิร์กช็อป ก็เหมือนทุกคนเริ่มจะสนิทกัน ต่างคนต่างปลดล็อกตัวเองออกมา

ส่วนการทำงานในกองถ่าย ถ้าตอนไหนคนเยอะก็จะยิ่งวุ่นวายหน่อยครับ เพราะมันมีฉากแอ็กชัน ตอนที่เล่นบาสฯ แล้วยิ่งคนเยอะๆ ก็จะยิ่งวุ่นวายหน่อยครับ”

เสือ “ใช่ครับ เพราะคนมันเยอะก็ต้องเก็บหลายมุม ยิ่งชอตเล่นบาสฯ ก็ต้องเก็บหลายๆ มุม เราก็ต้องเล่นไปเรื่อยๆ เหนื่อยมาก”

เต้ “บางทีก็ได้ บางทีก็ไม่ได้ พอมาถึงมุมเรา เราเล่นไม่ได้ เป็นแบบนี้ตลอด ตอนซ้อมอะชอบชู้ตลง แต่พอเอาจริงชู้ตไม่ลง (หัวเราะ)”

เต้ “เรื่องนี้ ผมเล่นเป็น ทัพฟ้า ครับ คาแรกเตอร์จะเป็นคนนิ่งๆ เขามีฉายาเป็นฟ้าหน้าเดียว นิ่งๆ กับคนแปลกหน้าแต่ถ้าคนสนิทกันจะเป็นอีกคนหนึ่งเลย ถามว่าเหมือนตัวจริงของผมมั้ย ตัวจริงผมอาจจะมีบางมุมที่เหมือนและไม่เหมือนครับ

มุมที่เหมือน ผมจะมีมุมนิ่ง บางทีจะดูหยิ่งๆ เย็นชา แต่ความจริงถ้าผมไม่รู้จักใคร ผมก็จะไม่ได้คุยกับใคร ทำเฉยๆ อาจจะเหมือนในมุมนั้น ส่วนมุมที่ไม่เหมือน ตัวจริงของผมถ้าผมสนิท ผมจะเกรียนสุดๆ ครับ”

เสือ “สำหรับของ เสือ กับ ธรณิน ก็จะมีความต่างกันครับ ในบทของ ธรณิน จะเป็นตัวละครที่คอยให้กำลังใจคนรอบข้างตลอด มีความเป็นผู้นำ และมีแพสชันที่สูงส่งมาก ซึ่งแพสชันนี้เราได้มาจากพี่ฟ้าเต็มๆ เลย และตัว ธร จะเป็นคนที่ตั้งใจ มุ่งมั่น ดูจากสายตาได้เลยครับ (ยิ้ม) ผู้กำกับเขาเน้นมากเลยครับ ความมุ่งมั่นจากสายตาของ ธรณิน”

เต้ “ตัวละครของผมเขาแคสต์ไปรอบหนึ่งแล้ว ตอนแรกเลยตัวละคร ทัพฟ้า กับ ธรณิน เป็นตัวที่ยังไม่ได้นักแสดง เขาก็เลยเรียกมาแคสต์แยกกัน แคสต์กันในห้างเลย เราก็เล่นกันกลางห้าง กลางร้านกาแฟเลยครับ”

เสือ “ของเสือจะเป็นตัว ธรณิน จะเป็นตัวสุดท้ายเลย ที่เขาแคสต์ได้ เหมือนกับวันนั้นเขาเรียกไปคุย แล้วผมกับพี่เต้ก็ไม่ได้ซ้อมบทอะไรเลย พอได้คุยกับพี่เต้ เหมือนเราคลิกกันและได้รับบท ธรณิน ครับ วันที่เข้าฉากคิวแรกๆ ก็จะเกร็งๆ หน่อยครับ แต่พอเริ่มถ่ายไปสักพัก ก็จะไหลลื่นแบบเข้ากันได้ดี สนุกครับเวลาถ่ายทำ”

เสือ “ถามว่าเคยเล่นบาสมาก่อนมั้ย เคยเล่นครับ แต่เราแค่เล่นกันที่โรงเรียน แต่พอต้องมาถ่ายเราต้องเล่นให้มันท่าเป๊ะ แบบดูเก่งมากครับ เพราะในบทเราต้องเป็นนักกีฬาเยาวชนทีมชาติครับ ท่ามันต้องเป๊ะ เรา 2 คนก็ต้องมีไปฝึก ไปเรียนเพิ่มครับ ตั้งแต่พื้นฐานใหม่เลย”

เต้ “ถ้าฉากที่ยากที่สุดของเต้อาจจะเป็นฉากที่เล่นบาสครับ บางทีมุมกล้องมันไม่ได้ เลยต้องไปเล่นไปเรื่อยๆ และมันเหนื่อยด้วย เลยอาจจะดูยากครับ เพราะต้องชู้ตให้ลง ถ้าไม่ลงต้องเอาใหม่ครับ”

เสือ “ของเสือมันจะเป็นฉากท้ายๆ แล้วครับ เป็นซีนอารมณ์ที่ตัว ธร เก็บมาแต่แรกๆ เลย มันต้องชินชา เป็นความรู้สึกที่ไม่แสดงความรู้สึก มันก็เลยยากครับ และไม่แสดงอะไรออกมาเลย”

เต้ “แฟนๆ ที่รอฉากกุ๊กกิ๊ก ฟินๆ แอบบอกเลยว่า มีแน่นอนครับ จะเป็นเรื่องบาสและเรื่องความรักเลยครับ เป็นแบบรักใสๆ ช่วยเหลือกันและกัน”

เสือ “ใสนิดๆ ญี่ปุ่นบ้างนิดหน่อย (หัวเราะ)”

อยู่วงการบันเทิงมา 4 ปี แต่ยังไม่ดังสักที

เต้ “ผมเริ่มจากเดินแบบ ถ่ายโฆษณา ถ่าย MV ครับ แล้วก็พัฒนามาเรื่อยๆ ครับ ผมอยู่ในวงการมา 4 ปีครับ ก่อนที่จะได้มาเล่นซีรีส์ ถ้าเริ่มจากการเล่นโฆษณาตัวแรกก็ประมาณ 4 ปีแล้วครับ”

เสือ “ของเสือเริ่มต้นเข้าวงการจากการประกวดโครงการ TO BE NUMBER ONE IDOL หลังจากนั้นก็ได้ประกวดอีก คือประกวด CUTEBOY THAILAND จนได้เจอผู้จัดการส่วนตัว ก็เริ่มมีงานเข้ามาเรื่อยๆ จนได้เรื่องนี้ครับผม จากวันนั้นถึงวันนี้ผมเข้าวงการมาประมาณ 5 ปีแล้วครับ ผมเข้ามาตั้งแต่ ม.5 จนตอนนี้เรียนจบแล้วครับ แต่คือระหว่างทางที่อยู่ในวงการนี้มา ผมกับพี่เต้ ก็ทำงานกันมาตลอด แต่อาจจะยังไม่ดังมากครับ”

เต้ “ตั้งแต่เปิดตัวซีรีส์มา ก็เริ่มมีแฟนคลับเข้ามาบ้างครับ (ยิ้ม)”

เสือ “ถามว่า คาดหวังมากน้อยขนาดไหน สำหรับตัวเสือเองค่อนข้างที่จะคาดหวังมาก เพราะเราตั้งใจมากครับ ความคาดหวังมันจะเป็นไปตามความตั้งใจ ถ้าเราตั้งใจมาก เราก็จะคาดหวังมากครับ”

เต้ “ของผมก็เหมือนเสือเลยครับ เราตั้งใจมากขนาดไหน เราก็จะคาดหวังมากประมาณนั้นครับ”

เสือ “ผมลุ้นมากครับ ตั้งแต่เปิดตัวซีรีส์และมีทีเซอร์เริ่มออนแอร์เลย”

ยังคงพยายามปรับตัวให้เข้ากับงานที่ชอบ

เต้ “ที่บ้านผมก็ไม่ได้ว่าอะไร เขาก็ให้เราเลือกเองว่าอยากจะทำอะไร เขาก็พร้อมซัพพอร์ตเต็มที่ครับ”

เสือ “ของเสือก็ที่บ้านเขาดันมาทางนี้เลยครับ (ยิ้ม) และเราก็อยากลองมาทำดู เพราะมันมีโอกาสแล้วนะ ก็ลองทำดูครับผม”

เต้ “ตอนเด็กๆ ผมฝันอยากเป็นนักฟุตบอลครับ ก็ได้เป็นนักฟุตบอลโรงเรียน ด้วยความฝันของผมที่อยากไปเตะที่ต่างประเทศด้วย แต่เข่าของผมมีปัญหา ซึ่งไม่ไหวแล้ว แล้วเราก็ไม่มีพรสวรรค์ขนาดนั้นด้วย ก็เลยลองเปลี่ยนแนวทางดู แต่ตอนแรกๆ ผมก็ยังไม่รู้หรอกว่าอยากเป็นอะไรกันแน่ แต่รู้สึกว่าอยากอยู่แบบสงบๆ แต่บอลก็เตะอยู่ตลอด”

เสือ “ตอนเด็กๆ ที่ผมเริ่มประกวด TO BE NUMBER ONE IDOL รู้สึกว่าเสือไม่ได้อยากเดินมาทางสายนี้เท่าไหร่ครับผม เพราะเสือเป็นคนที่แบบไม่อยากสุงสิงกับคนเยอะๆ ไม่อยากให้ใครมาคอยจับตาเรา แต่อันนั้นเป็นความคิดตอนเด็กๆ ครับ อยากทำงานเกี่ยวกับการท่องเที่ยวได้ไปเที่ยวเยอะๆ ครับ

แต่ความคิดก็เปลี่ยนตอนที่เราได้เงินครับ (หัวเราะ) คือมันก็เป็นส่วนหนึ่งจริงๆ เราได้เงินจากวงการนี้ เรารู้สึกว่ามันก็ได้นี่หว่า ตอนแรกๆ เราไม่ได้ทำเกี่ยวกับการแสดงไงครับ เราก็เลยรู้สึกว่าชอบ เพราะว่าพอเราได้กระโดดใส่การแสดงจริงๆ เลยรู้สึกว่ามันเป็นสิ่งที่เราทำ และเรามีความสุขทุกครั้งที่เราไปทำงานครับ 

ส่วนความคิดที่ไม่ค่อยชอบคนเยอะๆ ส่วนตัวผมก็ยังไม่ค่อยเปลี่ยนมากนะครับ แต่ความคิดในตอนนั้นจนถึงตอนนี้ มันก็น้อยลงไปนิดนึง แต่ก็อยากมีความเป็นส่วนตัวนิดนึง แต่พอมันโดดมาอยู่ตรงนี้แล้ว เราก็ต้องมองข้ามตรงนั้นไปก่อนครับ ก็ค่อยๆ ปรับครับ ตอนนี้กำลังพยายามปรับอยู่ จะพยายามตามโซเชียลให้ทันอยู่ (หัวเราะ) เพราะผมเป็นคนตามโซเชียลไม่ทันครับ ยังไม่รู้ว่จะเอาตัวเองไปอยู่ในโซเชียลยังไงดี

แต่ก็เริ่มวางแผนกับที่บ้าน กับพี่ผู้จัดการแล้วครับ ว่าเราจะวางตัวยังไงดี เพราะซีรีส์ก็ใกล้ที่จะออนแอร์แล้วครับ ก็ต้องมีทางที่เราถนัดจริงๆ จะได้ไม่ทำแล้วลำบากใจ”

เต้ “ของเต้ ถ่ายซีรีส์เรื่องนี้จบ ก็มีละครอีก 2 เรื่องครับที่ต้องถ่ายต่อ ถ้าได้รับโอกาสมา ผมก็พร้อมที่จะกระโดดเข้าไปทำครับ”

เสือ “แต่ถ้าแฟนๆ เขาจะจับผมกับพี่เต้จิ้นกัน อันนี้ก็เป็นเรื่องของอนาคตครับ แต่เรามาเล่นคู่กันอย่างนี้ เรารู้อยู่แล้วว่ามันจะออกมาทางไหน ก็มีการคุยกัน วางแผนกันครับผม”

เต้ “สำหรับผมการที่มาเล่นด้วยกัน ก็จะมีถูกจับจิ้นแน่นอน ซึ่งตัวผมรู้อยู่แล้วครับว่าต้องจิ้นกัน ส่วนเรื่องแฟนๆ จะจิ้นหรือไม่ ก็ต้องดูในอนาคตครับ”

อ้อนหวานๆ ฝากติดตามผลงานคู่กันครั้งแรก

เต้ “ซีรีส์เรื่อง You’re My Sky จุดหมายคือท้องฟ้า ใกล้จะออนแอร์แล้วนะครับ เริ่มออนแอร์วันที่ 8 ม.ค. 2565 ครับ ทุกคนทั้งทีมงานและนักแสดงพยายามตั้งใจอย่างเต็มที่ครับ ก็อยากจะให้ทุกคนมาดูกันเยอะๆ นะครับ ทุกคนเต็มที่และทำออกมาให้มันดีที่สุดครับ มีทั้งเรื่องบาส เรื่องกีฬาต่างๆ ก็อยากให้ทุกคนลองดูครับ”

เสือ “เริ่มออนแอร์วันที่ 8 ม.ค. 2565 ครับผม ทางช่อง one31 ครับ ยังไงก็ฝากพวกเราด้วยนะครับ ทั้งพี่เต้และก็เสือนะครับ ฝากพวกเราไว้ในอ้อมอกอ้อมใจด้วยนะครับ (ยิ้ม) และอยากให้ทุกคนช่วยกันดูพวกเราเยอะๆ ด้วยนะครับ รักพวกเรามากๆ นะครับ (ยิ้มหวาน)”

ผู้เขียน : โอ้ว…ซาร่า

กราฟิก : Varanya Phae-araya

ดูข่าวต้นฉบับ

ที่มา : https://www.thairath.co.th/entertain/news/2279236
ขอขอบคุณ : https://www.thairath.co.th/entertain/news/2279236