“ใช่ครับคือผมก็ตั้งใจมากๆ มันเป็นความฝันของคุณแม่ด้วยอยากมีบ้าน พอเราเริ่มทำงานเราก็อยากสร้างจากน้ำพักน้ำแรงของเรา เราก็อยากดูเองอยากมีความทรงจำดีๆ เพราะบ้านเดี๋ยวเราก็ต้องอยู่ไปอีกนาน อยากทำทุกอย่างด้วยตัวเอง สถาปนิกของผมก็น่ารัก แกเป็นเหมือนเพื่อนผมไปเลย แล้วก็ทีมผู้รับเหมาทีมเอาต์ซอร์สก็น่ารัก”

เข้าไปดูบ่อยๆ กลัวทีมช่างเค้ากดดันไหม? “ผมว่าไม่นะครับเพราะผมเข้าไปผมก็ทักทายพี่ๆทีมงานก่อสร้างทุกคนเลย เราไปแบบยิ้มไปดูรูปไปอะไรเห็นเค้าทำก็สวยก็ถามสารทุกข์สุกดิบทุกคนที่อยู่ในไซต์งานของผม”

มีปรับเปลี่ยนอะไรหน้างานบ้างไหมเวลาเราไปดูบ่อยๆ? “มีครับๆ เพราะว่าถ้าตามแบบมันก็เห็นภาพครึ่งนึงแต่พอไปเจอหน้างานก็อาจจะมีปรับให้ตรงกับการใช้งานครับ”

มูลค่าบ้านของเราพอๆกับบ้านของใบเฟิร์นเลยไหม? “ผมไม่แน่ใจว่าของใบเท่าไหร่ เพราะเราไม่เคยคุยกันเรื่องมูลค่าเลย ผมไม่ทราบจริงๆ แต่ว่าของผมตอนนี้ทุกอย่างก็ยังควบคุมอยู่ในงบประมาณอยู่ก็ไม่ได้ใหญ่โตอะไรมาก”

จ่ายสดไหม? “(หัวเราะ) มันเป็นที่ดินเปล่าที่คุณแม่ผมซื้อไว้หลายปี เกิน 5-6-7 ปีขึ้นไปแล้ว ผมถึงมาสร้างบ้านก็ค่อยๆเป็นค่อยๆไป ไม่ได้สร้างพร้อมอยู่เลยอะไรขนาดนั้น ผมกะว่าสร้างไว้เป็นห้องโล่งๆ ทำงานในอนาคตแล้วแบบ มีจังหวะต่อเติมก็ค่อยทำ ไม่ได้จำเป็นต้องทำทั้งหลัง”

ห้องนอนคุณแม่กับเรือนแคคตัสคุณแม่อันไหนใหญ่กว่ากัน? “เรือนแคคตัสครับ แต่ว่าก็ความสุขของแกครับ แกทำงานมามากแล้วก็ยอมให้คุณแม่เขามีความสุขกับสิ่งที่เขาเพิ่งเจอว่าเขาชอบจริงจัง”

เฉพาะเรือนแคคตัสใช้งบประมาณไปเยอะมั้ย? “ยังไม่ทราบเลยครับ เรือนแคคตัสเป็นส่วนที่ต่อเติมเพิ่มขึ้นมา ผู้รับเหมายังไม่ได้อะไรมา ก็บอกให้เขาน่ารักๆกับผมมากๆ (หัวเราะ)”

กับบ้านหลังเก่าจะทำอย่างไร? “คงเก็บไว้เพราะเป็นบ้านสร้างเนื้อสร้างตัวของคุณแม่ คุณแม่ทำภารกิจ แกตั้งใจมาก เสียเหงื่อเสียน้ำตามากับบ้านหลังนี้ ก็คงเก็บไว้ อาจจะปล่อยเช่าก็ว่าไป”

ภูมิใจในตัวเองมั้ย จากตอนเด็กๆเดินตามคุณแม่ วันนี้เดินนำทำตามฝัน สร้างบ้านให้คุณแม่แล้ว? “ยังไม่ถึงภูมิใจ ดีใจที่ผู้ใหญ่ให้โอกาส ขอบคุณมากกว่า แม่กับผมก็ทำงานกันเป็นทีม เขาก็ยังทำงานอยู่ด้วย อยู่เบื้องหลัง ไม่ได้ออกสื่ออะไรมาก ก็เป็นน้ำพักน้ำแรงของทั้งคู่ (ยิ้ม) แต่ก็ดีใจคุณแม่เหนื่อยมามากแล้ว ก็ได้สร้างซะที อยากสร้างมานาน แต่ไม่มีคนดำเนินการ”

บ้านใกล้เสร็จจะมีแฟนให้แม่เลยไหม? “ไม่รู้ครับตอบไม่ได้”

ถ้าถามตัวเองจริงๆ พร้อมที่จะมีแฟนได้หรือยัง แม่ก็เปิดโอกาสให้จีบสาวได้? “ผมกลัวมีแล้วดูแลเขาไม่ได้ เพราะผมบ้างานมากครับ (ยิ้ม) และทำงานตลอด มีเวลาพักไม่กี่วัน ถ้ามีต้องมั่นใจว่ามีเวลาให้และเขาก็ต้องเข้ากับคุณแม่ผมได้”

ถ้ามีสาวๆเข้ามาจะปรึกษาแม่ไหม? “ผมไม่เคยปรึกษาแม่ ผมไม่พูดเรื่องนี้กับแม่เท่าไหร่ พูดแล้วเขิน (หัวเราะ)”

เหมือนแม่ก็เป็นห่วงอยากให้นายมีแฟนซะที นายก็เป็นห่วงกลัวดูแลแม่ไม่เต็มที่ ต่างเป็นห่วงกันและกัน? “เมื่อก่อนแม่ไม่อยากให้มีไม่รู้ทำไม แต่หลังๆ แกอยากให้มี (หัวเราะ)”

แม่อยากอุ้มหลานหรือเปล่า อยากให้มีคนดูแล หรือเปล่า? “ไม่แน่ใจ ต้องถามคุณแม่เลย (ยิ้ม)”

ดูเป็นแม่ลูกที่สนิทกัน แต่ไม่เคยพูดเรื่องความรักกับแม่? “ไม่ใช่ไม่ให้ความสำคัญ ก็เปิดรับ ก็ใช้ชีวิตอยู่กับงาน และรับผิดชอบต่อหน้าที่ตัวเองมาก อย่างงานของผม การจะไปทำงานที่กองวันนึงมีคนทำงาน 50-100 คน ถ้าผมไปทำงานดูแลตัวเองไม่ดี พักผ่อนไม่เต็มที่ มีเรื่องที่กวนใจ ผมรู้สึกว่าทำให้ 50-100 ชีวิตทำงานไม่เต็มร้อย ถ้าผมจะมี ผมต้องพร้อมในทุกอย่าง ทั้งเรื่องเวลา ไม่เบียดเบียนเรื่องเวลางานของผม ไม่ส่งผลกระทบกับคนที่ทำงานกับผมด้วย”

สเปกสาวเป็นอย่างไร โตขึ้นแล้วเปลี่ยนไหม? “ก็เปลี่ยนไปนะ ได้เจอคนเยอะก็มีแบบจินตนาการที่เปลี่ยนไปจากเมื่อก่อน”

แบบไหนที่แพ้ทาง? “(ยิ้ม) ก็ชอบผู้หญิงทำอาหารเป็น มีเสน่ห์ ดุๆนิดๆนะครับ ตาดุอะไรแบบนี้ ผมเป็นคนดื้อนะครับ”.