“แพรวา” มูฟออนแล้ว! ยอมรับเลิก “หน่อง” ช่วงนี้ยังเจอไม่ได้ เพราะจากกันทั้งที่ยังรัก


ให้คะแนน


แชร์

เริ่มด้วย แพรวา กล่าวว่า “เราจบความสัมพันธ์กันแล้วค่ะ ตั้งแต่ 19 มี.ค. เราเข้ากันไม่ได้ค่ะ หมายถึงว่าเราพยายามปรับกันมาหลายรอบ แล้วมันถึงจุดที่รู้สึกว่ามันไม่มีทางไปต่อแล้ว”

ก่อนหน้าคู่เราดูเหมือนเข้าขากันได้ดี? “หนูรู้สึกว่าความสัมพันธ์ของคนสองคนมันไม่สามารถที่จะเข้าขากันได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ขนาดนั้น ยกเว้นเราจะเป็นเนื้อคู่เกิดมาเพื่อกันและกัน ต้องมีการปรับกันอยู่แล้ว เหมือนเราพยายามกันมาถึงสุดทางแล้ว ลองปรับแล้วมันก็ยังไม่ได้ค่ะ”

เป็นเรื่องของเวลาด้วยมั้ย? “ไม่ใช่ค่ะเราทำงานตรงนี้ด้วยกัน”

เรื่องของไลฟ์สไตล์? “ใช่ค่ะ”

ตัดสินใจยากมั้ยที่ต้องมาลดความสัมพันธ์? “หนูรู้สึกว่าเป็นครั้งที่ยากที่สุดตั้งแต่หนูมีความสัมพันธ์มา คือมันยากตรงที่ว่าหนูรู้สึกว่า การจะจบความสัมพันธ์กับใครสักคนโดยที่เรายังรู้สึกรักเค้ามากๆ มันยากมาก มันก็เลยเป็นเหตุผลว่าทำไมหนูเพิ่งจะบอกให้ทุกคนทราบว่าหนูจบความสัมพันธ์กับเค้าแล้ว เพราะว่าก่อนหน้านี้หนูค่อนข้างอ่อนแอมาก แต่ว่าเราไม่ได้อยากจะโชว์ให้ทุกคนเห็น ก็เลยรอวันที่เราโอเคว่าเราพร้อมจะพูดแล้ว”

แปลว่าเราเป็นฝ่ายขอเดินออกมา? “ใช่ค่ะ คือก่อนหน้าที่เราจะสู้กันครั้งสุดท้าย เกิดการคุยและตกลงกันแล้วว่า โอเคเราลองมาปรับกันอีกรอบนึง ถ้ามันไม่ได้รอบนี้คือมันไม่ได้แล้ว ถ้าไม่ได้มันก็คือเราเข้ากันไม่ได้จริงๆ”

ตอนที่คุยกันเค้าพร้อมหรือคิดตรงกับเราหรือเปล่า? “วันนั้นพร้อมเหมือนกันค่ะ แต่หนูไม่รู้ว่าวันที่แยกกันไปสภาพจิตใจเค้าเป็นยังไง เพราะว่าตัวหนูเองก็ไม่ไหวเหมือนกัน เรารู้ว่าเค้าคงไม่ไหวแหละ”

ทำไมไม่สู้กันต่อ? “เพราะมันเกิดการสู้มาเยอะแล้ว และหนูรู้สึกว่าทุกครั้งที่เราพยายามสู้เพื่อกันและกันมันทำร้ายกันทั้งคู่ และมันทำให้เค้าก็เจ็บ หนูก็เจ็บค่ะ หนูไม่อยากให้ถึงวันที่เราทั้งสองคนต้องเจ็บจนจะตายหรือว่าเราจะเกลียดกันไปเลย”

หลังจากตัดสินใจ ได้คุยหรือเจอกันบ้างมั้ย? “ไม่มีเลยค่ะ เพราะว่าคือหนูอยากทักไปถามเค้าว่าเป็นยังไงบ้าง แต่ด้วยความที่เราเลิกกันด้วยความที่เรายังรักกันมากๆ มันค่อนข้างยากสำหรับหนูมากๆ แล้วหนูคิดว่าคงยากสำหรับเค้าเหมือนกัน ถ้าเราจะมาคุยกันโดยที่เรายังรักกัน แต่ว่าเราต้องเลิกกันค่ะ”

ณ วันนี้จิตใจเรามูฟออนมากขนาดไหน? “เรียกว่าดีขึ้นกว่า เดือนที่แล้วค่ะ เพราะเดือนที่แล้วค่อนข้างแย่ ก็ยังมีร้องไห้บ้าง ก็ขึ้นๆลงๆแล้วแต่วัน”

แปลว่าเฮิร์ตหนัก? “ใช่ค่ะ”

สาเหตุเลิกกันคนตีความกันไป หรืออยากบอกว่าเกิดจากอะไร? “อย่างแรกหนูก็อยากแฟร์กับทุกคนเหมือนกันที่ทุกคนสงสัยว่าเราได้เลิกกันไหม เพราะตอนที่เราคบกันเราก็ประกาศให้ทุกคนรู้ พอเราเลิกกันหนูก็อยากจะแฟร์กับทุกคนเหมือนกันว่าเราเลิกกันแล้วนะ แต่แค่ก่อนหน้านี้ที่ไม่ได้ออกมา ต้องขอโทษทุกคนด้วย เพราะไม่สามารถจัดการตัวเองได้จริงๆ ก็เลยอยากจะออกมาบอกว่าโอเคตอนนี้เราจบความสัมพันธ์กันแล้ว และก็อยากจะให้เรื่องนี้มันจบ เพราะมันเริ่มมีการโจมตีแต่ละฝ่าย หนูรู้สึกว่าไม่อยากให้มันเป็นแบบนั้นค่ะ เพราะการเลิกกันมันไม่มีใครผิด”

ยืนยันไม่มีมือที่สาม? “ใช่ค่ะ ลำพังสองคนก็ปรับกันจะแย่แล้ว มีมือที่สามอีกมันคงแย่ไปใหญ่ เอาตัวไม่รอดเลย”

ความสัมพันธ์ที่ผ่านมามันดีกับเรายังไงบ้าง? “คือที่ผ่านมารู้สึกว่ามันเป็นช่วงเวลาที่ดี ถ้าตอนนี้ย้อนเวลากลับไปได้ก็ไม่เสียใจที่ได้คบกับเค้า”

รู้สึกว่ามันจบไวไปมั้ย? “ก็ไม่ได้ไวไปและไม่ได้ช้าจนเกินไป เราได้ทำเต็มที่แล้วในฐานะคนคนนึงที่รักอีกคนนึงแล้วในความสัมพันธ์”

มีความรู้สึกแวบๆอยากจะกลับไปคืนดีกันมั้ยในช่วง 2 เดือนที่ไม่ได้คุยกัน? “โอกาสจะกลับมารีเทิร์นให้เป็นเรื่องของอนาคต แค่ตอนนี้เวลาที่เราจะเจอกันเหมือนมันยังไม่ใช่ แต่ถ้าในอนาคต 5 ปี 10 ปี แล้วกลับมาเจอกันในเวลาที่ใช่ มันก็อาจจะใช่”

ไลฟ์สไตล์ที่ว่าคือเรื่องของความติสต์ของเค้า? “พี่หน่องเค้าไม่ได้เป็นคนติสต์ มันอาจจะมีเรื่องเล็กๆน้อยๆในนิสัยของเราที่เราอาจจะรับเค้าไม่ได้ หรือเค้าอาจจะรับเราไม่ได้ มันเป็นเรื่องปกติมากของความสัมพันธ์ค่อยๆปรับกันมาเรื่อยๆ แต่ตอนนี้มันเหมือนค่อนข้างที่จะสุดทางแล้ว เปรียบเทียบว่าเราเหมือนจิ๊กซอว์ชิ้นนึง แล้วพี่หน่องเป็นจิ๊กซอว์อีกชิ้นนึง แต่เราไม่ใช่จิ๊กซอว์ที่แมตช์กันได้ในตอนนี้ ถ้าเราจะแมตช์กันได้เราต้องหักชิ้นส่วนของเรา และเค้าก็ต้องหักชิ้นส่วนของเค้า ซึ่งเรารู้สึกว่ามันก็จะเจ็บปวดทั้งคู่”

อายุช่องว่างระหว่างวัยมีส่วนมั้ย? “ช่องว่างระหว่างวัยไม่ได้ขนาดนั้น จากที่คบกันมาเราก็เล่นเกมด้วยกัน เราปรึกษางานกันได้ หนูเป็นคนที่ค่อนข้างจะโตกว่าอายุ และตัวเค้าเองก็สามารถมาเล่นเกมกับหนูได้เลยรู้สึกว่าช่องว่างระหว่างวัยไม่ใช่ปัญหา”

คบกันมานานแค่ไหน? “น่าจะ 2 ปี ไม่เสียดายเวลาเลยค่ะ หนูดีใจด้วยซ้ำที่เราได้คบกับเค้า”

มีภาพเราไปเที่ยวทะเลกับอดีตคนรักเก่า? “ไปเที่ยวทะเลกับ พลัสเตอร์-พรพิพัฒน์ ซึ่งพลัสเตอร์ไม่น่าจะเป็นคนรักเราได้ เค้าเป็นทั้งเพื่อนและญาติเรา เป็นคนข้างตัวที่สนิทเป็นที่ปรึกษาได้ดี แล้วกับที่ไปเตะบอลจริงๆเราอยู่ทีม “มันเดย์ไนท์” มานานแล้วก่อนที่จะคบกับพี่หน่อง พอเราคบกับพี่หน่องก็รู้สึกว่าเราให้เกียรติเค้าโดยการไม่ไปเตะบอล เพราะว่าเรารู้สึกว่าผู้ชายมันเยอะเราเลยไม่ไป พอเลิกเรารู้สึกว่าเราต้องหากิจกรรมให้เราดีขึ้น ซึ่งสำหรับหนูคือการออกกำลังกายการใช้แรง จะได้ไม่ต้องคิดอะไรก็กลับไปเตะบอล อีกเคสที่กลับไปเจอแฟนเก่าคือ พี่บี๊บ rooftop หนูกับเค้าไม่ได้มีอะไรกัน หนูเป็นคนที่เป็นเพื่อนกับแฟนเก่าได้ สำหรับหนูรู้สึกว่าแฟนเก่าก็คือคนคนนึงที่รู้จักเราดี ในช่วงเวลาหนึ่ง”

กับหน่องก็กลับมาเป็นเพื่อนกันได้? “ใช่ค่ะ แล้วหนูจะยินดีมากถ้าเราเป็นแบบนั้นได้ แต่แค่ตอนนี้มันเหมือนสภาพจิตใจทั้งคู่น่าจะไม่ไหวกัน”

ตอนนี้ยังรักหน่องอยู่มั้ย? “ยังรักในฐานะพี่คนหนึ่งค่ะ คือพอเราเคยคบกันแล้วตอนนี้เลิกไปแล้ว เวลาเค้ามีงานอะไรหรือได้อะไรหนูก็จะยินดีกับเค้ามากๆ ถ้าเค้าเสียใจหนูก็คงรู้สึกว่าเป็นห่วงเค้าแหละ”

ถ้าเค้าเฮิร์ตอยู่เราอยากให้กำลังใจอะไรเค้ามั้ย? “หนูรู้สึกว่าหนูไม่กล้าที่จะเอาตัวเองเป็นคนให้กำลังใจเค้า เพราะว่าเรื่องเค้าเฮิร์ตมันคือเรื่องของเรา อยากฝากเพื่อนเค้า คุณแม่หรือเฮียบอย พี่ภัทร น้องวันใหม่ แล้วก็อี๊ มากกว่าว่าให้ดูแลเค้า หนูรู้สึกว่าหนูไม่ได้มีสิทธิ์ที่จะไปทำแบบนั้นเพราะมันคือเรื่องของเราเหมือนกัน”

เราเองมูฟออนได้หรือยัง? “หนูก็ถือว่าหนูมูฟออนได้ แค่มันจะออนออฟนิดนึง ทุกวันนี้ก็ใช้ชีวิตแบบวันต่อวันค่ะ”

จากนี้ไปต่อเลยมั้ยหรือพักใจก่อน? “ตอบยากเพราะหนูไม่ได้ปิดแล้วก็ไม่ได้เปิด ตอนนี้หนูรักตัวเองค่อนข้างสูง ถ้าจะเข้ามาก็อาจจะสู้หน่อย ถ้าสเปก ไม่มีแล้ว (หัวเราะ) หมายถึงปีนี้หนู 27 แล้ว หนูรู้สึกว่าเข้ามาได้หมดเลย (ยิ้ม) แค่ลองดู”.

ดูข่าวต้นฉบับ

ที่มา : https://www.thairath.co.th/entertain/news/2390085
ขอขอบคุณ : https://www.thairath.co.th/entertain/news/2390085