ฟลุค จิระ ฉุนเกรียนบูลลี่ลูก รวบรวมหลักฐาน ดำเนินเรื่องตามกฎหมาย


ให้คะแนน


แชร์

ฟลุค จิระ ฉุนเกรียนบูลลี่ลูก รวบรวมหลักฐาน ดำเนินเรื่องตามกฎหมาย

เกาะติดข่าว กดติดตาม ข่าวสด

จากกรณีที่คุณพ่อลูกสอง ‘ฟลุค จิระ’ โดนเกรียนคีย์บอร์ดเข้ามาแสดงความคิดเห็นถึงลูกสาวแบบหยาบคาย ทำเอาเจ้าตัวเดือดต้องแคปมาประจาน

ล่าสุด วันที่ 25 พ.ค. ที่ บ.อาร์เอสฯ ถ.ประเสริฐมนูกิจ ฟลุค จิระ เดินทางมาร่วมพิธีบวงสรวงละคร “เล่ห์ลุนตยา” ทางช่อง 8 และเปิดใจถึงเรื่องราวดังกล่าว

โดยระบุว่า “มันเป็นอะไรที่เรารับไม่ได้ที่สุดแล้ว อยู่ในสังคมโซเชียลมาส่วนใหญ่ก็จะมีแต่คนวิพากษ์วิจารณ์เรา ในฐานะที่เราเป็นพ่อ ก็อาจจะถูกวิจารณ์ว่าทำไมพ่อเลี้ยงลูกแบบนั้นแบบนี้ ซึ่งมันก็มีทั้งถูกและผิด แล้วเราก็ไม่ได้อธิบาย จะว่าอะไรก็ว่าไปผ่านได้ตลอด แต่อยู่ดีๆ มาว่าลูกเรา คือเขาไม่รู้เรื่องอะไรเลยเหมือนอยู่ดีๆ แล้วก็โดนด่า แล้วโดนด่าแบบไม่มีเหตุผลด้วย เราก็รู้สึกว่าทนไม่ได้

แต่ถ้าสมมุติว่าลูกเราซน แล้วเขามาคอมเมนต์ว่าทำไมลูกซนเหมือนลิง ก็จะพอรับได้นะ เพราะลูกเราซนจริงๆ แต่อันนี้เขามาบอกว่า ‘ลูกมึงอ่ะหน้าเหมือนกะเทยควายเลย’ มันไม่ใช่ว่ากะเทยหรือควายไม่ดีนะครับ แต่อยู่ดีๆ มาด่า แล้วมาด่าไม่มีเหตุผลมันก็เลยรับไม่ได้ในตรงนี้”

ไม่ใช่ครั้งแรก? “ใช่ครับ เด็กจะโดนเยอะ เรื่องบูลลี่ ไม่ว่าจะเป็นดั้งแหมบ หรือบางทีก็จะทักว่าทำไมอ้วนจัง ทำไมขาโก่ง จะเป็นรูปลักษณ์ภายนอกหมดเลย จริงๆ ผมว่าไม่ใช่หน้าที่ผมที่จะต้องเปลี่ยนไลฟ์สไตล์ เพราะผมคิดว่าทุกวันนี้ใครจะทำไลฟ์สไตล์แบบไหนในสื่อโซเชียลทำไปเลย ถ้ามันสร้างสรรค์และจรรโลงสังคม

ถ้าคิดว่าเราลงรูปลูกแล้วลูกเราจะถูกด่าอย่าไปลงเลยดีกว่า อันนี้ผมว่าไปเปลี่ยนที่คนคอมเมนต์ดีกว่า เปลี่ยนมาคอมเมนต์อย่างสร้างสรรค์ดีกว่า ผมคิดว่าผมจะ delete block ก็ไม่เป็นไรด้วย เพราะว่าเขาเข้ามาแบบไม่สร้างสรรค์ แล้วพวกเนี้ยเขาก็จะโดนคนรอบข้างสังคมรอบข้างประณาม สมมติว่ามีคอมเมนต์แบบนี้เข้ามา คนเขาก็จะมาคอมเมนต์ด่าคนคนนี้ให้ ไม่ต้องถึงเรา”

ในแง่ของกฎหมาย? “แน่นอนตอนนี้ได้เห็น Case Study เยอะ ผมคิดว่าถึงเวลาแล้วที่คนเหล่านี้จะได้รู้ถึงบทเรียน ปกติเรามีหน้าบ้านเขาเดินมาเขาก็มาถุยน้ำลายใส่ แล้วเดินจากไป เขาไม่ได้รับผลอะไรเลย ทุกวันนี้มันก็อาจจะดีถ้ากวักมือเรียกเขามาว่ามาเสียค่าปรับหน่อยสิ ต่อไปเขาจะได้ไม่ไปถุยน้ำลายบ้านอื่นอีก

ตอนนี้ยังไม่ได้ดำเนินการแต่ว่ากำลังหาข้อมูลอยู่ ต่อไปนี้ถ้าเกิดมีใครมาว่าเราอีกเขาจะได้รู้ว่าทุกการกระทำมันมีราคานะ ตอนนี้ผมคิดว่าชาวเน็ตทุกคนก็มีสติมากขึ้น กับการที่จะมาวิจารณ์ดารานักแสดง จริงๆ วิจารณ์ได้นะครับถ้าอยู่ในเรื่องในราว แต่ถ้าเกิดอยู่ดีๆ มาด่าทอมาคอมเมนต์แบบนี้ ผมคิดว่าเขาต้องโดนบ้างนะครับ”

มันหลายเคสที่มาขอโทษแล้วก็จะใจอ่อน ของเราไม่เคยอ่อนใช่ไหม? “จริงๆ ผมไม่ใช่คนใจร้ายอะไร แต่ถ้าปล่อยผ่านไปก็เหมือนเขาจะผ่านไปได้อีกรายหนึ่ง แต่ถ้าเกิดว่าเขาได้รับอะไรไปบ้าง จะโดนค่าปรับหรือไม่โดน ก็ถือว่าผมได้ทำอะไรบ้างแล้ว”

เป็นคนเดิมๆ ไหม? “ไม่ใช่คนเดิมเลยครับเป็นขาจร คนมาคอมเมนต์อย่างที่บอกว่ามาถ่มน้ำลายแล้วก็เดินผ่านไป ส่วนมากเป็นอวตารหมด หน้าตารูปร่างไม่รู้เลยว่าเป็นใคร คือเป็นอวตารที่ทำขึ้นมาด่าคนโดยเฉพาะ แต่หลายเคสก็เจอกันนะครับ”

แฟนเรานอยด์ไหม ปกติเขาจะเดือด? “ไม่นอยด์ครับตอนนี้เขาขึ้นแล้ว จริงๆ แล้วเขาขึ้นมาก่อนแล้วครับ แต่ว่าเคสนี้ผมเห็นแล้วผมรู้สึกว่ามันเป็นสิ่งที่ผมรับไม่ได้ ปกติผมก็ไม่เคยโกรธใครไม่เคยถึงขนาดนี้

แต่ผมรู้สึกว่าเด็กอ่ะไม่ได้รู้อะไรแล้วไม่ใช่เด็กโตแล้วครับเป็นเด็กแค่ขวบเดียว เขาเข้ามาในไลฟ์เขาก็ยิ้มแย้มไม่ได้ทำอะไรก็อยู่กับพ่อ แต่อยู่ดีๆ ก็มาโดนด่าแสดงว่าคนพิมพ์นี่หาเรื่องแล้วครับไม่มีเหตุผลเกินไป”

ได้อินบ๊อกซ์ไปพูดคุยไหมว่าทำไมถึงทำแบบนี้? “ไม่ครับ ผมเอาทีเดียวเลยครับ เดี๋ยวค่อยว่ากันถ้าคุยกันแล้วมันจะกลายเป็นว่า เรามีการพูดกับเขา เขาพูดกับเรา ไม่ต้องหรอกครับ แบบนี้คือสิ่งที่เราก็ไปดำเนินการเลย แล้วเดี๋ยวจะไปหาดูก่อนเพราะว่าเท่าที่หาดูเจอประมาณ 3 เคส

คือผมบอกให้หามาเยอะๆ เลย มันจะทำให้คนที่อยู่ด้วยกันตระหนักว่าอยู่ในสังคมแบบใหม่ที่เราไม่เคยเห็น ไม่เหมือน 10 – 20 ปีที่แล้วนะ ที่มันไม่มีใครรู้ เดี๋ยวนี้มันเป็นออนไลน์แล้วทุกคนรู้หมด แล้วมาด่าแบบนี้มันควรจะได้รับผล ผมเชื่อว่าอยากจะจัดการให้มันเกิดขึ้นให้ได้”

ตอนนี้เราใจร่มบ้างหรือยัง? “ใจร่มแล้ว ถ้าใจร้อนเราอาจจะอินบ๊อกซ์ไปแล้ว ผมก็รู้สึกว่ามันไม่มีประโยชน์ที่จะไปอินบ๊อกซ์หาเขา ขอมาจัดการเลยดีกว่า”

คือเราลบไปหรือยังหรือว่าแคปไว้หมดแล้ว? “แคปไว้หมดแล้วครับ (เขามาขอโทษยัง?) ยังไม่มีครับ ผมเชื่อว่าใครที่ได้ดูสัมภาษณ์นี้ คุณพ่อคุณแม่ทุกคนผมว่ามันเป็นเรื่องธรรมดา ไม่ใช่ดาราก็ได้ ถ้าอยู่ดีๆ โดนมาว่าคนในครอบครัวมันก็ต้องมีอารมณ์เป็นธรรมดาอยู่แล้ว เพียงแต่ว่าพอผ่านจุดนี้ไปผมก็เชื่อว่าสังคมได้พิจารณารอบๆ ตัวเองบ้าง ว่าเวลาที่พิมพ์อะไรออกไปจะได้ระมัดระวังมากขึ้น ก็จะเข้าใจเรา”

ดูข่าวต้นฉบับ

ที่มา : https://www.khaosod.co.th/entertainment/news_7069347
ขอขอบคุณ : https://www.khaosod.co.th/entertainment/news_7069347