“มันเป็นอะไรที่เรารับไม่ได้ที่สุดแล้ว ในฐานะที่เราเป็นพ่อก็อาจจะถูกวิจารณ์ว่าทำไมพ่อเลี้ยงลูกแบบนั้นแบบนี้ ซึ่งมันก็มีทั้งถูกและผิดแล้วเราก็ไม่ได้อธิบาย จะว่าอะไรก็ว่าไปผ่านได้ตลอด แต่อยู่ดีๆมาว่าลูกเรา คือเค้าไม่รู้เรื่องอะไรเลยเหมือนอยู่ดีๆแล้วก็โดนด่าแล้วโดนด่าแบบไม่มีเหตุผลด้วย เราก็รู้สึกว่าทนไม่ได้ แต่ถ้าสมมติว่าลูกเราซนแล้วเค้ามาคอมเมนต์ว่าทำไมลูกซนเหมือนลิงก็จะพอรับได้นะ เพราะลูกเราซนจริงๆ แต่อันนี้เค้ามาบอกว่า ลูกเราหน้าเหมือนกระเทยควาย มันไม่ใช่ว่ากระเทยหรือควายไม่ดีนะครับ แต่อยู่ดีๆมาด่า แล้วมาด่าไม่มีเหตุผลมันก็เลยรับไม่ได้ในตรงนี้”

ไม่ใช่ครั้งแรก? “ใช่ครับ เด็กจะโดนเยอะเรื่องบูลลี่จะเป็นรูปลักษณ์ภายนอกหมดเลย”

ในแง่ของกฎหมายล่ะ? “แน่นอนตอนนี้ได้เห็นเคสตัวอย่างเยอะ ผมคิดว่าถึงเวลาแล้วที่คนเหล่านี้จะได้รู้ถึงบทเรียน ปกติเรามีหน้าบ้านเค้าเดินเข้ามาก็มาถุยน้ำลายใส่แล้วเดินจากไป เค้าไม่ได้รับผลอะไรเลย ทุกวันนี้มันก็อาจจะดีถ้ากวักมือเรียกเค้ามาว่ามาเสียค่าปรับหน่อยสิ ต่อไปเค้าจะได้ไม่ไปถุยน้ำลายบ้านอื่นอีก ตอนนี้ยังไม่ได้ดำเนินการแต่ว่ากำลังรวบรวมข้อมูลอยู่ ต่อไปนี้ถ้าเกิดมีใครมาว่าเราอีกเค้าจะได้รู้ว่าทุกการกระทำมันมีราคานะ ผมคิดว่าชาวเน็ตทุกคนก็มีสติมากขึ้นกับการที่จะมาวิจารณ์ดารานักแสดง จริงๆวิจารณ์ได้นะครับถ้าอยู่ในเรื่องในราว แต่ถ้าเกิดอยู่ดีๆมาด่าทอมาคอมเมนต์แบบนี้ ผมคิดว่าเค้าต้องโดนบ้าง จริงๆผมไม่ใช่คนใจร้ายอะไร แต่ถ้าปล่อยผ่านไปก็เหมือนเค้าจะผ่านไปได้อีกรายหนึ่ง แต่ถ้าเกิดว่าเค้าได้รับอะไรไปบ้างจะโดนค่าปรับหรือไม่โดน ก็ถือว่าผมได้ทำอะไรบ้างแล้ว”

คนเข้ามาคอมเมนต์เป็นคนเดิมมั้ย? “ไม่ใช่คนเดิมเลยครับเป็นขาจร ส่วนมากเป็นอวตารหมด หน้าตารูปร่างไม่รู้เลยว่าเป็นใคร คือทำขึ้นมาด่าคนโดยเฉพาะ”

แอปเปิ้ลนอยด์มั้ย ปกติเค้าจะเดือด? “ไม่นอยด์ครับ จริงๆแล้วเค้าขึ้นมาก่อนแล้ว แต่เคสนี้ผมเห็นแล้วผมรู้สึกว่ามันเป็นสิ่งที่ผมรับไม่ได้ ปกติผมก็ไม่เคยโกรธใคร ไม่เคยถึงขนาดนี้”

ได้อินบ็อกซ์ไปถามมั้ยว่าทำไมถึงทำแบบนี้? “ไม่ครับ ผมเอาทีเดียวเลย เดี๋ยวจะไปหาดูก่อนเพราะเท่าที่หาดูเจอประมาณ 3 เคส เดี๋ยวนี้มันเป็นออนไลน์ทุกคนรู้หมด แล้วมาด่าแบบนี้มันควรจะได้รับผล ผมอยากจะจัดการให้มันเกิดขึ้นให้ได้”

มีคนไหนมาขอโทษรึยัง? “ยังไม่มีครับ คุณพ่อคุณแม่ทุกคนผมว่ามันเป็นเรื่องธรรมดา ไม่ใช่ดาราก็ได้ ถ้าอยู่ดีๆ โดนมาว่าคนในครอบครัวมันก็ต้องมีอารมณ์เป็นธรรมดาอยู่แล้ว เพียงแต่ว่าพอผ่านจุดนี้ไปผมก็เชื่อว่าสังคมได้พิจารณารอบๆตัวเองบ้างว่าเวลาที่พิมพ์อะไรออกไปจะได้ระมัดระวังมากขึ้น ก็จะเข้าใจเรา”.