“จริงๆเราก็ไม่ค่อยได้ออกรายการด้วยกันบ่อย จะน้อยมากๆเพราะว่าเราก็ไม่ค่อยได้มองว่าเราจะรับงานคู่เป็นงานหลัก ต้องดูเป็นงานๆไปว่าโอเคทั้งคู่มั้ย ก็ต้องดูที่เหมาะกัน อย่าง ไปรายการร้องข้ามกำแพง ก็คือมันเป็นทางเรา ผมร้องเพลงได้ เค้าร้องเพลงได้ ก็โอเค อยู่ๆจะให้ไปรับรายการ ทอล์กเรื่องชีวิตก็อาจจะไม่ใช่ทางเราเท่าไหร่”

เวลาออกรายการด้วยกันใครเขินกว่ากัน?

“(หัวเราะ) ผมไม่ค่อยเท่าไหร่ พี่ดาวจะเขินกว่า เวลาออกสื่อด้วยกันเค้าจะเขิน ปกติเค้าเป็นพิธีกรที่คุยเก่ง พอเจอผมไปในรายการเค้าก็จะฟีลว่าไม่รู้จะทรีตผมเป็นอะไร จะจริงจังหรือจะกันเอง ก็เข้าใจเค้า (หัวเราะ) ก็ขอบคุณแฟนๆด้วยครับ คือเราก็ไม่คิดว่าจะมีคนเห็นว่าคู่เราน่ารัก เพราะเราก็เป็นอย่างนี้อยู่แล้ว ถ้าชอบก็ติดตามกันไปเรื่อยๆ นะครับ”

มีโมเมนต์ในติ๊กต่อกเยอะเหมือนกันที่คนชอบ?

“ส่วนใหญ่โมเมนต์จะอยู่ในติ๊กต่อก บางครั้งเราก็จะดูว่าเป็นโมเมนต์ที่เป็นคอนเทนต์น่ารัก น่าเล่นนะ น่าแกล้ง เราก็จะทำเลย ถามว่าใครแกล้งกันบ่อยกว่า ผมว่าก็สลับกันแกล้งครับ”

คู่เราใครหวานกว่ากัน?

“ผมก็ไม่รู้ว่านิยาม ความหวาน ความโรแมนติกมันคืออะไร เพราะคู่เราก็ไม่ได้หวานหรือเป็นสายคลั่งรักขนาดนั้น เรามีคาแรกเตอร์ของเราอยู่ แล้วเราก็รู้สึกว่ามันไม่เหมือนสมัยวัยรุ่นตอนเด็กๆที่เวลารักใครใจจะเต้นๆ อยากเจอจังเลย ไม่ไหวแล้ว มันไม่ใช่แบบนั้นแล้ว จะเป็นความธรรมดาแต่พิเศษ เป็นความรู้สึกปลอดภัยที่มีเค้าอยู่ตรงนี้ เวลาเหนื่อยๆก็รู้ว่าเราจะมีเค้านะแต่ก็มีเติมความหวานกันแหละครับแค่อาจจะไม่ได้อลังการ”

เราถือเป็นสายเปย์มั้ย?

“ไม่ครับ คู่ผมคุยกันเลยนะว่าของแพงไม่ต้องซื้อนะ ตัวเค้าก็บอกผมนะว่าถ้าอยู่ๆผมซื้อของหลักหลายแสนมาให้ในวันที่เรายังไม่ได้มั่นคงขนาดนั้น ไม่ต้องทำเลยนะ เค้าจะโกรธนะ เอาเงินไปทำอย่างอื่นดีกว่า นอกจากว่าถึงเวลาสมควรและพิเศษจริงๆ แล้วเรามั่นคงในหน้าที่การงานที่เราไม่ต้องสแปร์เงินไปทำอย่างอื่น ถ้าวันนั้นค่อยทำตามโอกาส เพราะเราก็รู้ว่าเรายังมีภาระที่ต้องจัดการ อย่างเวลาที่เค้าจะซื้อของแพงเค้าก็จ่ายเอง อย่างทริป ที่ไปต่างประเทศของที่เห็นเค้าซื้อเองจริงๆ เพราะว่าเค้าเตรียมเงินไปเองเลย เค้าเป็นคนทำงานเยอะมาก กว่าจะใช้เงินยากมาก ทริปนั้นเค้าเลยตั้งเงินไว้เลยว่าเค้าจะขอซื้อของเป็นของขวัญให้ตัวเอง ผมก็มีซื้อสร้อยให้เค้าวันวาเลนไทน์ที่แอบซื้อจากทริปที่ไปเที่ยวด้วยกันมา แต่ก็ไม่แพงมากขนาดนั้น ส่วนเค้าเวลาซื้อของให้ผมก็จะเป็นของที่เอาไว้ใช้งาน เช่น กล้อง ไอแพด ฯลฯ แล้วเราได้ใช้จริงๆ”

ที่บอกว่าวางแพลนชีวิตในอนาคตกันไว้บ้างแล้ว มีแพลนสร้างบ้านมั้ย?

“เราคุยเรื่องอนาคตไว้บ้าง แต่ว่ามันยังไม่ได้ชัดเจนขนาดนั้นว่าจะเมื่อไหร่ยังไง แต่เราคำนวณความมั่นคงว่าปีนี้เป้าหมายความมั่นคงของเราคืออะไร”

ครอบครัวเราล่ะ คุณพ่อคุณแม่เรารักเค้าด้วยมั้ย?

“ครับ โอเคเลยครับ ด้วยความที่เราคบกันมานาน เค้าก็คงรู้แล้วว่าไม่ใช่คบกันเล่นๆ แล้ว และพี่ดาวก็ซัพพอร์ตผมจริงๆ ไม่ได้มีปัญหาอะไรในเรื่องครอบครัว ผมว่าวันนี้เค้ารู้แล้วว่าเราสามารถที่จะเริ่มสร้างความมั่นคงของตัวเองได้แล้วแน่ๆ เพราะว่าอย่างเรื่องหนี้สินที่บ้าน ก็น้อยลงไปเยอะมากๆ แล้วจริงๆเค้าก็รู้แล้วว่าเราอยู่รอดได้ด้วยตัวเองแล้ว จะไม่ภาระ หนักหนามากมายกับ เราแล้ว เค้าก็ไม่ค่อยห่วงแล้ว การที่เราจะมีครอบครัวเค้าก็ไม่ติดอยู่แล้วครับ”.