ฟิล์ม รัฐภูมิ เปิดใจหลังผ่าตัด เลือกใส่หัวใจหมู หากเจอกรณีฉุกเฉิน


ให้คะแนน


แชร์

ผมไม่รู้มาก่อนว่าตัวเองเป็นหัวใจรั่ว ไม่มีอาการอะไรเลย ตอนนั้นที่รู้ก็ตกใจ ตรวจเช็กร่างกายทุกปี หมอตรวจพบความผิดปกติ ขอเช็กและพบว่าหัวใจรั่วขั้นสุดท้าย สำหรับคนที่เป็นจะเหนื่อย หอบ นอนไม่หลับ มือเท้าบวม จะไม่สามารถเดินไปปกติ

แต่ผมไม่มีอาการ เป็นเคสโชคร้ายที่ไม่แสดงอาการอะไรเลย ผมยังสามารถปั่นจักรยานได้ 20 กิโลสบายๆ แต่มันเป็นเรื่องที่ไม่ดี ที่เราเห็นข่าวว่ามีคนเป็นลม คนร่วงไปเลย ตอนนั้นก็ห้ามออกกำลังกาย ร่างกายก็เริ่มอ้วน 

กว่าจะได้คิวก็รอประมาณ 2 ปี เพราะหมออยากให้ร่างกายแสดงอาการออกมาก่อน แต่มันก็ไม่แสดง แล้วไปตรวจอีกครั้งก็พบว่าหัวใจมันเริ่มโตผิดปกติ เดี๋ยวน้ำจะท่วมปอด และซ่อมยาก ก็เลยต้องแทรกคิวและผ่าตัดด่วน แม้หัวใจจะบวมขึ้นมาเยอะมากแต่มันก็ไม่แสดงอาการอะไรเลย คุณหมอก็เลยไม่รอ 

ตลอด 2 ปีที่ผ่านมาก็มีความเสี่ยงตลอด ผมเลยไม่ไปออกกำลังกายเลย ตอนแรกต้องบินไปเมืองนอก ค่าผ่าตัด 10 ล้านเตรียมไปผ่าตัดที่อเมริกา แต่ว่ามันไม่ไหว แต่ไม่ได้ทำประกันสุขภาพไว้ 

ก่อนผ่าตัดผมกังวลว่า เพราะหมอบอกว่าอาจจะไม่สำเร็จ 100% ขอรายงานเคส 2 เคส 3 ไว้ก่อน เคสแรกคือเข้าไปซ่อมผ่าตัดแผลเล็กที่ราวนมข้างขวา 3 ชั่วโมงก็เสร็จ แต่ถ้าเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดขึ้นมาอาจจะต้องใช้เวลามากขึ้นเป็น 6 ชั่วโมง

และเขาให้ผมเลือกว่า จะเอาหัวใจเทียม หรือหัวใจหมู ถ้ามันซ่อมไม่ได้เขาก็จะเปลี่ยนหัวใจเทียมหรือหัวใจจากสัตว์ ซึ่งผมก็ตกใจว่าจะต้องเลือกแบบนั้นเลยเหรอ ก็เลยยิ่งกลัวเข้าไปใหญ่ แต่ผมก็เลือกหัวใจหมูไป เพราะจะได้ไม่ต้องกินยาละลายลิ่มเลือดตลอดชีวิต แต่ว่าจะต้องผ่าตัดทุกๆ 10 ปี

แต่มันมีความปลอดภัยมากกว่าหัวใจเทียม ผมก็เลยเลือกหัวใจหมู สำหรับเคส 3 ถ้าทำอะไรไม่ได้ ต้องผ่าอก แหวกซี่โครง ผมก็ยิ่งกลัว อย่าให้ตัวเองได้เจอแบบนั้นเลย และผมลุ้นมากว่าผมจะได้อะไร 

หลังจากเข้าห้องผ่าตัด พี่ๆ น่ารักชวนคุยสักพักผมก็หลับไปเลย แล้วก็ตื่นมาอีกทีเจอเหล็กและจอทีวีเป็น 10 ตัว นึกว่าตัวเองอยู่ในยานอะไรสักอย่าง ตอนนั้นผ่าตัดเสร็จแล้ว พอเริ่มมีสติก็รู้ว่าตัวเองผ่าตัดหัวใจ และเอามือจับหน้าอกทันที แล้วบอกตัวเองว่า รอดแล้ว ไม่โดนผ่าใหญ่ แล้วก็สลบไปอีกรอบ 

ก่อนจะเข้าผ่าตัดผมโทรหาผู้มีพระคุณของผมทุกคนเลย เพราะผมไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น และหลังจากที่ผ่าตัดมา 3 สัปดาห์ ก็รู้สึกว่าตัวเองแข็งแรงมากขึ้น และหน้าผมสดใสมาก ผมหน้าเด้งมากขึ้น ผมผอมลงไปมาก เลยทำให้รู้ว่าก่อนหน้านี้ผมป่วย ก่อนหน้านี้ได้ยินเสียงหัวใจตัวเองจะดัง ฟู่ๆ ตลอด เสียงนั้นมันหลอนประสาทผมมาก แต่ตอนนี้มันดังตึ๊กๆ รู้สึกมีพลัง 

จากนั้น มดดำ คชาภา บอกว่า ตอนนั้นไม่กล้าด่าฟิล์มมากเพราะกลัวมันตาย เพราะโรคนี้มันสามารถตายได้ทุกเมื่อถ้าเครียด ตกใจก็ตายได้ หรือหัวเราะมากก็ตายได้ เพราะเลือดสูบฉีดเยอะเกิน  คนเราตายได้ทุกเวลา

หลังจากผ่าตัดเสร็จผมขับรถไปหาแม่ด้วยตัวเอง ทั้งๆ ที่คนผ่าตัดหัวใจต้องพักฟื้น 1 เดือน พอไปถึงบ้าน วินาทีที่ได้เห็นแม่ แม่เห็นผมแล้วร้องไห้ ตอนนั้นทำให้ผมรู้ว่าชีวิตมีค่า เงินทองซื้อไม่ได้ ชีวิตมนุษย์มีแค่นี้จริงๆ ผมมีความสุขมากที่ผมหาย ขอบคุณทีมแพทย์มากจริงๆ 

ที่หัวใจผมรั่วเป็นเพราะตัวผมเอง ไม่ได้เกี่ยวกับกรรมพันธุ์ บกพร่องไม่มีสาเหตุ เนื้อเยื่อยุ่ยไปเอง ผมไม่ได้ใช้ชีวิตหนัก แต่ว่าทำงานเครียด พักผ่อนน้อย ร่างกายอ่อนแอก็เลยทำให้เป็น

ดูข่าวต้นฉบับ

ที่มา : https://www.thairath.co.th/entertain/news/2492740
ขอขอบคุณ : https://www.thairath.co.th/entertain/news/2492740