ลองโควิดทำพิษ เอ ไชยา กลัวเสียงหายกระทบงาน ตัดช่องทางทำมาหากิน


ให้คะแนน


แชร์

อีกหนึ่งนักแสดงลิเกมากฝีมือ เอ ไชยา มิตรชัย ที่เริ่มรับงานแสดงมาตั้งแต่ปี 2530 เกือบ 35 ปีที่คลุกคลีอยู่กับอาชีพนี้ หากวันนึงถ้าเขาต้องพักงานไปเพียงเพราะอาการลองโควิดคงจะรับไม่ได้ ล่าสุดเจ้าตัวออกมาเปิดใจกับพิธีกรตัวแม่ หนูแหม่ม สุริวิภา ในรายการโต๊ะหนูแหม่ม ซึ่งเจ้าตัวเผยว่า เครียดมาก ใจหายเหมือนกันถ้าวันนั้นเกิดขึ้นกับตัวเอง

ลองโควิดเกิดอะไรขึ้น?

ก่อนหน้านี้รอดโควิดทุกซีซั่น แต่สันนิษฐานกับคุณหมอว่า เพราะท่านมั่นใจว่าเราติดแล้ว แต่เราก็บอกเค้าไปว่ายังไม่ได้ติดนะ ประมาณว่าติดไปแล้ว แต่เราไม่รู้ตัว ซึ่งก่อนหน้านั้นพี่หนูนาเป็นมาก่อน เราคิดว่าอาจจะไปติดช่วงนั้น ซึ่งตอนนี้คุณหมอก็ยังหาสาเหตุไม่เจอ แต่พอไปเสียงเราก็จะเบาลง เหมือนมันจะหมดแล้วเสียงก็หายไปเลย

ซึ่งคุณหมอก็บอกว่าร้อยทั้งร้อย เพราะเค้าวิจัยมาแล้วว่าคนที่ใช้เสียงมาตั้งแต่เด็ก นักร้องคุณใช้ไปเถอะใช้ไปตลอดชีวิต เส้นเสียงคุณถูกฝึกมา ยังไงก็แข็งแรงไม่เป็น ผมก็เลยมาวิเคราะห์ว่าเป็นเพราะตัวเองออกข้างนอกตลอดไหม พิธีกรทำรายการ แต่ช่วงที่เราเป็นมันเป็นจังหวะของโควิด งานนอกสถานที่เราก็ไม่ได้ออกไปใช้เสียงสมบุกสมบันอะไรขนาดนั้น

เราต้องรักษาแบบไหน คุณหมอบอกไหม?

ตอนนี้รักษาอยู่ครับ แต่ที่น่าตกใจคือตอนแรกที่ส่องกล้องเข้าไปคือเส้นเสียงของเราเวลาที่พูดมันจะตีกันกระทบกัน และช่วงที่ตรงกลางมีตุ่มขึ้นมามันเป็นริดสีดวงเส้นเสียงประมาณนั้น แล้วก็เกิดขึ้นมาเพราะเสียดสีกันมากเยอะๆ และไม่ได้เกิดการรักษา มันก็จะมีอาการเหมือนเลือดจะออกและอักเสบนู่นนี่นั่น

ของเราอยู่เคสไหน?

คุณหมอบอกว่าเคสของเราไม่อยากแตะต้องเลย เพราะว่าถ้าเราไม่ใช่นักร้องเค้าจับเราขึ้นเขียงเลยทันที แต่คุณหมอบอกว่าผมจะเฝ้าดูอาการ และให้รักษาตัวเองให้ดีมากที่สุด นั่นคือการทานยาไปก่อนและอยู่ในช่วงของการรักษาไม่อยากให้เป็นอะไรไปมากกว่านี้

ต้องใช้สเตียรอยด์ไหม?

ต้องใช้ครับ แต่เราใช้ในปริมาณที่พอดี ขอบคุณหมอให้ยาเรามา และก็มียาลดบวมนั่นนี่ คือรักษาตามขั้นตอนหมดเลย แต่สเตียรอยด์คือจำเป็นต้องใช้ในร่างกาย และตอนนี้ที่เราไปส่องกล้องมาครั้งล่าสุดต้องยอมรับจริงๆ ว่าก่อนที่จะมาอัดรายการประมาณสองวันมันมาแล้ว เสียงเริ่มหายอีกแล้ว

ผมยังยิ้มร่าเริงอยู่เลยว่าเสียงผมเริ่มกลับมาแล้ว แต่ก็ไปหาคุณหมอ ซึ่งถ้ากระทบแรง หรือว่าไปใช้เสียงแรง มันมีโอกาส เพราะผมไม่ได้เป็นแค่เสียงอย่างเดียว ผมมีอาการภูมิแพ้ด้วย แพ้อากาศด้วย ถ้ามันมาคู่กันเมื่อไหร่ถือว่าเป็นเรื่องใหญ่ ต้องคอยดูแลและรักษา

ถ้าเสียงหายไปเลย ร้องลิเกไม่ได้ “เอ ไชยา” จะเป็นยังไง?

ใจหายนะ ใจหายจริงๆ นะพี่ เพราะว่าใช้เสียงมาตั้งแต่เล็ก มันยิ่งใช้มันยิ่งออก คือช่องทางทำมาหากินของเรา แต่ถ้าเราไม่มีเค้าเลยในตอนนี้ อย่างที่บอกว่ามันเป็นอะไรที่ทรมาน มันเครียดมาก และปัจจุบันจะเห็นว่าอย่างรายการของช่องเราผมนั่งอยู่ตรงนี้และปีทีมงานเดินไปเดินมา เค้าก็อยากเห็นเราร้อง ซึ่งตอนนี้มันยังร้องไม่ได้ แล้วก็ใจหาย แต่เสียงมันก็คงไม่หายไปไหน เพียงแต่ว่าเราอาจจะกลับมาใช้เท่าเดิมไม่ได้

ใช้เวลารักษานานไหม?

คือตอนนี้ล่าสุดที่ผมไปมา ผมดีขึ้น ไอ้ตุ่มที่บวมขึ้นมาเม็ดมันเริ่มยุบลง เพราะฉะนั้นมันก็คือนิมิตหมายที่ดี ถ้าเราไม่ไปกดซ้ำมัน มันก็จะบรรเทาทุเลาขึ้น บอกเลยว่าตอนนี้ผมจะระมัดระวังมากยิ่งขึ้น และโชคดีเรามาเจอกัลยาณมิตรที่ดี เพื่อนพี่น้อง และรายการที่เรารู้จัก พอเราจะใช้เสียงแรงไป น้องบอกไม่ต้อง เค้าก็สะกิดบอกให้เราพอก่อน เดี๋ยวผมให้คนอื่นทำให้ โชคดีอยู่อย่างนึง เราก็ต้องมีวินัยต่อการรักษา ให้ความร่วมมือกับคุณหมอ เพื่อที่จะทำให้เราหายไว.

ดูข่าวต้นฉบับ

ที่มา : https://www.thairath.co.th/entertain/news/2529215
ขอขอบคุณ : https://www.thairath.co.th/entertain/news/2529215