เก็บบ้าน-มูลนิธิฯ เถ้าอัฐิ “สรพงศ์” “กรมสมเด็จพระเทพฯ” เสด็จพระราชทานเพลิง (คลิป)


ให้คะแนน


แชร์

ที่วิหารมูลนิธิสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) เมตตาบารมี ต.มิตรภาพ อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา เมื่อวันที่ 6 พ.ย.เวลา 18.39 น. สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินในการพระราชทานเพลิงศพ นายกรีพงศ์ เทียมเศวต หรือสรพงศ์ ชาตรี จ.ภ.ศิลปินแห่งชาติ โดยมีข้าราชการชั้นผู้ใหญ่จากหน่วยงานต่างๆทั้งส่วนกลางและในพื้นที่ นักการเมือง คนบันเทิง คนดัง รวมถึงประชาชนจากทั่วทุกสารทิศที่เดินทางมาร่วมงานและเฝ้ารับเสด็จ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้จัดที่รอบๆ อาคารและรอบๆเมรุให้ประชาชนนั่งรอเฝ้ารับเสด็จ อย่างเป็นระเบียบ โดยนางเหรียญ อาวรณ์ อายุ68ปี ชาวจังหวัดพิจิตร เปิดเผยว่า รู้สึกดีใจที่ได้เข้ามานั่งรอเฝ้ารับเสด็จสมเด็จพระเทพฯ เช่นเดียวกับนายภาณุพงษ์ หงส์ไทย อายุ 72 ปี จากกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า เคยเห็นแต่ภาพอุทยานหลวงพ่อโตที่สวยงามมาก จึงอยากมาเห็นกับตาและที่ตั้งใจมากคืออยากมารอเฝ้ารับเสด็จสมเด็จพระเทพฯ ซึ่งพระองค์ท่านเป็นที่รักเคารพของประชาชนคนไทยทั่วทั้งประเทศ ดีใจมากที่จะได้มาเข้าเฝ้าพระองค์ท่านในครั้งนี้

เก็บบ้าน-มูลนิธิฯ เถ้าอัฐิ “สรพงศ์” “กรมสมเด็จพระเทพฯ” เสด็จพระราชทานเพลิง (คลิป)

ทั้งนี้ มูลนิธิสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) จัดพิธีพระราชทานเพลิงศพ นายกรีพงศ์ เทียมเศวต หรือสรพงศ์ ชาตรี จ.ภ.ศิลปินแห่งชาติ และพระเอกระดับตำนานของไทย ที่เสียชีวิตอย่างสงบด้วยโรคมะเร็งปอด เมื่อวันที่ 10 มี.ค.ที่ผ่านมา ณ เมรุชั่วคราว ที่ทำเป็นเมรุขนาดใหญ่ มีลวดลายแบบวัฒนธรรมทางภาคเหนือ ครอบด้วยวัวสีขาวตัวใหญ่ แทนนกหัสดีลิงค์ และมีวัวบริวารอีก 9 ตัว ภายในมูลนิธิสมเด็จพระพุฒาจารย์ฯ โดยในเวลา 10.30 น. มีพิธีหลวงในพระบรมราชูปถัมภ์ ที่มีพระธรรมสุธีเจ้าอาวาสวัดหัวลำโพง เป็นประธานสงฆ์ นำคณะสงฆ์ รวม 10 รูป สวดพระพุทธมนต์ พระเถระชั้นผู้ใหญ่และพระสงฆ์ติดตามรวมกว่า 100 รูป ร่วมพิธี ขณะที่หม่อมกมลา ยุคล ณ อยุธยา เป็นผู้แทน ม.ล.ชาตรีเฉลิมยุคล เป็นประธานฝ่ายฆราวาส และนางสาวดวงเดือนจิไธสงค์ คู่ชีวิตของสรพงศ์ จุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย โดยมีญาติสนิทมิตรสหาย พุทธศาสนิกชน ร่วมพิธีจำนวนมาก

ต่อมาเวลา 11.30 น. พระสงฆ์ 10 รูป บังสุกุล เป็นเวลา 1 ชั่วโมง เจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาเชิญหีบศพออกจากวิหารฯ ไปยังเมรุชั่วคราว พร้อมกับแบกเวียนรอบเมรุ 3 รอบ โดยมีนางสาวดวงเดือน จิไธสงค์ ภริยาของสรพงศ์ ชาตรี ถือเครื่องทองน้อย และญาติถือเครื่องราชฯ พร้อมด้วยญาติ คนสนิท พุทธศาสนิกชนสวมชุดขาวและเจ้าหน้าที่เดินตาม จากนั้นนำหีบศพขึ้นไปวางบนขั้นสองของเมรุชั่วคราว และวางเครื่องทองน้อยแล้วเชิญขึ้นตั้งบนจิตกาธาน พร้อมเฝ้ารับเสด็จในช่วงเย็น

ขณะที่จุดโรงทานมีญาติโยมศิษยานุศิษย์ที่เดินทางมาจากจังหวัดต่างๆ อาทิ นครพนม ซึ่งเป็นคนที่รักและติดตามผลงานของสรพงศ์มาตลอด นั่งรถไฟลงที่สถานีสีคิ้ว ตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา เข้าพักที่มูลนิธิฯ ตั้งแต่เวลา 01.00 น. รวมทั้งแฟนคลับจากบางบัวทอง จ.นนทบุรี เหมารถมาด้วยกัน 4 คัน ได้พักผ่อนในโรงทาน มีอาหารฟรีให้รับประทาน อาทิ ผัดหมี่โคราช ราดหน้าชาววัง ขนมครก จ.ระยอง หอยทอด กวยจั๊บ ขนมจีนน้ำเงี้ยว น้ำส้มคั้น น้ำอ้อย เป็นต้น ด้านนายสมเกียรติ ศรีจันทึก อายุ 67 ปี ได้นำอาหารมาตั้งโรงทาน บอกว่ารักสรพงศ์มาก ยังจดจำคำสั่งสอนของสรพงศ์ได้ติดตาตรึงใจ สรพงศ์เป็นคนน่ารัก อัธยาศัยดี เป็นคนกันเอง กิจวัตรประจำวันที่สรพงศ์ทำเป็นประจำช่วงที่อยู่ในมูลนิธิฯ คือเดินตรวจและต้อนรับญาติโยมด้วยตัวเอง ยิ้มแย้มแจ่มใส เป็นกันเอง ไม่ถือตัว ขยัน และจะเก็บกวาดเช็ดถูองค์สมเด็จฯ นั่งสมาธิ และยังได้ทำบุญสาธารณกุศลต่างๆอีกมากมาย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในพิธีฯครั้งนี้จำกัดผู้เข้าไปร่วมประมาณ 2,000 คน ภายในมีปะรำพิธีรับเสด็จและโดมพระสงฆ์ โดมญาติโยม โดมสำหรับศิลปินดารา โดมวีไอพี ข้าราชาการชั้นผู้ใหญ่ ทั้งจากส่วนกลางและในจังหวัดนครราชสีมา ผู้ที่จะเข้าไปภายในพิธีจะต้องตรวจ ATK ทุกคน และไม่อนุญาตให้ผู้ที่ไม่มีบัตรผลตรวจเข้าไปร่วมพิธีอย่างเด็ดขาด ขณะที่ทางมูลนิธิฯมีการนำรูปภาพของสรพงศ์ในอิริยาบถต่างๆ มาติดตั้ง เป็นภาพตั้งแต่สมัยเริ่มโด่งดัง รวมทั้งรูปภาพความประทับใจกับ ม.ล.ชาตรีเฉลิม ยุคล ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ของมูลนิธิฯหลายคนยังทำใจไม่ได้ ถึงกับร่ำไห้น้ำตานองหน้า รวมทั้งนางสาวดวงเดือน จิไธสงค์ ที่มีน้ำตาซึมอยู่ตลอด

ต่อมาเวลา 15.00 น. ข้าราชการ นักการเมือง และผู้กำกับการแสดงและดารานักแสดง ขึ้นทอดผ้าบังสุกุล อาทิ นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา เลขาธิการพรรคเพื่อไทย นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ นายวิเชียร จันทรโณทัย อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา หม่อมกมลา ยุคล ณ อยุธยา นายไพรัช-นายสยาม สังวริบุตร นายกรุง ศรีวิไล นางพิมพ์จันทร์ เทียมเศวต นางนัยนา ชีวานันท์ นายฤทธิ์ ลือชา นายบิณฑ์-เอกพัน บรรลือฤทธิ์ รวมทั้งข้าราชการ ประชาชนที่รักและชื่นชมในตัวสรพงศ์ ชาตรี เดินทางมาจากทั่วสารทิศ รวมกว่า 5,000 คน เข้าไปร่วมพิธี

ด้านพระภาวนาประชานารถ ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 11 และเจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ ที่ปรึกษามูลนิธิฯ เปิดเผยว่า หลังพิธีพระราชทานเพลิงศพสรพงศ์แล้ว เช้าวันที่ 7 พ.ย.มีพิธีพระราชทานผ้าไตรและภัตตาหารสามหาบ ในการเก็บอัฐิ โดยเถ้าอัฐิ ดวงเดือน จิไธสงค์ ภรรยาของสรพงศ์ จะเก็บไว้ที่บ้านส่วนหนึ่ง และอีกส่วนหนึ่งเก็บไว้ที่มูลนิธิสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โตพรหม รังสี) เมตตาบารมี อ.สีคิ้ว ในฐานะที่สรพงศ์เป็นผู้ก่อตั้งและพัฒนามูลนิธิฯ จนเป็นที่รู้จักของคนไทยทั้งประเทศ จากนั้นจะกำหนดพิธีทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้กับสรพงศ์อีกครั้งในภายหลัง

อีกด้านหนึ่ง ที่วัดจินดาราม อ.สามพราน จ.นครปฐม มีพิธีฌาปนกิจศพ ปิยะ ตระกูลราษฎร์ อดีตนักแสดงที่สร้างชื่อจากภาพยนตร์เรื่องครูบ้านนอก และเป็นนักแต่งเพลงดังอย่าง “ไก่จ๋า” ที่เสียชีวิตในวัย 68 ปี ด้วยโรคมะเร็ง ที่โรงพยาบาลพระนั่งเกล้า เมื่อวันที่ 2 พ.ย.ที่ผ่านมา โดยมีครอบครัวและลูกหลาน เหล่าเพื่อนพ้องน้องพี่ในวงการบันเทิง มีทั้งวงการเพลง วงการมวย วงการนักแต่งเพลง วงการลูกทุ่ง แฟนเพลง และญาติสนิท มาร่วมงานอย่างคับคั่ง อาทิ ยิ่งใหญ่ อายะนันท์ สยาม ปิ่นสินชัย รายการศึกอัศวินดำ สุรศรี ผาธรรม ผู้กำกับครูบ้านนอก ไก่-ปริศนา วงศ์ศิริ เจ๋ง ดอก จิก ดู๋ ดอกกระโดน วาสนา ประสิทธิเวช อำภา ภูชิต เด่นชัย สายสุพรรณ รองนายกสมาคมลูกทุ่งแห่งประเทศไทย ท่ามกลางบรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้าและผู้คนแออัดแน่นศาลา โดยมีเสียงเพลงร้องสด เพลงไก่จ๋า ดังตลอดเวลา รวมถึงมีการตั้งจอมอนิเตอร์เปิดให้ชมการแสดงเวทีลูกทุ่งในอดีตเพื่อรำลึกถึงปิยะ ตระกูลราษฎร์

เก็บบ้าน-มูลนิธิฯ เถ้าอัฐิ “สรพงศ์” “กรมสมเด็จพระเทพฯ” เสด็จพระราชทานเพลิง (คลิป)

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนเริ่มพิธี ครอบครัวตระกูลราษฎร์ได้มอบทุนการศึกษาให้กับโรงเรียนวัดจินดาราม และทำบุญถวายวัดจินดาราม จากนั้นเมื่อถึงกำหนดประชุมเพลิงในเวลา 15.39 น. พล.อ.อุดมชัย ธรรมสาโรรัชต์ อดีตแม่ทัพกองทัพภาคที่4 เป็นประธานทอดผ้าบังสุกุล พร้อมวางดอกไม้จันทน์ ต่อด้วยกลุ่มเพื่อนในวงการบันเทิง และกลุ่มแฟนเพลงทยอยกันขึ้นวางดอกไม้จันทน์ คารวะศพเป็นครั้งสุดท้าย โดยเจ้าภาพได้นำกระเป๋าผ้าและแอลกอฮอล์รวมทั้งหนังสือคู่มือดับทุกข์ มาแจกให้กับแขกที่มาร่วมงานด้วย

ต่อมา ดู๋ ดอกกระโดนเปิดเผยว่า เคยร่วมงานกับครูปิยะหลายเรื่อง เมื่อจากไปก็ใจหายมาก แต่คิดว่าคือธรรมชาติ ทุกคนต้องเจอกับคำว่าเกิด แก่ เจ็บ ตาย แต่การแสดงของครูปิยะยังผูกใจและยังคิดถึงอยู่เสมอ ครูปิยะเป็นคนดี พูดจาไพเราะ ไม่เคยว่าใครให้เสียหายและไม่เคยตำหนิใคร ต้องบอกตามตรงว่าคิดถึงครูเหมือนเดิม เพราะเคยร่วมงานกันมา ขอให้ครูหลับสบาย อยู่บนฟ้าสรวงสวรรค์อย่างมีความสุข พูดง่ายๆแบบครูบ้านนอก

ขณะที่ไก่-ปริศนา วงศ์ศิริ ได้นำโกศเบญจรงค์ทองคำเขียนลายมามอบให้กับครอบครัวตระกูลราษฎร์ ซึ่งโกศเบญจรงค์ทองคำนี้ เขียนด้วยทองคำ 96.5 เป็นทองคำบริสุทธิ์ ส่วนสีเขียวที่ลงลายเป็นกิ่งก้านใบของใบไม้ คือ วันพุธ ซึ่งเป็นวันเกิดของครูปิยะ และลายดอกไม้สีชมพู เพราะครูปิยะชอบสีชมพู สีอ่อนหวาน จึงได้วาดออกมาให้เป็นดอกไม้สีสวย และมีกิ่งก้านใบ และในวาระสุดท้ายนี้ ถือโอกาสมาส่งพี่ไปสู่สรวงสวรรค์ ไปสู่สัมปรายภพ สมกับเนื้อนาบุญที่พี่ปิยะได้สร้างได้ทำมา ตลอดเวลาที่รู้จักกัน ทราบว่าทำงานหนักมาโดยตลอด ตอนนี้คงจะหลับสบาย ขอให้พี่สู่ภพภูมิที่ดีและมีความสุข บุญบารมีที่ได้สร้างได้ทำและได้ช่วยเหลือให้แก่สังคมประเทศชาติบ้านเมือง แฟนภาพยนตร์ แฟนหมัดมวยหรือแฟนละครก็ตาม ทุกคนที่หลงรักชื่นชมในตัวคุณปิยะ วันนี้มีเพื่อนพ้องน้องพี่ในวงการเดินทางมาส่งพี่ไปสวรรค์มากมาย อยากให้รับทราบและรับรู้ สำหรับโกศเบญจรงค์ทองคำนี้ ตนตั้งใจเขียนให้เหมาะสมกับตัวของพี่ปิยะ เพราะพี่เกิดวันพุธ ก็คือสีเขียวและสีชมพูเป็นสิ่งที่พี่ชอบ จึงเน้นเขียนให้เป็นดอกไม้สีหวาน

สำหรับพิธีเก็บกระดูกนั้น ครอบครัวตระกูลราษฎร์ แจ้งว่ามีขึ้นในช่วงเช้าวันที่ 7 พ.ย. จากนั้นครอบครัวจะนำกระดูกไปลอยอังคารที่วัดบางช้างเหนือ อ.สามพราน จ.นครปฐม

ส่วนการสูญเสียบุคลากรสำคัญด้านนาฏยสังคีต นายประสาท ทองอร่าม หรือครูมืด ผู้เชี่ยวชาญด้านนาฏศิลป์ไทย สำนักการสังคีต กรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม ที่ได้รับการยกย่องเป็น บรมครูโขน และปรมาจารย์ด้านศิลปวัฒนธรรมไทย ที่ถึงแก่กรรมด้วยโรคมะเร็งปอด สิริอายุ 72 ปี เมื่อวันที่ 5 พ.ย.ที่ผ่านมานั้น กำหนดการพิธีศพในวันที่ 7 พ.ย. ที่ศาลาแสงฉิม วัดบางรักใหญ่ อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี เวลา 14.00 น. มีพิธีรดน้ำศพ จากนั้นเวลา 17.00 น. เป็นพิธีพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ พร้อมบรรจุศพลงหีบ และเวลา 19.00 น. สวดพระอภิธรรม ไปจนถึงวันที่ 11 พ.ย. จากนั้น 12 พ.ย. เวลา 17.00น.มีพิธีพระราชทานเพลิงศพต่อไป

ดูข่าวต้นฉบับ

ที่มา : https://www.thairath.co.th/entertain/news/2546043
ขอขอบคุณ : https://www.thairath.co.th/entertain/news/2546043