ไม่เคยเกาะแสง ฟ้าใส แจงปมวิจารณ์ แอนนา เสือ เหตุพลาดมง ลั่นบริสุทธิ์ใจไร้อคติ


ให้คะแนน


แชร์

ฟ้าใส ไม่เคยเกาะแสงใคร แจงดราม่าวิจารณ์ แอนนา เสือ เหตุพลาดมง ลั่นบริสุทธิ์ใจไร้อคติ จากนี้ขอสู้คน ไม่นิ่งเงียบกลับไปซึมเศร้าอีก ร่วมงาน ปุ้ย TPN ได้ อโหสิให้นานแล้ว

กลายเป็นคลิปไวรัลหลังจากที่ ฟ้าใส ปวีณสุดา ดรูอิ้น Miss Universe Thailand 2019 ได้ไลฟ์สดวิเคราะห์นางงาม โดยเฉพาะกรณีวิจารณ์ แอนนา เสืองามเอี่ยม Miss Universe Thailand 2022 ที่หลายคนมองว่า ฟ้าใสไม่ควรออกมาพูด ล่าสุด ฟ้าใส ได้ให้สัมภาษณ์ชี้แจงถึงเรื่องดังกล่าว ในงานแถลงข่าวการจัดการประกวด “Miss Grand Pathum Thani 2023”

มีประเด็นไวรัล กับคลิปที่เราวิเคราะห์นางงาม? “เบื้องต้นเราไม่ได้ตั้งใจจะออกมาไลฟ์วิเคราะห์อะไรแบบนี้คือไลฟ์ฆ่าเวลาทั้งหมดไลฟ์ไป 3 ชั่วโมง แต่พอไลฟ์ไปเรื่อยๆ มีคนเข้ามาถามว่าฟ้าใสเขียนไบโอ (BIO ประวัติตัวเอง) เองไหม เราก็ตอบว่าเขียนเอง แล้วเขาก็ถามว่าสำคัญไหม จากนั้นเราก็มีวิเคราะห์ไบโอของแอนนาหน่อย แล้วก็มาสมมติว่ารองคนอื่นๆ เขากลับมาประกวดคิดว่าใครจะสามารถมงได้ไหม มันก็ไล่ไปเรื่อยๆ จนกลายเป็นคลิปไวรัลที่เขาตัดออกมาว่า ไหนวิเคราะห์หน่อยสิว่าคนไหนพลาดตรงไหน แล้วถ้าเขากลับมาต้องพัฒนาด้านไหน”

คือไบโอของแอนนา อาจจะใช้คำ เรียบเรียงคำผิดไป ใช้คำไม่ถูกต้อง? “ใช่ ฟ้าใสมองว่าทุกคนมีสตอรี่เป็นของตัวเองที่น่าสนใจ แต่ว่าเขาจะเลือกสตอรี่อะไรมานำเสนอกอง ที่สำคัญคือทำยังไงให้สตอรี่ของเขาทรงพลัง ตรงบริบท จะมอบพลังกับคนที่ฟังอยู่ยังไง ทุกคนก็ย่อมมีอุปสรรคพบเจอกับปัญหา ไม่มีใครเพอร์เฟ็กต์ แต่เวลาที่เจอแล้วคุณสามารถก้าวข้ามผ่านมันมาได้ยังไง คุณจะทำยังไงเพื่อแชร์สตอรี่ของคุณและอินสไปร์คนได้ ฟ้าใสก็มองว่าน้องอาจจะขาดด้านนี้ไป”

คนดราม่าฟ้าใสไม่ควรพูด? “ก็เข้าใจว่าบางคนอยากจะให้กำลังใจ ตอนช่วงที่น้องประกวดฟ้าใสให้กำลังใจน้องเสมอ ไม่เคยพูดติเลย แต่พอเวลาผ่านไปแล้วมันก็จะมีคำถาม เอ๊ะ! ทำไมถึงไม่ได้ ซึ่งเราเองเข้าใจในฐานะนางงามที่เราจะอยากรู้ว่าที่เราพลาดมันเพราะอะไร ก็เลยลองดู จริงๆ เราเห็นถึงความพยายามของน้อง น้องทำทุกวันอย่างเต็มที่มาก ก็เลยกลับไปดูว่าตรงไหนที่น้องพลาดกันนะ เลยลองเข้าไปดูในไบโอ ซึ่งมันเป็นเฟิร์สอิมเพรสชั่นในการประกวด ถ้าไบโอน่าสนใจ ในห้องดำเขาก็จะซักถามให้เราอธิบาย แต่ถ้าไบโอไม่มีอะไร คณะกรรมการก็ไม่รู้จะถามอะไร”

แม่ปุ้ยเองก็ชี้แจงว่าเขามีนักวิชาการมาทำไบโอให้เลย? “คนที่สามารถจะตอบโจทย์ได้มากที่สุดคือคนที่มีประสบการณ์ที่เคยไปอยู่ ณ ตรงนั้น นางงามรุ่นพี่เขาจะรู้ว่าทำยังไงถึงจะเข้ารอบ ทำให้ตรงโจทย์ เขาอาจจะเชี่ยวชาญในด้านของเขา แต่เขาอาจจะไม่ได้เชี่ยวชาญด้านนางงาม ฟ้าใสมองอย่างนี้มากกว่า แต่ถ้าไม่มองด้านวิชาการ ฟ้าใสเองก็นับถือศาสนาพุทธ คำว่าอาหารเหลือจากพระเป็นขยะ เราก็มองว่ามันผิดตั้งแต่มีความคิดนี้แล้วไหม เลยไม่รู้จะพูดยังไงต่อ คืออ่านครั้งแรกยังรู้สึกสะดุดและตกใจว่าเขียนมาแบบนี้ได้ยังไง มันไม่ใช่ความจริงเลย คือเวลาที่อ่านมันจะมีความ เอ๊ะ! มันไม่ใช่นะ แล้วพอมันไม่จริงเราก็จะรู้สึกว่าไม่น่าเลย เสียดาย แต่ตอนนั้นเราก็ไม่ได้ออกมาพูดอะไร เราก็เชียร์น้อง ให้กำลังใจน้อง”

เราจะถูกจับโยงให้เป็นประเด็นกับแม่ปุ้ยตลอด?แม้ในอดีตเราจะเคยมีปัญหากัน แต่เราก็ได้กลับมาร่วมงานกันแล้วเมื่อปีที่ผ่านมา สำหรับฟ้าใสสามารถร่วมงานได้ค่ะ ไม่มีอะไรแล้ว เรื่องที่ผ่านมาก็จบแล้ว อโหสิกรรมต่อกันแล้ว ก้าวข้าม มูฟออนแล้ว ถ้าจะมีโอกาสร่วมงานกันในอนาคตก็ยินดีค่ะ

วิจารณ์ด้วยความบริสุทธิ์ใจ ไม่มีอคติ? “ไม่เลย”

อีกดราม่าที่ไปออกรายการหนูแหม่ม คนพูดถึงชุดราตรี? “เรื่องนี้เคยพูดมาก่อนแล้ว ไม่รู้จริงๆ ว่ามันจะกลับมาเป็นประเด็นอีกรอบ ถามว่าร้องไห้จริงไหม ร้องไห้จริง เพราะตอนนั้นเราคาดหวังว่าเราอยากจะสวยที่สุดในวันที่สำคัญที่สุดในชีวิตของเรา แต่พอเราเห็นชุดของเราแล้วมันอึ้ง มันพูดอะไรไม่ออก มันถึงขั้นทำไมไม่เหมือนกับที่เราขอไป สิ่งที่ขอไปไม่ได้สักอย่าง พูดจริงๆ จนถึงทุกวันนี้มันรู้สึกพูดไม่ออก แล้วเครียดมาก เพราะเราอยากได้มากแล้วก็คาดหวังเหมือนกันเวลาเราไปประกวด มันก็เลยทำอะไรไม่ออกแล้วร้องไห้ออกมาเลย ตอนนั้นหนูจำได้เลยว่าหนูไม่มั่นใจเลยตรงนี้ปักเยอะเกินไป อันนี้สูงไป อันนี้ยาว คือทุกอย่างร้องออกมาเลย หนูเห็นด้วยว่าภาพบรรยากาศตอนนั้นเขานิ่งเงียบ คือเห็นเลยว่าเครียดว่าหนูไม่ชอบแล้วหนูก็ร้องไห้ออกมา พอหนูร้องออกมาหนูก็ดึงสติกลับมาคือมันแก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว หนึ่งชุดยังไม่เสร็จ ตอนนั้นเครียด สองปักเยอะกว่าที่คิดทุกอย่างที่ขอไม่ก็ไม่ได้ สามเรามาร้องไห้ตอนนี้ ตอนเที่ยงคืนอีกไม่ถึง 24 ชม.จะบินแล้ว คือมันทำไรไม่ทันแล้วตอนนั้นเลยบอกไปว่าทำอะไรก็แล้วแต่ที่พี่คิดเลยเพราะทำอะไรไม่ได้แล้วตอนนั้น”

หลายครั้งที่เราออกมาพูดอีกฝั่งเขาก็จะมีแอ๊กชั่นบางอย่าง ได้เห็นบ้างไหม? “ก็มีเห็นบ้างเพราะเอฟซีส่งมาแต่หนูอาจจะไม่เห็นทุกข้อความทั้งหมดค่ะ”

ทางนู้นเขาบอกมีหลักฐานเหมือนกัน จริงๆ แล้วชุดฟ้าใสได้ลองก่อนแล้ว? “หนูลองแค่ครั้งเดียวนะคะ แล้วตอนนั้นทุกคนเห็นภาพออกมาไม่มีปักขนาดนั้นแล้วทุกคนบอกว่าชุดตอนนั้นสวย ซึ่งหนูยอมรับว่าชุดตอนนั้นหนูโอเค แต่พอมีการเพิ่มแล้วพอลองไปแล้ว หนูบอกว่าตรงนี้สูงไปนะ คือทุกอย่างที่คอมเมนต์ไปเขาบอกว่าไม่ต้องห่วง อันนี้ชุดยังไม่เสร็จหนูก็เลยโอเคก็สบายใจมาเห็นอีกทีก็คือคืนก่อนบินแล้ว พอเห็นแบบนั้นมันช็อก (หัวเราะ) เพราะเราคาดหวังไว้แล้วมันไม่ได้อย่างที่ขอไป”

ความเครียดที่พอเราเห็นชุดมันเลยเป็นผลพวงทำให้เราไม่ได้ไปคว้ามงไหม? “พูดตรงๆ นางงามเขาต้องเรียกจากความประทับใจแรกอยู่แล้ว ถ้าเกิดสมมุติใน 5 คนเขาตอบคำถามดี 4 คนแล้วเขาสามารถเรียกได้แค่ 3 คน เขาจะเลือกคนที่สวยสุดไหมหรือเขาจะเลือกคนที่อาจจะขี้เหร่หน่อยแต่ตอบดีกลางๆ เก็บตัวคะแนนก็ดีเริ่ด ณ ตอนนั้นเขาก็ต้องเลือกคนที่สวยสุดสิคะบนเวที ดังนั้นสำหรับหนู หนูเชื่อว่ามันมีผลอยู่แล้ว”

ดราม่าก็ตามหลอกหลอนอยู่ พอเราพูดมันก็จะย้อนกลับ เรามองมันยังไงบ้าง? “สำหรับหนูไม่ได้คิดอะไร เพราะตอนนี้หนูสตรองขึ้นแล้ว พอย้อนกลับไปในอดีตหนูมองว่าทำไมตอนนั้นเราเงียบ กลายเป็นว่าเราเงียบสิ่งที่คนอื่นพูดออกไปเขาจะมองว่ามันเป็นเรื่องจริงเพราะเราไม่ได้ออกมาพูด หนูก็เลยตัดสินใจว่าหนูจะไม่ให้เหตุการณ์นั้นเกิดขึ้นกับเราอีก เราจะไม่เป็นโรคซึมเศร้าอีก ไม่นิ่งเงียบอีกถ้ามันไม่ใช่ความจริง ดังนั้น ณ ตอนนี้เวลาหนูออกมาพูด หนูมองว่าทุกอย่างที่หนูพูดมันเป็นเรื่องจริงและหนูมีหลักฐานทุกอย่างสามารถโต้แย้งได้ หนูจะได้ว่ามีข้อความว่า โอเคมีเรื่องนี้ที่คุณบอกฉันทำผิด หนูก็ชี้แจงไปเลยแล้วหลังจากนั้นก็เปลี่ยนเรื่อง หนูก็เลยบอกว่างั้นสิ่งที่หนูชี้แจงไปคือเรื่องจริงใช่ไหมคะคุณเลยเปลี่ยนเรื่อง ก็ได้ค่ะเดี๋ยวจะชี้แจงในเรื่องใหม่ที่คุณยกประเด็นมาก็ได้แล้วก็ชี้แจงอีกเขาก็เปลี่ยนเรื่องไปอีก หนูก็เลยพอแล้ว ขออโหสิด้วยนะคะ หนูไม่รู้ว่าหนูพูดอะไรแล้วทำให้คุณเสียใจหรือในอดีตพูดอะไรแล้วคุณไม่ชอบหนู ขออโหสิด้วยค่ะแล้วหนูเพิ่งมารู้ทีหลังว่าเขาเป็นมะเร็งเลยอาจจะกระทบนิดหนึ่ง สำหรับที่พูดคำว่าอโหสิคืออโหสิแล้วก็จบจริงๆ มูฟออนค่ะ

รู้สึกยังไงกับคำพูดล่าสุดที่บอกว่าแบ่งแสงกันไป จากเหตุการณ์ที่เป็นไวรัลในคลิปที่เราไปออกรายการ? “อ๋อ หนูไม่เคยเกาะแสงใครนะคะ (หัวเราะ) จริงๆ ตอนนั้นหนูไม่ได้คิดว่ามันจะเป็นไวรัลด้วยซ้ำ ตอนนั้นหนูก็พูดคุยกับคนในไลฟ์ปกติ แล้วกลายเป็นว่ามันไวรัลแล้วหนูก็ได้รับเชิญไปในรายการของพี่หนูแหม่ม ตอนนั้นหนูยังถามอยู่เลยว่ารายการไม่เกี่ยวกับนางงามใช่ไหม หนูไม่อยากให้เขามองว่าหนูไม่จบ หนูก็เลยไม่อยากถามต่อ เขาก็บอกไม่หรอกไม่เกี่ยวกับชีวิตประจำวัน แรงบันดาลใจ (ยิ้ม) พอไปถึงแต่งหน้าได้ 1 ชั่วโมง อ๋อเกี่ยวกับนางงามนะคะมีอยู่ประมาณ 3-4 ข้อ แล้วหนูก็เลย โห บอกพี่หนูแหม่มเลยว่าเขาจะถามอะไร ตอนนั้นคืออย่างที่เห็นเลยว่าสิ่งที่หนูบอกถ้ามาจากความจริงตามันจะไม่ล่อกแล่ก คนพูดแล้วโกหกเขาจะพูดไม่เหมือนกันทุกครั้ง เขาจะพูดแล้วติดๆ ขัดๆ แต่จากที่พี่ๆ รู้สึกหนูในวงการนางงามตั้งแต่ปี 2013 ก็น่าจะรู้ว่าหนูตรงๆ บางทีอาจจะผิดตรงที่หนูไม่ได้คำนึงถึงคนที่ฟังอยู่ อันนี้ยอมรับเพราะด้วยความเป็นฝรั่ง การใช้คำ”

หมดแพชชั่นการเป็นนางงามไปเลยไหม เพราะเจอดราม่ามาตลอด? “ไม่ หนูไม่หมดแพชชั่นการเป็นนางงามหนูสอนเป็นสถาบันเทรนนางงามของหนูอยู่ค่ะ จริงๆ หนูแอบสงสารน้องๆ เหมือนกัน สิ่งที่หนูเคยเจอมาหนูรู้ว่าน้องๆ จะมีความเครียดความกดดันไม่มั่นใจในตัวเองเขาจะเจอเยอะหนูเลยต้องถ่ายทอดให้กำลังใจ คุณต้องเห็นจุดเด่นของจะตัวเองต้องมั่นใจตัวเอง บางคนมองว่าไม่สวยไม่เป็นไรหนูก็เคยมองตัวเองไม่สวย คิดสิ ฉันเก๋ ไม่มีใครเหมือนฉัน จริงๆ พลังของหนูคือ ฉันเก๋ หนูไม่รู้ทำไมแต่มันฮึบมาก บางคนเขาจะมีคีย์เวิร์ดที่มันทัชเขา และหนูอยากหาคำแบบนั้นให้กับน้องๆ”

ดูข่าวต้นฉบับ

ที่มา : https://www.khaosod.co.th/entertainment/news_7535573
ขอขอบคุณ : https://www.khaosod.co.th/entertainment/news_7535573