"ใบหม่อน-กิตติยา" ถูกขุดอดีต! ดราม่า "ใบหม่อนกลัวกะเทย" ปมด้อยเก่ากลับมาหลอน


ให้คะแนน


แชร์

พอขึ้นแท่นนางเอกป้ายแดง ดราม่าร้อนแรงในอดีตของสาว ใบหม่อน–กิตติยา จิตรภักดี ก็ถูกขุดขึ้นมาอีกครั้ง โดยมีคลิปเก่าเมื่อ 8 ปีที่แล้ว สมัยที่ ใบหม่อม เข้าประกวดรายการชื่อดัง และพูดกลางรายการว่า “กลัวกะเทย” ออกมาว่อนในโซเชียลอีกครั้ง จนกลายเป็นดราม่าร้อนมีแฮชแท็ก #ใบหม่อนกลัวกระเทย อยู่ในขณะนี้ ซึ่งถูกมองว่าโดนกระบวนการสกัดดาวรุ่งหรือไม่?

โดยสาว ใบหม่อน ที่กำลังมีผลงานละคร “เพลงรัก รอยแค้น” ทางช่อง 8 ได้เปิดใจพูดครั้งแรกถึงประเด็นนี้เห็นดราม่าใบหม่อนกลัวกะเทยกลับมาอีกครั้งรู้สึกยังไง?

“เอาจริงๆก็ตกใจ เพราะเป็นความรู้สึกที่มันหายไปนานแล้ว คิดว่าเรื่องเงียบไปแล้ว แต่ได้ยินว่ามีคนเอาคลิปมาลงอีกครั้ง เราก็พยายามไม่กลับไปดู มันเป็นปมในใจเรา ก็เลยตกใจ คือมีคนมาเมนต์ด่าค่อน ข้างแรงมาก แต่ก็ไม่ได้นอยด์เหมือนตอนนั้นแล้ว เราน่าจะโตขึ้นด้วย ตัดภาพไปที่ตอนนั้นคือเรากลัว ร้องไห้ เครียดหนักมาก กลัวจะมีคนเกลียดเราเยอะ กลัวโดนสาป จนไม่มีที่ยืนในวงการ เพราะเราเพิ่งเริ่มต้นเอง”

หลายคนตั้งคำถามถึงตอนนั้นว่าพูดแบบนั้นทำไมว่า “กลัวกะเทย”?

“อย่างแรกเลยคือตอนนั้นเป็นเวทีแรกที่เราประกวด ไม่มีประสบการณ์ด้านตอบคำถามเลย อายุก็ยังน้อย ไม่ได้คิดว่าจะเอาอายุมาอ้างแต่ตอนนั้นคืออายุ 16 ปี เราก็ยังเด็กจริง พอมาเจอคนเยอะๆก็เลยกังวลหนัก เราไปประกวดแบบไม่ได้เตรียมตัว สถานการณ์หน้างานจะมีอะไรเกิดขึ้นบ้าง แต่เรารู้แค่ว่ามันคือการประกวดที่ใหญ่มากระดับประเทศเลย ซึ่งเรายังเด็กเราใช้คำพูดไม่เป็น เรียบเรียงคำตอบไม่ถูก ธรรมดาก็เป็นคนที่พูดไม่ค่อยรู้เรื่องอยู่แล้ว ก่อนนั้นก็มีการสัมภาษณ์จากพี่ๆทีมงานมาแล้ว แต่เวลาที่เขาสัมภาษณ์กับตอนถ่ายทำไฟนอลในสตูมันห่างกันเกือบ 3 เดือน เราก็ ไม่ได้จำแล้วว่าเขาถามอะไรบ้าง บวกกับตอนนั้นเราตื่นเต้น ไม่คิดว่ารอบไฟนอลจะวนกลับมาถามเราอีก

ซึ่งเราก็อึ้งไปเลย คือเราไม่ได้จำว่าตอบอะไรไปบ้าง แต่เหมือนว่าตอนที่สัมภาษณ์กับพี่ทีมงานเราตอบไปว่า “กลัว” เพราะว่าพี่ๆที่เป็นเพศที่ 3 เขามาประกวดครั้งแรก ซึ่งเป็นเวทีแรกที่รับเพศที่ 3 มาประกวด และกลัวในความสวยของพวกเขา มีทั้งความเป๊ะ พร้อมรอบด้าน หน้าสวย กลัวว่าตัวเองจะสู้ไม่ได้ อันนั้นเป็นคำตอบที่เราตอบพี่ๆทีมงานจริงๆ แต่วันไฟนอลตอนนั้นคือเราทั้งตื่นเต้นทั้งประมาท ตอนที่เราถ่ายรูปยังโดนพี่ลูกเกดทักเลยว่า สีหน้าในตอนนั้นยังดูไม่มั่นใจ เราตื่นเต้นมากจริงๆ พอถูกถามมาแบบนั้นเลยสื่อสารผิด อันนั้นเราบอกตรงๆว่าเป็นข้อผิดพลาดของเราจริงๆที่เราไม่ได้เตรียมตัวไป สิ่งที่เราตอบคือแบบนั้นจริง แต่เราไม่ได้มีเจตนาแบบนั้น ถือว่าเป็นข้อผิดพลาดในชีวิตมากๆ แต่ก็ให้มองย้อนไปว่าเป็นบทเรียนทำให้เราได้อยู่วงการและเติบโตมากยิ่งขึ้น ว่าต่อไปเราจะต้องทำตัวยังไง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการสัมภาษณ์ การเล่นละคร หรือการประกวด ที่ต้องพัฒนาขึ้นในทุกๆวัน”

ตอนที่ดราม่าหนักๆใบหม่อน รู้สึกยังไง มีวิธีจัดการกับตัวเองในกระแสลบๆอย่างไร?

“ตอนนั้นโดนหลายๆคนทั้งสาปและด่าหนักมาก บางคนด่าไปถึงพ่อแม่ หรือแม้กระทั่งด่าหนูไม่ปกติ มีปมอะไรมา หรือมีเหตุการณ์อะไรที่ฝังใจไหม บอกตรงๆว่าไม่มีเลย เป็นการตอบคำถามที่ไม่ได้คิด ไม่ได้เจตนาจนกลายเป็นข้อผิดพลาดเฉยๆ ส่วนการจัดการกับความรู้สึกตัวเองคือตอนนั้นเสียใจหนักมากนะ ไม่เล่นโซเชียลไปสักพัก อยู่กับตัวเอง ทบทวนตัวเอง ไม่กล้าออกไปไหน แม่ก็เป็นห่วงอยู่กับเราไม่ห่าง ร้องไห้กันทุกวัน คอยโทร.ถามเพื่อนว่าคอมเมนต์เหล่านั้นหายไปหรือยัง คนยังหยิบมาเล่นไหม พอผ่านไปสักพักและกลับไปอ่านขนาดทำใจมาแล้วก็ยังรับไม่ได้เลย แย่มากกับคำพูดที่เขาด่า เพราะเขาพาดพิงมาถึงพ่อแม่เราทั้งๆที่เขาไม่ได้ผิดอะไรเลย”

เห็นว่าเรากลัวการตอบคำถาม การสัมภาษณ์ไปเลย?

“ทุกวันนี้เลยยังเป็นปมที่ทำให้เราไม่กล้าที่จะสัมภาษณ์ หรือตอบคำถามอะไรมาก หรือบางทีต้องขอเวลาในการคิดคำตอบเพื่อเตรียมตัวด้วยประมาณนี้ค่ะ ถ้ามีคนมาถามแบบที่เราไม่ได้ตั้งตัวเราจะกลัวไปหมด แฮชแท็กใบหม่อนกลัวกะเทย กลายเป็นปมของเราจนถึงทุกวันนี้”

คิดว่ามีคนตั้งใจปล่อยคลิปเพื่อสกัดดาวรุ่งของเราหรือเปล่า เพราะตอนนี้กระแสละครเพลงรัก รอยแค้น ก็กำลังมากับนางเอกเรื่องแรกของช่อง 8?

“ใบหม่อนคิดว่า เขาไม่ได้ตั้งใจสกัดดาวรุ่งเราหรอก แต่ไม่รู้ว่าเจตนาของเขาคืออะไร แต่ก็มองไปในทางที่ดีว่าเขาเอามาลงแบบนี้ทำให้มีคนมารู้จักเราเพิ่มมากขึ้น เราเลยใช้โอกาสตรงนี้ในการบอกให้หลายคนได้รู้จักเรามากขึ้นว่าคนนั้นคือเราเอง โดยการใส่แท็กของเราใน TikTok และสิ่งที่เราจะสื่อหลังมีคน กลับมาถามเราอีก คือเราอยากจะบอกว่าเราไม่ได้กลัวกะเทย และเราไม่ได้มีเจตนาแบบนั้นนะคะ”

คิดว่าทำไมกระแสถึงกลับมาแรงอีกครั้งใน TikTok?

“นั่นสิใบหม่อนก็อยากรู้เหมือนกัน เพื่อนหนูทักกันมาเต็มเลย คือคนรอบตัวจะเป็นห่วงเรามาก เพื่อนหลายๆคนก็ไปช่วยตอบในคอมเมนต์แรงๆ แต่หนูเองก็บอกเพื่อนนะว่าไม่ต้องไปด่าเขา ก็แค่อ่านพอไม่ต้องไปสนใจอะไรมาก เพราะมันผ่านมาตั้ง 8 ปีกว่าแล้ว”

อยากจะอธิบายอะไรกับคนที่มองเราในแง่ลบ?

“อยากให้ทุกคนมองในปัจจุบันเรามากกว่า ยังมีบาง คอมเมนต์นะที่ถามเราว่าตอนนี้ยังกลัวกะเทยไหม เราก็ตอบไปว่าเราไม่ได้กลัว ไม่ได้เป็นแบบนั้น เราไม่ได้มีปมปัญหาเกี่ยวกับเพศที่ 3 เพียงแค่ตอนนั้นเราตอบคำถามไม่เคลียร์เอง คือเราจะไปยัดเยียดให้เขามองเราในแง่บวกไม่ได้หรอก คนเรามันมองไม่เหมือนกัน ใบอาจจะเผลอไปทำอะไรไม่ดีใส่ใครแบบที่ไม่ได้ตั้งใจ แค่นี้เขาก็อาจจะมองเราลบไปแล้วมันก็ ไม่ผิด แต่ก็ไม่อยากให้เกลียดโดยที่เรายังไม่ได้อธิบาย อะไรเลย หรือไม่ได้รู้จักเราจริงๆว่าเราเป็นแบบไหน”

ถ้าย้อนกลับไปได้เรามีอะไรที่เราอยากแก้ไขไหม?

“ถ้ามองย้อนกลับไปในตอนนั้นจริงๆ มันก็แย่มากสำหรับเรา แต่ก็ทำให้เรากลายเป็นตำนาน มีชื่อเราติดในอินเตอร์เน็ต ก็มองในแง่ดีไป เพราะเราคงกลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้”.

ดูข่าวต้นฉบับ

ที่มา : https://www.thairath.co.th/entertain/news/2653770
ขอขอบคุณ : https://www.thairath.co.th/entertain/news/2653770