พชร์ แนะทางออกดราม่า จัดแยกรางวัล หนังแมส สุพรรณหงส์ อินดี้ สุพรรณห่าน


ให้คะแนน


แชร์

พชร์ แนะทางออกดราม่า จัดแยกรางวัล หนังแมส สุพรรณหงส์ อินดี้ สุพรรณห่าน

จากกรณีดราม่าร้อนวงการภาพยนตร์ไทย เกิดแฮชแท็ก #แบนสุพรรณหงส์ หลังจากที่ทางสมาพันธ์สมาคมภาพยนตร์แห่งชาติ ออกกฎเกณฑ์ใหม่ในการคัดเลือกภาพยนตร์เข้าชิงรางวัล โดยผู้กำกับฯ และคนในแวดวงอุตสาหกรรมหนังออกมาต่อต้าน ถอนตัวจากการเข้าร่วม มองว่าไม่มีความเป็นธรรม เพราะเป็นการตัดสิทธิ์หนังอินดี้หรือหนังกระแสรายเล็ก ไม่ให้เข้าชิง จนล่าสุดทางสมาพันธ์ฯ ได้หารือพร้อมออกแถลงการณ์เปลี่ยนเกณฑ์การคัดเลือกใหม่แล้ว

ทั้งนี้ ผู้กำกับฯชื่อดังที่คร่ำหวอดในวงการภาพยนตร์ไทยอย่าง “พชร์ อานนท์” ที่กำลังมีผลงานภาพยนตร์เรื่องล่าสุด “เสือเผ่น ๑” เตรียมเข้าฉายในวันที่ 6 เม.ย. นี้ ได้ออกมาพูดถึงประเด็นนี้เช่นกัน ซึ่ง พชร์ ออกตัวชัดเจนเลยว่าหนังของตนเน้นทำเงิน ไม่เน้นเข้าชิงรางวัล และไม่ได้อยากยุ่งเกี่ยวกับสมาพันธ์ฯ เพราะไม่อยากปวดหัว แต่ก็ได้เสนอแนะความคิดเห็นส่วนตัวเพื่อเป็นทางออกปัญหา ด้วยการเสนอให้จัดแบ่งแยกรางวัลให้ชัดเจนไปเลย หนังแมสและหนังอินดี้ เพราะต้นทุนและการแข่งขันตลาดหนังต่างกัน

รวมทั้งประเด็นให้เวลาหนังเข้าโรงฉาย อยากให้ 2 ค่ายโรงหนังยักษ์ใหญ่ “Major & SF” ให้โอกาสเปิดรอบฉายหนังอินดี้ทั่วประเทศ แล้วสรุปรายได้ให้รู้กันไปเลยว่ามีคนดูไหม จะได้เลิกทะเลาะกันว่าเพราะมองตามความจริงในมุมการทำธุรกิจ ไม่เข้าข้างใคร หนังอินดี้ถ้าไม่มีคนดู หนังไม่ทำเงินจะเปิดโรงภาพยนตร์เปิดแอร์ทำไม

หอแต๋วแตกภาคล่าสุดทำไมถึงไม่ลงแพลตฟอร์ม? “เราเคยประกาศแล้วว่าเราจะไม่ลงแพลตฟอร์ม เพราะคนก็จะดูแต่แพลตฟอร์มไม่ยอมไปดูในโรงหนัง หนังไทยมีปัญหาอยู่ทุกวันก็แบบนี้แหละ”

เราจะเข้าร่วมสุพรรณหงส์ไหม? “ไม่เกี่ยวกับสุพรรณหงส์ เพราะพี่กับสุพรรณหงส์ไม่คุยกันมาตั้งนานแล้ว ไม่ได้ไม่คุยคือพี่ไม่ได้ทำหนังเพื่อรางวัลไง พี่ทำหนังเอาเงินเอาตลาด เพราะรางวัลพี่มีเยอะแล้ว อ้าวไม่ได้ตอแหล นี่เรื่องจริง(หัวเราะ)

ในฐานะเป็นหนึ่งในผู้กำกับฯเรามองปัญหาตอนนี้ยังไงบ้าง? “มันก็เป็นไก่เกิดก่อนไข่ ไข่เกิดก่อนไก่อะไรแบบนี้แหละ เพราะมันมีหนังสองแบบไง หนังอินดี้กับหนังใหญ่เราก็คิดว่ามันน่าจะจัดรางวัลหนังใหญ่ หนังแมส ค่ายใหญ่ๆ ไปเลย กับหนังอินดี้มันน่าจะแบ่งกันให้ถูกต้องไปเลย เพราะถ้าพูดถึงการลงทุนกับการแข่งขันมันแตกต่างกันแน่นอน

เพราะอย่างหนังพี่มาก จัดแสงอะไรสวยมาก แต่พี่มากไม่ได้รางวัลถ่ายภาพยอดเยี่ยม ได้อีกเรื่องหนึ่ง ซึ่งเราก็คิดว่ามันน่าจะแบ่งชัดกันไปเลย เพราะหนังอีกแบบนึง อย่ามาด่ากูนะ หนังอีกแบบบางคนยังไม่รู้เลยว่าฉายกันเมื่อไหร่ก็แยกกันไปเลยอย่าง หนังแมสค่ายใหญ่ก็เป็นสุพรรณหงส์ หนังอินดี้ก็เป็นสุพรรณห่าน มันต้องแยกกันชัดเจน”

แล้วกฏที่เขาออกมาเราเห็นด้วยไหม? “ก็ต้องเห็นด้วย เพราะหนังใหญ่ๆ ไม่ได้ชิงอะไรกับเขา เขาก็อยากได้ชิงกัน แต่พี่ไม่ชิงอะไรอยู่แล้วเพราะว่ามันไม่ใช่แล้ว เคยได้สุพรรณหงส์ไปพอไปกินเย็นตาโฟเอาสุพรรณหงส์ให้เขา เขาไม่รับ เขาจะเอาเงินเราก็ทำหนังเอาเงินดีกว่า แต่ไม่ได้ความภูมิใจ ภูมิใจก็แป๊บเดียว”

เราชัดเจนเราทำหนังเอาเงินไม่ได้เอารางวัล? “เราชัดเจน ก็คิดดูหนังที่ได้รางวัลผู้กำกับฯ เป็นใครยังไม่รู้เลย แล้วตอนนี้ผู้กำกับฯ ทำงานอะไรต่อเราก็ไม่รู้อันนี้ขนาดเราคนวงในเราก็ไม่ยุ่งดีกว่า แต่ที่พูดให้ฟังไม่งั้นก็จะหนังใหญ่หนังเล็กแบ่งให้ถูกไปเลย”

แล้วเน้นทำหนังอะไร? “เน้นทำหนังแมสไง เอาใจคนดูเพราะว่าคงไม่เอาใจผู้กำกับฯ เพราะคนที่เสียเงินเข้าไปดูก็คือคนดู ไม่ใช่ว่าผู้กำกับฯ มีอะไรก็โชว์หมด โชว์ไปโชว์มาคนอาจจะไม่ชอบ ก็ต้องเข้าไปดูหนังตัวเองอะไรแบบนี้ จริงๆ โรงหนังเขาให้ เขาไม่ได้กีดกันแต่สมมติว่าหนังเรื่องนี้ให้โรง 12 โรง แล้วฉายไปสองวันไม่มีคนดูเลยเขาจะเปิดแอร์ทิ้งเพื่ออะไร คิดถึงตรงนี้ด้วย เขาต้องมีการลงทุน”

แล้วที่คนบอกว่าทำหนังให้เมเจอร์หรือเปล่า? “ไม่ใช่ไม่ได้เกี่ยวว่าเมเจอร์หรือไม่ทำ เพราะไม่ได้ทำหนังให้เมเจอร์มาสองปีแล้ว แต่พูดตามจริง มีหนังเรื่องหนึ่งอินดี้ที่เขาบอกกัน เมเจอร์ให้ 5 โรงแล้วดูสิว่ามันจะทำเงินไหม ถ้ามันไม่ทำเงินเพราะฉะนั้นก็อย่าด่าโรงหนัง โรงหนังต้องการเลยอยากได้ใช่ไหม 5 โรง 5 ภูมิภาคให้เลย ดูว่าจะมีคนเข้าไปดูไหม

อันนี้เราพูดกันแบบธุรกิจคนทำมาหากินแชร์ๆ ถ้าไม่มีคนเข้าไปดูคุณต้องยอมรับนะอย่าไปเรียกร้องอีกว่าโรงหนังไม่ร่วมมือโรงหนังไม่ให้โอกาส อยากให้โรงหนังเอสเอฟหรือเมเจอร์ ให้โอกาสกับคนทำหนังเล็กๆ สมมติมีหนังสักเรื่องหนึ่ง หนังอินดี้ก็ให้เลย 5 โรง 5 ภูมิภาคฉายไปเลยอาทิตย์หนึ่ง แล้วดูว่าถ้าหนังไม่ทำเงินไม่มีคนดูก็อย่าเรียกร้องอะไรอีก”

แต่มันก็จะไม่เกิดขึ้นจริงหรือเปล่า? “ก็ขอร้องให้เกิดขึ้นจริงไง ให้เมเจอร์กับเอสเอฟร่วมมือกันมันจะได้เลิกทะเลาะกัน ไม่อย่างงั้นมันก็จะเรียกร้องกันอยู่แบบนี้ มึงไม่ให้โรงกูจะฉายยังไง มึงถอดออกนู่นนี้ แต่มึงไม่ได้ดูว่าคนดูหรือเปล่า”

แล้วหนังไทยกับหนังต่างประเทศล่ะ? “หนังเทศไปว่าเขาไม่ได้อยู่แล้ว ไม่ใช่หนังที่เราทำเองเราไม่สามารถบังคับเขาได้อยู่แล้วเราซื้อเขามาฉายกัน เขามีค่ายใหญ่ เราก็ต้องฉายตามที่เขาบอกมา เพราะรัฐบาลเราไม่ยุ่ง”

ส่วนตัวเราว่ายังไงผู้กำกับฯคนอื่นเขาออกมาพูด? “เราก็พูดความจริง ผู้กำกับฯคนอื่น ก็เรื่องของคนอื่นทำไมคนอื่นแสดงความคิดเห็นได้แล้วกูแสดงความคิดเห็นไม่ได้ เพราะกูก็ผู้กำกับฯ เหมือนกัน(ยิ้ม)”

เราได้เข้าไปทำงานในสมาคมผู้กำกับฯ ไหม? “ไม่ได้ยุ่งเลย ไม่ได้ยุ่งกับสมาคมสมาพันธ์อะไรทุกสิ่งทุกอย่าง เพราะไม่อยากปวดหัว”

เราในฐานะคนทำหนังคิดว่าอุตสาหกรรมหนังจะไปรอดไหม เพราะคนมองว่า ณ จุดนี้ยาก? “มันก็ไปรอดสิ เปิดกล้องเปิดอะไรเยอะแยะกัน”

หลายคนมองว่าอีกหน่อยอุตสาหกรรมหนังจะตาย? “ก็เห็นพูดแบบนี้มาหลายปีไม่เห็นมันจะตายสักที คือทำไมคนถึงไม่ออกมาดูหนังก็บอกแล้วไงว่า มีพวกสตรีมมิ่งอะไรเข้ามาและที่สำคัญคือคนอาจจะเบื่อหนัง เพราะเขามีอะไรทำมากกว่าดูหนัง เราก็พูดกันเป็นกลางๆ อยากให้เมเจอร์กับเอสเอฟให้ไปเลยหนังเล็กๆ ให้ไปเลย 5 โรง 5 ภูมิภาค”

อย่างงานศิลปะที่เป็นหนังอินดี้ มุมมองภาพที่แตกต่าง มองยังไง? “มันแล้วแต่ การดูหนังมันเป็นรสนิยมของคนดู อินดี้เขาก็กลุ่มหนึ่ง ถูกต้องไหม มันเป็นกลุ่ม ๆ เพราะฉะนั้นเราต้องยอมรับด้วยว่าอินดี้ก็กลุ่มหนึ่ง แมสก็กลุ่มหนึ่งใช่ไหม เห็นทะเลาะกันใช่ไหม เราก็ให้ไปเลย

เอาตัวอย่างหนังให้ดูเลย เชือดไก่ให้ลิงดูไปเลย มีหนังเข้ามาเรื่องหนึ่ง เรื่องอะไรก็ได้ ฉายไปเลย 5 โรง 5 ภูมิภาค ให้ทางโรงหนังคอยแจ้งไปเลย แจ้งไปทางสมาคมผู้กำกับฯ ว่าวันนี้ได้เท่าไหร่ และดูยอดสรุปออกมาว่าถ้ามันไม่ได้เงินก็ต้องยอมรับกันนะว่าคนมันไม่ดู ไม่ใช่ว่าคนอยากจะดู”

ความสำเร็จของหนังวัดจากรายได้? “ไม่รู้ เธอสังเกตดูคนที่ได้เป็นผู้กำกับฯ ผู้กำกับภาพยนตร์ยอดเยี่ยม เป็นใครยังไม่รู้เลย ทำงานอะไรต่อพี่ก็ยังไม่รู้ เพราะพี่ก็อยู่วงการมานานแล้ว อันนี้เราไม่ได้ไปว่าเขานะเราก็แค่อธิบายให้ฟังว่ามันต้องเข้าใจกันทั้งสองฝ่าย”

ข้อพิพาทจะหยุดได้ก็ต่อเมื่อเข้าใจกัน? “จะหยุดได้ก็นี่แหละ เอสเอฟกับเมเจอร์ต้องให้ความร่วมมือ ลองฉายไปเลย ให้ไปเลย 5 ภูมิภาค 5 โรง”

ให้พี่พชร์เป็นตัวกลางเจรจา? “ไม่มีใครบอกให้เป็นหนิ ไม่ แค่พูดนี่เขาก็ด่าเราแล้วนะ แต่เราก็อยากให้มันเป็นอย่างนั้นจริง ๆ เราต้องพิสูจน์ไง มันต้องพิสูจน์และหาข้อเท็จจริงว่าถ้าเขาให้ 5 โรง 5 ภูมิภาคอย่างที่เขาบอกกัน แล้วคุณจะยอมรับไหมถ้าหนังมันไม่ทำรายได้”

แสดงว่าเป็นปัญหาที่คาราคาซังมานานแล้ว? “ใช่ มันต้องเคลียร์ อย่างนั้นก็จะเรียกร้องกันอยู่นั่นแหละ จะเอานู่นจะเอานี่”

มองว่าตลาดแมสกับตลาดอินดี้ต้องแยกกัน? “ต้องแยกกัน มันคนละตลาด เราเอาพวกแม่ค้าในตลาดไปดูหนังอินดี้เรื่องหนึ่งสิ เขาก็ไม่ดู พวกกลุ่มนี้เขาก็คือพวกกลุ่มนี้ เพราะฉะนั้นคุณก็ต้องเรียกร้องแบบสมควรที่มันจะเป็น ไม่ใช่เรียกร้องกันแบบกูจะเอาให้ได้ ต้องให้ฉัน 5 โรง…ก็มันไม่มีคนดู เราจะฉายไปทำไม ก็โรงหนังเขาคิดแบบนั้น

แต่พี่คิดว่า ไหนๆ ก็ไหนๆ แฟร์ๆ เลย ว่ามีอีกเรื่องหนึ่งไหม แล้วเอสเอฟกับ เมเจอร์ก็ทุ่มเลย ยอมเสียเงิน เสียเวลาแป๊บหนึ่งว่าจะมีคนดูไหม ถ้าทำแบบนั้นแล้วไม่มีคนดูก็อย่าเรียกร้องอะไรอีก เพราะเขาก็ทำธุรกิจ เขาก็อยากลงทุนไง เขาลงทุนไป เขาก็อยากได้เงินคืน เราต้องเข้าใจเขาด้วย”

หนังเราเคยถูกลดรอบไหม? “เคย ที่ทำหนังให้เมเจอร์ก็โดนลดรอบ หนังไม่ทำเงินเขาก็ตัด เราเข้าใจ เพราะเขาต้องตัด เขาจะฉายให้เปลืองแอร์ทำไม โรงหนังฉายให้คนดูสองคนแล้วเปิดแอร์ รอบหนึ่งเท่าไหร่ หนังพี่ทำให้เมเจอร์ เมเจอร์ก็ตัด ไม่ใช่ไม่ตัด แต่เราจะมาตีโพยตีพายเรื่องอะไรล่ะ ก็หนังเราไม่ทำเงิน แต่ เสือเผ่น จะทำเงินแน่นอน”

ฉายโรงอะไรบ้าง? “ฉายเฉพาะในเครือเมเจอร์อย่างเดียว เพราะว่าเมเจอร์ตั้งใจทำให้มันเอ็กซ์คลูซีฟสำหรับแฟนๆ เมเจอร์ต้อนรับวันสงกรานต์ เดี๋ยวเมเจอร์เขาจะมีหนังเฉพาะของเมเจอร์เยอะขึ้น เพราะเขาต้องการจะตอบแทนแฟนคลับเขา ตอนนี้โรงหนังเมเจอร์อะทั่วประเทศแล้ว อย่าง อาตมาฟ้าผ่า ก็เป็นหนังของเมเจอร์เหมือนกัน แต่ก็ฉายเอสเอฟแต่หนังเรื่องนี้เขาสร้างมาแบบเอ็กซ์คลูซีฟสำหรับแฟนๆ เมเจอร์ แฟนคลับเมเจอร์จะได้ดู”

ก่อนหน้านี้คนพาดหัวข่าวผิด? “เราก็ต้องเดินสายกลางกันบ้าง ไม่ใช่เอาแต่ใจตัวเอง เราก็ต้องยอมรับ ยอมฟังว่าอันนี้มันถูก อันนี้มันผิด อันนี้มันใช่ อันนี้มันไม่ใช่”

หนังของเรามีเรื่องที่ไม่ทำเงินไหม? “ก็มี ส่วนใหญ่มันก็ได้เงินอะนะ แต่มันจะได้เยอะกับได้น้อยมากกว่า”

แต่ไม่ถึงกับขาดทุน? “ไม่ขาดทุนเพราะว่าเป็นหนังของที่เราลงทุนน้อย แต่เราทำสนุก แต่เราก็ไม่ได้ว่าหนังเราดีนะ แต่ก็ไปดูกันหน่อย เข้าโรงวันที่ 6 เมษาอยู่ถึงสงกรานต์เลย เลยสงกรานต์ไปก็ช่วยๆ กันดูหน่อย แต่เราเข้าใจกันทั้งสองฝ่าย เราเข้าใจว่าหนังแมสกับหนังไม่แมสเนี่ยคนจะเลือกดูเขาก็ต้องเลือกดูหนังแมสอยู่แล้ว

เพราะมันเป็นอะไรที่ถูกใจตลาด คนก็ต้องเข้าใจ และหนังเรื่อง เสือเผ่น เอ็กซ์คลูซีฟเฉพาะเมเจอร์เท่านั้น เพราะเมเจอร์สร้างมาเพื่อให้แฟน ๆ ดูภาพยนตร์ของเมเจอร์ ก็ไปดูกัน อย่าไปโรงผิด ไปเมเจอร์ซีนีเพล็กซ์เท่านั้น”

ดูข่าวต้นฉบับ

ที่มา : https://www.khaosod.co.th/entertainment/news_7598476
ขอขอบคุณ : https://www.khaosod.co.th/entertainment/news_7598476