“ตู่-ภพธร” เนื้อหอมเกิน! ภรรยาเรียกร้องต้องการเวลาเพิ่ม เผยขึ้นร้องเพลงบนเวทีโดนแค่กอด


ให้คะแนน


แชร์

เลยถามถึงครอบครัวเป็นยังไงบ้าง?

“ครอบครัวก็ดีครับ ช่วงนี้ก็พยายามกอบโกยเวลาที่ยังพอมีอยู่ เวลาก็จะน้อยลงเยอะมากครับ เรียกว่าเรานั่งดูตารางเลย ถึงบ้านเที่ยงคืนคือเร็วแล้วนะ อาบน้ำก็คือวิ่งผ่านน้ำเลย (หัวเราะ) พอเช้าถ้าอยากจะเจอลูกต้องไปส่ง 6 โมงเช้า ช่วงหลังๆอาจจะเริ่มไม่ไหว บางวันอาจจะไม่ได้เจอลูกเลย เพราะ ฉะนั้นช่วงนี้ผมจะเล่นให้สุด และใช้เวลาให้เต็มที่มากๆครับ”

ภรรยาเตรียมใจไว้แล้ว?

“ภรรยาเค้าปลอบใจเรามากกว่าครับ บอกเราว่าไม่เป็นไรนะ เดี๋ยวมันก็ผ่านไป (หัวเราะ)”

บอกลูกว่ายังไง?

“เราก็เกริ่นเค้าไว้ก่อน แต่เค้าโอเคอยู่แล้วครับ ก็จะไม่ได้บอกอะไร แต่เราจะเห็นจากรีแอ็กชันของเค้า บางทีเค้าเล่นกับเราเค้าก็ดูน้อยใจ ผมก็จะพยายามไม่หายไปเยอะครับ เวลาไปเล่นต่างจังหวัดก่อนหน้านี้ผมไปได้ยาวๆ แต่ตอนนี้พอมีลูกแล้ว คืนเดียวก็ถือว่าเยอะแล้ว 2 คืนเยอะสุดแล้ว”

แต่ภรรยาน่าจะชินแล้ว เพราะเราก็เคยเล่นละครเวทีมา?

“ใช่ แต่ก่อนละครเวทีช่วงนั้นก็ถือว่าหนัก แต่ตอนนั้นลูกยังเล็กเค้าก็ยังไม่ได้ต้องการเรามาก แต่ภรรยาต้องการมากกว่าตอนนั้น (หัวเราะ)”

ลูกคนเล็กเป็นยังไงบ้างตอนนี้?

“คนเล็กสนุกมากเลยครับ เริ่มเรียกหาพ่อบ้าง บางทีผมเตรียมตัวออกจากบ้าน ลูกจะต้องเปลี่ยนผ้าอ้อมพี่เลี้ยงจะเปลี่ยนให้ แต่เขาบอกว่าให้ป่ะป๊าเปลี่ยนให้ ให้ป่ะป๊าอุ้ม ซึ่งเร่งแค่ไหนผมก็จะไม่เป็นไร แต่พอจะให้ป๊าอ่านหนังสือให้ฟัง อันนี้อาจจะไม่ได้แล้ว (หัวเราะ) เพราะจะยาว ส่วนคนโตเค้าเริ่มเข้าโรงเรียนแล้ว เค้าติดเพื่อน ก็พอผมซ้อมละครเวทีก็จะขอภรรยาให้พาลูกๆ มาดูที่โรงละคร เพราะเค้า จะได้เห็นว่าพ่อทำงาน และให้ชินกับบรรยากาศตรงนั้น”

แล้วบทบาทของภรรยากับสามี ต้องทำยังไง?

“ผมว่าเราแค่ต้องพยายามหาโมเมนต์มาเติม อาจจะหาเวลาช่วงว่างของวันไปกินข้าวด้วยกัน”

ภรรยาเข้าใจคำว่า สามีแห่งชาติที่เราเคยได้รับยังไงบ้าง?

“เค้าเข้าใจว่าถ้าผมไปร้องเพลงแล้วมีคนกรี๊ดอยู่ ก็แปลว่ายังมีคนจ้างอยู่ เค้าเข้าใจตรงนั้น แต่ในแง่ของความเป็นสามีภรรยาถามว่าหวงมั้ย ผมว่าไม่นะ เค้ามีแต่จะบอกว่าพี่ตู่ต้องไปทำนั่นนี่นะ ต้องดูแลตัวเองนะ จะพยายามช่วยเรา เพราะเค้าเข้าใจในงานของเรา มันเป็นสิ่งที่ทำให้งานของเรายังคงมีอยู่ ถ้าคนไม่กรี๊ดสามีเค้าเมื่อไหร่ แปลว่าสามีจะไม่มีงานร้องเพลงแล้วนะ (ยิ้ม)”

เวลาไปร้องเพลงมีสาวๆเข้าถึงตัวหรือมากกว่านั้นบ่อยมั้ย?

“จริงๆก็ไม่ค่อยเท่าไหร่ครับ ส่วนมากก็มาซบ มากอด กรี๊ดแบบน่ารักๆ ผมไม่เคยเจอล้วง เจอจับอะไร ไม่มีใครอยากจะล้วงอะไรผมเลยครับ (หัวเราะ) มีแต่มาหยิกแก้ม ผมว่าเค้าเกรงใจมั้ง”

คนบอกว่าเราเป็นผู้ชายอบอุ่น ชีวิตจริงเราก็เป็นอย่างนั้น?

“ครับ (ยิ้ม) คือเราก็มีคาแรกเตอร์ของเรา ไม่ได้สุภาพเรียบร้อยตลอดเวลา กับเพื่อน เราก็อีกแบบนึง แต่เราคิดว่าพยายามวางตัว คือทุกอย่างที่เราเป็น เราก็อยากให้มันไม่ยากในการใช้ชีวิตด้วย เราไม่ได้ต้องการมาสร้างภาพข้างนอกให้คนเห็น แล้วพอที่บ้านไม่เหมือนกัน แต่มันคือตัวตนในมุมที่ทุกคนเห็นครับ เราอยากให้ลูกเรามองเรายังไงในอนาคตขึ้นมา ผมว่ามันเป็นส่วนสำคัญ”

กดดันมั้ยกับภาพที่คนมองภาพนี้ตลอดเวลา?

“ไม่กดดัน เพราะเราก็เป็นของเราแบบนี้ ผมไม่ได้บอกว่าผมเพอร์เฟกต์ ผมโตขึ้นมากับครอบครัวที่แสดงความรัก กอดกันทุกวันหอมกัน คุณแม่บอกรักลูกทุกวัน บอกรักพี่สาวทุกวัน มันก็เลยอยู่ในตัวผมตลอด ตัวผมเองก็มีแค่งานและครอบครัว ฉะนั้นมันไม่ยากที่จะมีเวลาตรงนี้”.

ดูข่าวต้นฉบับ

ที่มา : https://www.thairath.co.th/entertain/news/2682043
ขอขอบคุณ : https://www.thairath.co.th/entertain/news/2682043