ขวัญ ลูกสาว “สรพงศ์ ชาตรี” ไม่หวังมรดกพ่อ ไม่ยุ่งปมขายที่ดิน ขอบคุณคนหวังดี


ให้คะแนน


แชร์

กลายเป็นข่าวใหญ่โต กรณีมีผู้ใช้บัญชีรายหนึ่งโพสต์ข้อความลงในกลุ่มเฟซบุ๊ก ระบุว่า “ขายบ้านหรู คฤหาสน์หรู บ้านเศรษฐี” ประกาศขายบ้านไม้สักทองโครงสร้างเหล็ก 2 ชั้นของ “สรพงศ์ ชาตรี” อดีตพระเอกชื่อดังผู้ล่วงลับ ในราคาสูงถึง 99 ล้านบาท” ต่อมา “ขวัญ พิมพ์อัปสร” ลูกสาวได้โพสต์ข้อความชี้แจงว่าไม่เป็นความจริง  

ล่าสุด “ขวัญ พิมพ์อัปสร”  ออกมาเปิดใจผ่านสื่อครั้งแรกเรื่องที่มีคนขายบ้านของพ่อว่า “ตกใจก่อนค่ะ ตอนแรกไม่ทราบเลย จนพี่ๆ นักข่าวโทรมากันเยอะมาก เลยถามเลขาว่าเกิดอะไรขึ้น เขาเลยบอกว่าเรื่องที่คุณพ่อขายบ้าน เราก็ ฮะ! น้องก็ส่งข่าวมาให้ก็เลยลองอ่านดู คือเราไม่รู้เรื่องเลย ก็เลยรู้สึกว่าโพสต์ทีเดียวเลยดีกว่า ในประเด้นที่ตอบคำถามก็คือว่า เราไม่ทราบเรื่อง แล้วเราก็ไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับสมบัติใดๆ ของคุณพ่อเลย ปฏิสัมพันธ์ก็เป็นระหว่างพ่อ-ลูกปกติ ไม่เคยพูดเรื่องนี้ใดๆ เลย”

ไม่เคยรู้ว่ามีสมบัติอะไรบ้าง? : “ไม่รู้ค่ะ ไม่เคยอยากรู้ด้วยค่ะ อันนั้นเป็นเรื่องของผู้ใหญ่ เวลาเราเจอพ่อ เราคือลูกพ่อ เป็นพ่อลูกตามประสา เวลาคุณพ่อเอ่ยก็อยากจะยกอันนี้ให้ เขาไม่ได้มานั่งไล่ว่ามีอะไร เราก็ตอบไปตามที่ได้โพสต์ไปแค่นั้นค่ะ เรื่องบ้านไม่เคยรู้เรื่องมาก่อน ไม่เคยคุยกันเรื่องพวกนี้เลย จะคุยเรื่องอื่น แล้วเราเองก็ไม่เคยถามด้วย”

อยากจะเคลียร์ว่ายังไง? : “เคลียร์ชัดเหมือนเดิมว่าไม่เคยทราบเรื่องคุณพ่อ ดังนั้นขวัญรู้สึกว่ามันไม่ได้เป็นปัญหาสำหรับขวัญ เพราะว่าไม่เคยเข้าไปยุ่งเกี่ยวตั้งแต่แรก เราก็ทำงานของเรา ดูแลครอบครัวที่บ้าน ดังนั้นขวัญว่าพ่อรับรู้ว่าขวัญไม่ได้อยากจะยื่นมือเข้าไปยุ่ง มันเป็นเรื่องของผู้ใหญ่ ถ้าจะตอบคำถามพี่ๆ สื่อ ขวัญก็ตอบได้ในส่วนที่รู้แค่นี้”

ได้คุยกับคุณแม่ไหม กับข่าวที่ออกมา? : “คุณแม่ยิ่งไม่ยุ่งใหญ่เลยค่ะ เพราะเวลาของพ่อ-ลูก เขาก็จะปล่อยอยู่แล้วค่ะ เขาก็ไม่เคยเข้ามายุ่ง ยิ่งเรื่องนี้เขาไม่รู้เรื่อง แล้วเขาก็ไม่เคยเข้ามาอยากจะรู้ว่ามีสมบัติอะไร ไม่ส่วนข้องเกี่ยว ขวัญถามแม่ก็บอกว่าไม่รู้ ไม่รู้เรื่องตั้งแต่แรก แม่ก็ตอบไม่ได้” 

เรื่องที่คนคอมเมนต์ให้ ระวังโดนโกง เรื่องที่ดินคุณพ่อ? : “ขวัญขอบคุณคนเหล่านั้นมาก แม้เราจะไม่รู้ว่าจริงหรือไม่จริง แต่อย่างน้อยเขาก็หวังดี คุณพ่ออาจจะมีที่เยอะแยะ ซึ่งขวัญไม่ทราบจริงๆ ด้วยความที่เขาก็หวังดีกับเรา แต่ขวัญไม่ได้เข้าไปยุ่ง ด้วยความที่เราก็ประกาศตัวว่าเราไม่ได้คิดที่จะยุ่ง ดังนั้นก็เจตนารมย์เดิม เรื่องสมบัติไม่ยุ่งเกี่ยวเลย” 

ถ้าวันนึงในเรื่องของการจัดการมรดก จะมีส่วนที่เราเข้าไปเกี่ยวข้อง? : “ขวัญว่าตอบยากค่ะ เอาจริงๆ ตอนนี้ขวัญยังไม่รู้เลยว่าคุณพ่อทำมรดกหรืออะไร ด้วยความที่ไม่เคยคุยเรื่องนี้จริงๆ ค่ะ หรือใครเป็นผู้จัดการมรดก ด้วยความที่เราไม่สนใจอยากจะเข้าไปยุ่ง แล้วก็เราไม่เคยคุย ดังนั้นมันไกลมาก อย่างที่บอกหลังคุณพ่อเสีย ก็ยังไม่เคยมีใครมาประกาศตัวว่าเป็นผู้จัดการหรืออะไร เอาเป็นว่าไม่ใช่แค่ขวัญนะคะ น้องๆ คนอื่น ก็ไม่มีใครพูดเรื่องสมับติสักบาทเดียว พูดแต่เรื่องว่าเดี๋ยวไปกินข้าวกันนะ พ่อไม่อยู่แล้ว นัดกันไหม ซึ่งไม่มีเรื่องพวกนั้นเลย ขวัญก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันมีโอกาสเกิดขึ้นหรือเปล่า ถ้าไม่ได้เกิดขึ้นเราก็ไม่ได้เดือดร้อน”

ที่ประกาศขาย? : “ขวัญไม่ทราบจริงๆ ว่าที่ตรงนั้นมันเป็นชื่อใคร หรือคุณพ่อยกให้ใคร หรือทำพินัยกรรมใดๆ หรือเปล่า ขวัญไม่ทราบและก็ไม่สืบด้วย เราไม่ได้มีเจตนานั้น สืบไปแล้วยังไงต่อ ก็เลยไม่ทราบจริงๆ”

ขอไม่ยุ่งเกี่ยว? : “ไม่ใช่สาระสำคัญของขวัญค่ะ ขวัญรู้สึกว่ายังโชคดีอย่างน้อยเราเป็นลูกคุณพ่อ เรามีโอกาสมากกว่าคนอื่นๆ ที่อาจจะเป็นญาติๆ หลานๆ เราได้ทำงานในวงการ มีโอกาสมากกว่าเขา หลานบางคนทำงานโรงงาน ชีวิตนี้จะมีโอกาสมีสมบัติเป็นชื่อเขาสักชิ้นก็ยังไม่รู้เลย คุณพ่อก็คงสนับสนุนการตัดสินใจของเราเหมือนกัน ตอนคุณพ่อยกให้ขวัญก็บอกว่าให้ยกให้หลาน พ่อเข้าใจ เพราะเรามีเหตุผล แล้วคุณพ่อเองเป็นคนไม่ทิ้งญาติ รักทุกคน ดังนั้นคิดว่าคุณพ่อน่าจะเห็นด้วยที่เราพิจารณาแล้วว่าให้คนนี้ดีกว่าไหม เพราะเหตุผลแบบนี้ อย่างน้อยเขาก็ดีใจสักครั้งในชีวิต แต่เรายังมีโอกาสที่จะหาได้ หนูคิดว่าคุณพ่อก็น่าจะสนับสนุนเหตุผลของเรา”

ได้ติดตามข่าวหรือความคืบหน้าเรื่องนี้ไหม? : “ไม่ได้ติดตามเลยค่ะ เพราะสุดท้ายแล้ว ใครขาย แล้วเราจะยังไงต่อ เราจะไปทำอะไรเขาเหรอ เราไม่ได้ยื่นมือเข้าไปยุ่งแต่แรกค่ะ”

ดูข่าวต้นฉบับ

ที่มา : https://www.komchadluek.net/entertainment/thai-entertainment/576386
ขอขอบคุณ : https://www.komchadluek.net/entertainment/thai-entertainment/576386