พีพี พัชญา ยอมเปิดใจดราม่า 4 ปีที่แล้ว "ถ้าเลือกได้ก็ไม่อยากให้เกิดขึ้น"


ให้คะแนน


แชร์

ตอนนั้นรู้สึกน้อยใจโชคชะตาบ้างมั้ย ทำไมคนไม่เข้าใจเรา?

“ไม่ค่ะ หนูก็แค่รู้สึกว่าเป็นปกติของชีวิตคนอยู่แล้วค่ะ มันก็ต้องมีสุขมีทุกข์ หนูรู้สึกว่าความสุขความทุกข์มันเป็นของคู่กัน เราสุขได้ไม่นานเราก็ทุกข์ได้ไม่นานเหมือนกัน” 

ตอนนั้นคิดจะออกจากวงการไปเลยมั้ย?

“จริงๆ ไม่ถึงกับว่าอยากจะออกจากวงการหรือว่าอะไร หนูคิดแค่ว่าทุกๆ อาชีพมันก็ต้องมีเรื่องที่เราชอบ ไม่ชอบมากระทบจิตใจ แต่ว่าอาชีพเรามันเป็นอาชีพที่ต้องทนให้ได้กับคำพูด และก็มุมมองความคิดของคนที่เข้ามา หนูคิดว่ามันอยู่ที่เรามากกว่าที่จะจัดการกับอะไรตรงนี้ยังไง” 

เคยคิดไหมว่าไม่น่าเกิดขึ้นกับเราเลย?

“จริงๆ ก็คงไม่มีใครอยากให้เกิดค่ะ แต่ก็ไม่มีฝ่ายไหนดีใจหรือเสียใจมากกว่ากัน แล้วถ้าเลือกได้ก็ไม่อยากให้เกิดขึ้น”

เรื่องที่ผ่านมาทำให้เราโตขึ้นยังไงบ้าง?

“มันก็สอนอะไรหลายๆ อย่าง หนูกลับคิดว่า การที่เกิดเหตุการณ์ตั้งแต่ตอนเริ่มแรกที่จะเข้ามา ดีกว่าแบบอยู่นานๆ ไปแล้วมาเกิด หนูคิดว่ามันเป็นครู เหมือนเป็นอารมณ์แบบว่าครูดุ ครูตี ไปเลย ดีกว่าจะมาคว่ำที่หลัง แล้วตอนนั้นเราอาจจะเจ็บกว่าตอนแรกก็ได้

แล้วตอนนั้นหนูรู้สึกว่าหนูยังเด็กอยู่ ด้วยความเป็นเด็กมันยังต้องเครียดเรื่องเรียน ไหนต้องถ่ายละคร อยากจะไปเที่ยวกับเพื่อน มันมีอะไรให้คิดเยอะ แต่ว่าเป็นผู้ใหญ่มาสู่สังคมแล้วรู้สึกโดดเดี่ยว คือเราต้องแยกจากที่บ้าน จากเพื่อนด้วย มาทำงานอย่างเดียว คิดว่าตอนนั้นดีที่สุดแล้ว” 

ผ่านมาได้ยังไง?

“ตอนนั้นทุกคนก็จะเป็นห่วง กลัวเราเศร้า กลัวเราจะเป็นโรคซึมเศร้า แต่หนูจะเชื่อว่า สมมติถ้ามันเป็นเรื่องจริง ก็ควรที่จะออกมาขอโทษก็ถูกแล้ว แต่มันไม่ใช่เรื่องจริง หนูก็ไม่รู้จะทำอะไร เพราะว่าเราก็ทำอะไรไม่ถูก

แล้วหนูก็อยู่ช่วงที่ไม่รู้จะพูดอะไรด้วย มันก็ไม่จำเป็นจะต้องพูดอะไรอยู่แล้ว พอถ้าพูดอะไรไปแล้วมันไม่ได้ทำให้ใครดีขึ้น ก็ไม่ควรจะพูดดีกว่าค่ะ เพราะไม่อยากทำร้ายใครด้วยคำพูดหรือว่าไม่อยากเอาคำพูดใครมาทำร้ายตัวเองเหมือนกัน” 

มีช่วงที่คนคิดว่าเราถูกพักงาน?

“ช่องก็ป้อนงานเรื่อยๆ ค่ะ พอจบหนึ่งเรื่องก็จะต่ออีกหนึ่งเรื่อง ช่องเค้าจะให้ความสำคัญกับด้านการเรียนด้วยเหมือนกัน ถ้าสมมติว่าทำงาน 2 เรื่องเท่ากับว่าถ่าย 7 วัน มันก็ไม่ไหว แล้วหนูก็ไม่ได้ไปเรียน”

ตอนนี้เราเจออีกเรามีภูมิต้านทานแล้ว?

“ถามว่ามีภูมิต้านทานมั้ย จริงๆ มันไม่เหมือนกัน ถ้าเกิดอีกเรื่องหนึ่งมันก็จะอีกอารมณ์หนึ่ง แต่ว่าการที่เราควบคุมอารมณ์หรือสติมันน่าจะมี แล้วด้วยที่เรามีวุฒิภาวะที่มากขึ้น โตขึ้น เห็นอะไรมามากกว่าเมื่อก่อน หนูคิดว่ามันน่าจะดี”

ที่บอกว่าคนรอบข้างห่วงว่าเราจะเครียดจนเป็นโรคซึมเศร้า แสดงว่าก็ไม่ค่อยได้พูดปรึกษาอะไรใคร?

“เป็นคนพูดมากนะคะ ถ้าเวลาอยู่กับเพื่อน(หัวเราะ) ซึ่งเหมือนถ้าเวลาเพื่อนมีปัญหาเราจะอยู่ข้างเพื่อนตลอด ซึ่งก็คิดว่าเพื่อนคงทำเหมือนกับเราค่ะ บางคนก็จะควบคุมอารมณ์ไม่ได้ก็มี คือไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้ แต่หนูก็บอกว่าให้ปล่อยไป คือไม่ว่าใครจะอะไรยังไง แต่ถ้าเราคิดว่าเราจะดีเราก็ต้องดีให้ได้ค่ะ” 

ตอนที่มีดราม่าครั้งนั้น เราเลือกที่จะอ่านคอมเมนต์มั้ย?

“อ่านหมด เพราะว่าหนูก็อยากรู้ใครมาเมนต์ หนูรู้สึกว่าถ้าไม่อยากจะอ่าน หนูว่าบล็อกไปเลยดีกว่า หนูไม่บล็อก แล้วถ้าเราตัดสินใจที่จะเปิดอินสตาแกรมเป็นสาธารณะ เราก็ต้องรับผิดชอบในสิ่งที่ตัวเอง เลือกอยู่แล้ว”

ก็เลยกลายเป็นทำให้คนมองว่าเราทำจงใจกวน ท้าทาย ทำเหมือนไม่รู้สึกอะไรเลย?

“หนูว่ามันก็ไม่ผิด หนูเคารพทุกความคิดเห็นของทุกคนอยู่แล้ว หนูก็ยินดีรับฟัง แต่ว่าในทุกการตัดสินควรจะเป็นของหนู”

พอเราเห็นนักแสดงที่ช่องเจอดราม่าเรื่องนี้เหมือนกันที่เพิ่งผ่านมา เรารู้สึกยังไง?

“ก็เข้าใจค่ะ แต่ว่าเราก็ไม่ได้อยู่ในจุดที่ช่วยเค้าได้ เรื่องแบบนี้หนูรู้สึกว่ามันเยียวยาได้ด้วยตัวเอง”

แล้วตอนนี้มีแฟนรึยัง?

“ไม่มีค่ะ(หัวเราะ) คือหนูไม่ได้ปิดกั้นตัวเอง ตั้งแต่เล่นมาไม่มีพระเอกคนไหนชอบเลย ด้วยความที่หนูมีเพื่อนเป็นเพศทางเลือก บางทีไปเที่ยวก็มีหนุ่มๆ มาสนใจ มาขอไลน์ แต่เค้าก็จะลังเลว่าเราเป็นรึเปล่า เป็นผู้หญิงรึเปล่า หนูก็ไม่ได้สนใจ รู้สึกว่าตอนนี้อยากมีเวลากับเพื่อน แล้วถ้าเพื่อนๆ ไปทำงานกันแล้ว หนูจะยังมีโอกาสเจอเพื่อนๆ อีกเมื่อไหร่ อยากดูแลน้องกับแม่ให้ได้เต็มที่ค่ะ”

แสดงว่าก็มีหนุ่มๆ เข้ามา?

“ก็เข้ามาธรรมดาค่ะ เราก็ไม่รู้ว่าใครจริงจังมาก ใครจริงจังน้อย แต่ว่าเราก็รู้ รักษาระยะห่าง เพราะว่าด้วยความที่เราก็ทำงาน ไม่รู้ว่าใช้คำว่าโตไวได้รึเปล่า เพราะว่าหนูเหมือนพอจบ ม.6 ไม่ได้มีเวลากระจุกกระจิก อยู่มหาลัยก็ไม่ได้ว่าง” 

เหมือนจากดราม่านั้นทำให้เราเสียโอกาสไป เราฝันอยากจะได้เป็นนางเอกแถวหน้าของช่องมั้ย?

“หนูฝันว่าอยากมีงานทำ(หัวเราะ) คือจริงๆ ที่วางเป้าไว้ก็คืออยากซื้อบ้านให้แม่ ให้น้องเรียนจบ ให้น้องพอทำงานได้ เพื่อที่คอยดูแลแม่” 

แปลว่าเราก็ไม่ได้คาดหวังที่จะมีชื่อเสียง หรือความโด่งดังขนาดนั้น?

“หนูว่าเรื่องแบบนี้เราไม่สามารถเดาได้ค่ะ ถ้าดังก็ดีใจ หนูว่าทุกคนก็คงไม่อยากฝันไกลขนาดนั้น เพราะถ้าผิดหวัง หนูก็พยายามพัฒนาด้วยเองเรื่อยๆ ค่ะ”.

ดูข่าวต้นฉบับ

ที่มา : ข่าวไทยรัฐออนไลน์ – ข่าวบันเทิง
ขอขอบคุณ : ข่าวไทยรัฐออนไลน์ – ข่าวบันเทิง