โดยบอกว่า กลัวเป็นตัวถ่วง บิ๊กเอ็ม-กฤตฤทธิ์ พระเอกของเรื่อง แต่ไม่เกร็งไม่เขินที่ต้องเล่นบทเลิฟซีน

“พูดถึงพี่บิ๊กเอ็มเป็นพี่ชายคนหนึ่งที่น่ารัก ดีกับปูเป้ด้วย ใส่ใจกับการแสดงเวลาเล่นร่วมกัน มันคลิกกันมากๆ พี่บิ๊กเอ็มก็จะออกความคิดของเขาว่า พี่จะเล่นแบบนี้นะปูเป้ แบบนี้ๆ มันทำให้เราสองคนเข้าใจกันมาก แล้วเล่นออกมาด้วยกัน ก็ถ่ายทอดออกมาได้ดี แล้วต่างคนต่างรู้สึกเหมือนกัน ระหว่างอยู่ในกองถ่ายพี่บิ๊กเอ็มก็น่ารัก ไม่หยิ่งกับน้อง มี การเทกแคร์ ซื้อขนมมาให้ แบ่งกันกิน แบ่งบทอ่าน แล้วเป็นพี่ชายที่น่ารัก ไม่ได้น่ารักแค่กับปูเป้คนเดียว แต่น่ารักกับนักแสดงทุกคนด้วยค่ะ รวมถึงนักแสดงทุกคนก็คือมีความน่ารัก เป็นกันเองมากๆ”

แล้วเขินพี่เค้ามั้ย?

“เจอพี่บิ๊กเอ็มครั้งแรกก็ไม่เขิน ไม่ได้เขินที่ว่าเขาเป็นผู้ชายหล่อหรืออะไรอย่างนี้ ไม่ได้มีความเขินอย่างนั้น แต่เขินที่ว่าเขาเป็นรุ่นพี่ แล้วเขาดังนะ เขามีชื่อเสียงนะ คือเขินที่ว่าเราจะเป็นตัวถ่วงเขามั้ย เรายังใหม่นะ เราไม่อยากให้พี่บิ๊กเอ็มคิดว่า เราทำงานผิดพลาด เราเป็นตัวถ่วงเขา คือการที่เราไม่ได้รู้จักกันมาก่อน มันทำให้ปูเป้คิด จินตนาการไปเยอะ มันก็เลยทำให้ปูเป้ต้องทำการบ้าน เราจะทำยังไงไม่ให้ไปเป็นตัวถ่วงของพี่บิ๊กเอ็ม รวมถึงนักแสดงทุกคนและทีมงานด้วยค่ะ ก็คิดเยอะและทำการบ้านหนักพอสมควร”

เล่นเลิฟซีนด้วยกันเป็นอย่างไรบ้าง?

“ตอนเล่นฉากเลิฟซีน พี่บิ๊กเอ็มสุภาพค่ะ มีการขอโทษก่อน มีการละลายพฤติกรรม มีการพูดคุยด้วย ไม่ล่วงเกิน ไม่เอาเปรียบค่ะ ก็โอเค เป็นการร่วมงาน และเป็นการทำงานที่ดีค่ะ และอาหมี (โชติรัตน์ รักเริ่มวงษ์) ผู้กำกับก็พยายามเซฟนักแสดง เซฟปูเป้มากที่สุด เพราะว่าด้วยการที่เราเป็นผู้หญิงด้วย เป็นเด็กด้วย คือทุกๆซีนที่ถ่ายไปคือคุ้มค่าค่ะ”.

>> อ่านเรื่องย่อนิยายทุกเรื่อง คลิกที่นี่ <<