เปิ้ล วิวรรธน์ เตือน อ.ชลธี ถ้าไม่ถอย ค่ายชัวร์ฯ พร้อมสู้ในศาล


ให้คะแนน


แชร์

เปิ้ล วิวรรธน์ เตือน อ.ชลธี ถ้าไม่ถอย ค่ายชัวร์ฯ พร้อมสู้ในศาล

อยู่ๆ ก็ถูก อ.ชลธี ธารทอง นักแต่งเพลงชื่อดัง และศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง ปี 2542 แจ้งความเอาผิด “ชัวร์ เอ็นเตอร์เทนเม้นท์” จากกรณีที่ทางค่ายชัวร์เอนเตอร์เทนเมนต์ ละเมิดลิขสิทธิ์ นำบทเพลงที่แต่งขึ้น นำไปทำซ้ำ ดัดแปลง เผยแพร่เพื่อการค้า โดยไม่ได้รับอนุญาต พร้อมเตรียมฟ้องเรียกร้องค่าเสียหายเป็นเงินจำนวน 50 ล้านบาท ซึ่งทางด้าน เปิ้ล วิวรรธน์ ไทยวัฒนานนท์ ผู้บริหารค่าย “ชัวร์ เอ็นเตอร์เทนเม้นท์” ได้ออกมาโต้กลับว่า

เปิ้ล วิวรรธน์

ผู้บริหารค่าย ชัวร์ฯ

“เรื่องมันเกิดจากว่า อ.ชลธี ไปเจอบทเพลง ในแพลตฟอร์มยูทูบ ซึ่งยูทูบมันเป็นอีกรูปแบบนึงของดิจิตอล ในวงการรู้อยู่แล้วว่าการเอาเพลงไปขึ้นยูทูบ มันก็คือเพลงเดิม เพราะฉะนั้นเรามีสิทธิ์เต็มที่ ที่จะใช้เวอร์ชั่นนั้น กับแพลตฟอร์มอะไรก็ได้กับเพลงเดิม นักร้องเดิม ดนตรีเดิม ถ้าไม่เข้าใจเรื่องนี้ก็จะเถียงกันไม่จบ เพราะว่าทุกคนทำแบบนี้ ในวงการทุกบริษัท
อันที่สองมันมีเรื่องของสัญญา 2 แบบ แบบที่หนึ่งเป็นแบบซื้อครั้งเดียว สมมุติว่าซื้อเพลงเดิม นักร้องคนเดิม แต่ถ้าเราจะเปลี่ยนเสียงกีต้าร์มาเป็นไวโอลิน ก็ต้องซื้อใหม่อีกครั้ง หรือว่าดนตรีเดิม นักร้องคนเดิมมาร้องใหม่ ก็ต้องซื้ออีกครั้ง อีกแบบเป็นการซื้อขาด หรือว่าเป็นการซื้อแบบโอนสิทธิ์ให้
จะเล่าว่าทำไมถึงมีการซื้อขาด สมัยก่อนการซื้อเพลงจะซื้อเป็นชุด ตอนที่ทำเป็นเทปคาสเซ็ท ได้เงินก้อนหนึ่งไป หลายๆทีบางครั้งครูเพลงก็มาเบิกเงินก่อน สำหรับเพลงชุดต่อไป แกอยากจะได้เงินก้อน ก็มาถามว่าซื้อขาดมั้ย

สมมุติว่าเขาอยากได้เงิน 3 แสน แต่ว่าตอนแรกการซื้อขายต่อชุด มันได้อยู่ประมาณ 6 หมื่น แต่เขาเบิกไปก่อนแล้ว 9 หมื่น คราวนี้ก็คุยกันว่าซื้อขาดไปเลย จากก่อนเราซื้อเพลงล่ะ 5 พัน ถ้าเป็นขายขาดเราก็ต้องซื้อประมาณเพลง 1-2 หมื่น แต่ล่ะเพลงราคาไม่เท่ากัน
พอราคามันมากขึ้น แล้วมันเป็นความจำเป็น ครูเพลงเขาต้องการใช้เงิน เราก็อยากที่จะช่วย อีกอย่างนึงถ้าเราไม่ซื้อ ครูเพลงเขาก็จะเอาไปขายกับบริษัทอื่น แล้วเพลงคาสเซ็ท ชุดหนึ่งมันมี 12 เพลง มันไม่มีภาพ เราจะถ่าย 2 เพลงเพื่อไปออนแอร์ เพลงอื่นๆ อาจจะไม่มีใครรู้จักเลย เมื่อก่อนเขาเรียกว่าเหมาเข่ง จ่ายเงินก้อนหนึ่ง โดยมีการหักหนี้เก่าออกไป แล้วเขาก็ได้เงินก้อนหนึ่งไปใช้ส่วนหนึ่ง มันเป็นแบบนี้จึงเกิดการขายขาด
มาหลังๆ เราโดนบ่อย เวลามาเราก็จะถามว่าจะขายแบบครั้งเดียว หรือว่าขายขาดก็จะอีกเวอร์ชั่นนึง ครูเพลงสอนให้ค่ายเพลงซื้อขาด เพราะว่าเพลงหลายเพลงที่เราซื้อมาไม่มีคนรู้จัก แต่ที่เราต้องซื้อขาด เพลงว่ามันมีเพลงดัง ที่มีคุณภาพอยู่ในเข่งนั้นด้วย เพลงสองเพลง อย่างเช่นเพลง “เรารอเขาลืม” ออกไปยอดขึ้นเป็นล้านแล้ว แต่เพลงรอบข้างที่ครูเพลงเอามาขาย ไม่มีใครรู้จัก เราก็ต้องจำเป็น เพราะว่าเขาจำเป็นต้องใช้เงินก้อน
อย่างเขามาเบิกเงินล้วนหน้า 8 หมื่น แล้วเขาต้องการเงิน 2.5 แสนบาท ถ้าเราไม่เอาเพลงอื่นด้วย เขาขายเราเขาก็ไม่เหลืออะไร เขาก็ไม่ขาย เขาต้องการเงิน เขาก็เลยมาเสนอแบบยกเข่งประเด็นมันเป็นแบบนี้

เปิ้ล วิวรรธน์

อ.ชลธี ธารทอง

เรื่องมันมีอยู่ว่าอาจารย์เขาไม่ได้ดูสัญญา เพราะว่าสัญญาทั้งหมดอยู่บ้านเขา แล้วบริษัทเราทำงานมาจะ 40 ปี ไม่เคยมีปัญหา ทุกครั้งที่ทำต้องเช็คสัญญาก่อน ยิ่งเป็นเพลงเก่า ต้องเช็คสัญญา อย่างที่เราทำชัวร์ชะชะช่า ซึ่งเกิดตอนปี 2543 ทุกครั้งที่เราจะทำเพลง เราต้องเช็คสัญญาทีล่ะเพลงว่าอันนี้เป็นแบบซื้อขาด หรือว่าต้องซื้อใหม่ บางเพลงดังมาก เราต้องซื้อใหม่ ก็ต้องซื้อ
มันเคยมีปัญหาแบบนี้มาครั้งหนึ่ง ที่ว่าครูเพลงออกมาร้องเรียนว่า ถูกค่ายเพลงเอาเพลงไปขึ้นเอ็มพี3 ในแพลตฟอร์มของลิงค์โทน ซึ่งมันก็จบเข้าใจกันแล้ว เพราะว่ามันก็เป็นเพลงเดิม คราวนี้อาจารย์ก็มาแบบเดิม แกคิดว่ามันไม่ได้ อย่างที่สอง แกเห็นว่าบางเพลงเราเอาไปทำใหม่ อย่างเช่นเพลงที่เราเอาไปทำ ชัวร์ชะชะช่า ซึ่งเพลงที่เราเอามาทำ ก็เป็นเพลงที่เราซื้อขาดมา บางเพลงที่เราชอบมากๆ เราก็ซื้อใหม่ ประเด็นมีแค่นี้เอง
ประเด็นมีแค่นี้ แต่คราวนี้ด้วยวัยของอาจารย์ 83 ปี อาจจะหลงลืม เพราะว่าส่วนตัวผมยังต้องดูกระดาษทุกครั้งที่จะทำ มาดูสัญญาว่าอันนี้เป็ฯแบบไหน เพราะเราจำไม่ได้ คิดว่าถ้าผิดพลาดที่หลงลืม อันนี้ก็ไม่เป็นไร แต่ถ้ายังยืนยันที่จะฟ้อง ทางชัวร์ผู้ใหญ่บอกว่าเสียหายนะ เพราะว่าอ.ชลธี เป็นศิลปินแห่งชาติ เราก็คงต้องป้องกันตัว ถ้าถอนไปโดยดี เราก็คงไม่ทำอะไร แต่ถ้ายืนยันจะฟ้อง เขาเสียหายเรื่องรายได้ แต่ทางชัวร์เสียหายเรื่องชื่อเสียง ถ้าเกิดฟ้อง เราก็จะลงไปเล่นด้วย เพื่อจะได้พิสูจน์ ให้ความบริสุทธิ์นั้นกลับมา”

ได้คุยกับอาจารย์บ้างหรือยัง
“ไม่คุยเลย”

ดูข่าวต้นฉบับ

ที่มา : https://www.khaosod.co.th/entertainment/news_4407920
ขอขอบคุณ : https://www.khaosod.co.th/entertainment/news_4407920