เจ็บทั้งคู่ "กัน" เผยเลิก "มารี" ไม่เกี่ยวใคร ผิดเองที่สู้ไม่พอ ยอมรับหมดลุ้นรีเทิร์น


ให้คะแนน


แชร์

เคยร้องไห้มั้ยเพราะก่อนหน้านี้เราพยายามทุกอย่างแล้ว?

“(นิ่ง) ครับผม”

มารีบอกว่ามูฟออนจากจุดที่เจ็บ?

“คำว่าจุดที่เจ็บ ผมไม่แน่ใจว่าเค้าหมายถึงอะไร สำหรับผมเราเจ็บกันทั้งคู่ คือผมเต็มที่มากๆและผมก็ไม่คิดว่าจะมีวันนี้เกิดขึ้น”

มารีโพสต์ว่าควบคุมมุมมองคนอื่นไม่ได้?

“อาจจะเป็นผมรึเปล่าเพราะว่าคนรักกันจะมีมุมมองที่แตกต่างกันของคนสองคนและปัญหาที่เกิดขึ้น คือถ้ามองตรงกันก็น่าจะไปต่อได้ แต่ครั้งนี้ผมพยายามลองกลับมา ลองสู้แล้ว และคิดว่ามันไม่ได้ ก็เลยได้แค่นี้ครับ”

ยื้อจนถึงที่สุดแล้ว?

“ไม่ใช้คำว่ายื้อดีกว่าครับ เป็นไปตามสิ่งที่มันน่าจะเป็นมากกว่า”

ครั้งนี้คนก็จะลุ้นว่ามีโอกาสกลับไปมั้ย?

“คงไม่ได้กลับแล้วครับครั้งนี้ เพราะเราเต็มที่กันแล้วจริงๆกับสิ่งที่เราพยายามแก้ปัญหากันมาทั้งสองคน ยืนยันว่าไม่เกี่ยวกับคนที่สามใดๆทั้งสิ้น ความรักเป็นธรรมดาครับ มีรักก็ต้องมีเลิก แล้วถ้าเราไม่ได้ทำอะไรผิด เราไม่ได้มีใคร ผมว่ามันคงเป็นสิ่งที่ คือฟ้าคงไม่กำหนดให้เรามาคู่กันแค่นั้นเอง”

อยากบอกอะไรคนที่อาจจะไม่รู้สาเหตุแต่เราถูกต่อว่าเยอะ?

“ไม่เป็นไรครับ ก็ว่าผมได้ อย่าว่าน้อง เพราะผมก็ผิดที่สู้ไม่พอ คือสู้สำหรับผมก็ที่สุดแล้ว แต่มุมคนอื่นอาจจะมองว่าเราสู้ได้อีกหรือเปล่า ทำไมไม่สู้อีก ก็ผมผิดที่ผมอาจจะสู้ไม่พอ”

ปัญหาไม่ได้เกิดจากเรื่องครอบครัว?

“ไม่เกี่ยวกับครอบครัวครับ ไม่เกี่ยวกับคนที่สาม เป็นเรื่องของเรา”

จะมีผลกระทบกับเรื่องงานมั้ยเพราะเราอยู่ค่ายเดียวกัน?

“ไม่น่าจะมีครับ ผมเองยังรู้สึกดีกับน้องอยู่ ยังให้กำลังใจน้องได้เสมอ เป็นพี่น้องกันได้เสมอ”

ถอยออกมาวันนี้ใช้คำว่ายังรักอยู่ได้มั้ย?

“ไม่อยากใช้คำนี้ไปตีกรอบให้เค้า เค้าก็มูฟออน เค้าควรจะเจอสิ่งที่ดี”

มุมมองความรักเปลี่ยนมั้ย?

“ไม่เปลี่ยนหรอกครับ มันก็โตขึ้นทุกวัน ความรักครั้งนี้มันก็เป็นสิ่งที่ผมมีความสุขมากๆ เป็นความสุขที่เกิดขึ้นในชีวิตผมครั้งนึง ก็จะจำแต่สิ่งที่ดีๆครับ”

ครอบครัวให้กำลังใจยังไงบ้าง?

“แน่นอนครับ ท่านอยู่เคียงข้างเสมอ ผมเชื่อว่าพ่อแม่ทุกคนเป็นห่วงลูก เพราะเค้ารู้ว่าเรารักกันมากแค่ไหน แล้ววันนึงเราไม่ได้ไปต่อ เค้าก็ให้กำลังใจ”.

ดูข่าวต้นฉบับ

ที่มา : https://www.thairath.co.th/entertain/news/1910420
ขอขอบคุณ : https://www.thairath.co.th/entertain/news/1910420