หนุ่ม ยืนยันไม่ได้กีดกัน ติ๊ก เจอลูก ไร้โอกาสเป็นครอบครัวเหมือนเดิม


ให้คะแนน


แชร์

ยังเป็นประเด็นร้อนที่หลายคนจับตามอง สำหรับกรณีการหย่าของพระเอก-นักร้องดัง หนุ่ม ศรราม เทพพิทักษ์ และนักแสดงสาว ติ๊ก กนิษฐรินทร์ พัชรภักดีโชติ หรือ ติ๊ก บิ๊กบราเธอร์ ซึ่งสาเหตุมาจากกรณีที่ติ๊กติดการพนัน และปัญหาบานปลายมากขึ้นเรื่อยๆ จนทำให้หนุ่มตัดสินใจขอหย่าและให้ติ๊กแยกบ้านออกไป

ซึ่งฝ่ายติ๊กเองก็ติดต่อมาเพื่อขอเจอ น้องวีจิ ลูกสาว และหนุ่มยอมให้เจอลูก แต่ให้ติดต่อผ่านทางทนายความ ล่าสุด หนุ่ม ศรราม มาร่วมงาน Baby Hills Store @Megabangna ณ ลานกิจกรรม ชั้น 2 เมกาบางนา นักข่าวเลยถามถึงเรื่องดังกล่าว

หนุ่ม ศรราม หนุ่ม ศรราม

วันนี้พาน้องออกงาน น้องตื่นเต้นมั้ย?
“ช่วงโควิดน้องก็ไม่ได้ออกนะครับ แต่ก่อนโควิดก็มีไปออกรายการบ้าง ไปว่ายน้ำ ไม่ได้ตื่นเต้นอะไรครับ เมื่อวานเพิ่งพาน้องไปกองถ่ายมา ถามว่าน้องกับพ่อใครตื่นเต้นกว่ากัน ผมว่าพี่ๆ ตื่นเต้นมากกว่าผมรึเปล่า (ยิ้ม)”

วันนี้ได้บอกน้องว่ามาออกงานมั้ย?
“อ๋อ บอกครับ ปะป๊าก็บอกวีจิตลอดครับ แต่เมื่อกี้ก็ให้ทานข้าวก่อน เพราะเป็นเวลาทานข้าวของเขาพอดี พอมาเจอคนเยอะๆ เขาชอบนะครับ เหมือนเวลาที่ได้เจอเด็กๆ เขาได้เจอสังคมของเขา เขารู้สึกอยากเดินเข้าไปเล่นด้วย เริ่มจะโตแล้ว 1 ขวบ 5 เดือน”

ที่พาไปกองถ่ายละครเพราะอยากให้เรียนรู้ชีวิตคุณพ่อ?
“พาไปกองเพราะว่ามันเป็นสถานที่ที่มีพื้นที่ให้เดินได้ เมื่อวานถ่ายที่สตูดิโอชมเชย ผมมีแค่ 2 ฉาก ก็เลยพาไปตั้งแต่เช้า ถ่ายเสร็จก็ทานข้าวต่อ ก็ใช้เวลาอยู่กับลูกครับ (เป็นวิถีชีวิตของพ่อเลี้ยงเดี่ยว?) ก็เป็นชีวิตปกติครับ ตั้งแต่มีลูกก็เป็นแบบนี้ไปแล้ว พอทำงานเสร็จก็กลับไปดูลูก”

ไปไหนก็พาลูกไปตลอด?
“อ๋อ ไม่ครับ เราก็ต้องมีเวลาของเราบ้าง ผมไปทำงานหรือต้องไปคุยงาน เวลาพักของผมก็มีบ้าง อาจจะให้พี่เลี้ยงคอยดู ถ้าเกิดผมมีเวลาจะอยู่กับเขาที่บ้านตอนเช้า ก็เจอกันก่อนแล้วค่อยออกไปทำงาน เพราะส่วนใหญ่ก็ต้องทำงานเกือบทุกวัน”

พัฒนาการน้องเป็นไงบ้าง?
“พัฒนาการน้องเป็นไปตามวัยนะครับ เริ่มที่จะพูด เริ่มเรียกป่ะป๊า เรียกหม่ำๆ เรียกวีจิจ๋าก็ตอบจ้ะได้บ้างแล้ว เริ่มดูแฟลชการ์ด เล่นแฟลชการ์ด รู้จักสี ก็บอกเขาว่าหนูเกิดวันจันทร์ เกิดปีหมู”

ถามถึงเรื่องปัญหาคุณแม่ของน้อง ตอนนี้เป็นยังไงบ้าง?
“ต้องขอเรียนแบบนี้ครับ กับปัญหาที่เกิดในทุกเรื่องมันเป็นปัญหาที่หนัก เป็นปัญหาที่มีผลกระทบต่อชีวิตผมกับลูก แต่ละเรื่องมันเป็นเรื่องที่ผมไม่ได้มีความปรารถนาจะให้เกิดในชีวิตผมกับลูก แต่ผมก็ได้พยายามแก้ไขประคับประคองทุกๆ เรื่องอย่างดีที่สุด

จนสุดท้ายปัญหามันก็ไม่จบ ผลลัพธ์มันก็เลยต้องออกมาเป็นแบบนี้ ซึ่งปัญหาเกิดจากอะไร ทุกเรื่องมันเกิดเพราะอะไร ผมเชื่อว่ามันมีคำตอบในตัวของมันอยู่แล้ว ผมเองก็ทุกข์นะครับ ไม่ได้มีความสุขในทุกวัน สิ่งที่กำลังจะบอกความรู้สึกกับทุกคนคือว่า เราต้องเอาเรื่องจริงที่เกิดขึ้นมาเป็นเหตุผลเพื่อรองรับการตัดสินใจ เราไม่สามารถเอาแม้กระทั่งความรู้สึกของเรามาตัดสินใจกับเรื่องที่มันเกิดขึ้นได้

เพราะฉะนั้นต้องขออนุญาตสำหรับความคิดเห็นหรือกระแสสังคมอื่นๆ ต้องขออนุญาตละเว้นจริงๆ เพราะเรื่องนี้เราต้องใช้ข้อเท็จจริงเป็นหลัก แล้วต้องมีวีจิเป็นตัวตั้ง คือวีจิต้องสำคัญที่สุด เพราะฉะนั้นทุกสิ่งทุกอย่างที่ผมจะต้องปฏิบัติและทำในวันนี้ มันจะต้องเป็นผลดีต่อลูกมากที่สุด หรือกระทบกระเทือนต่อความรู้สึกของลูกน้อยที่สุด ทั้งในวันนี้ วันข้างหน้า และในอนาคตของลูกครับ”

ติ๊ก บิ๊กบราเธอร์ ขอบคุณภาพจากไอจี @mama.veeji ติ๊ก บิ๊กบราเธอร์ ขอบคุณภาพจากไอจี @mama.veeji

แต่ดูการตัดสินใจของเราค่อนข้างเด็ดเดี่ยวมาก มันเป็นฟางเส้นสุดท้ายแล้วใช่มั้ยที่ทำให้ตัดสินใจแบบนี้?
“ผมเชื่อว่าเมื่อกี้ผมตอบครบถ้วนแล้วนะ แต่ในส่วนคุณแม่ ผมก็ต้องขอเรียนให้ทราบว่า เรื่องการที่ติ๊กจะมาพบลูกผมไม่ได้กีดกัน แต่ผมไม่ว่างจริงๆ ชีวิตมันก็ต้องเริ่มนับ 1 ใหม่ มันเริ่มต้นใหม่ ผมต้องทำงานใช้หนี้ ต้องแบ่งเงินส่วนนึงเก็บไว้ให้ลูก และยังต้องดูแลแม่ที่แก่ลงทุกวัน ผมเลยมีความจำเป็นต้องให้ที่ปรึกษาทางกฎหมายประสานกับติ๊กว่าเราจะมีแนวทางในการที่จะมาพบลูกว่าเป็นอย่างไรครับ”

เป็นข้อตกลงทั้งหมดเลยใช่มั้ยว่าระยะยาวจะดูแลลูกยังไง?
“ก็ต้องคุยกันครับ เพราะตอนนี้ติ๊กก็ประสานกลับมาแล้ว และเดี๋ยวดูวันว่างที่ผมไม่ทำงาน ก็คงจะได้มีโอกาสเจอกัน คุยกันว่าแนวทางไหน ที่เราจะสามารถทำหน้าที่เป็นพ่อและแม่เพื่อให้วีจิได้ดีที่สุด (ยังสามารถเจอหน้าติ๊กได้?) เจอได้ครับ ผมไม่ได้กีดกันอะไร”

ที่เราบอกว่าทำงานใช้หนี้ คือใช้หนี้ในส่วนของติ๊กหรือของใคร?
“ผมขออนุญาตไม่ตอบดีกว่าครับ”

แฟนๆ ส่งกำลังใจให้เราเยอะมาก?
“ก็ขอบพระคุณครับ (ยกมือไหว้) สำหรับกำลังใจที่ให้ผม ให้ทั้งติ๊ก ให้วีจิ และให้ครอบครัวเราทุกคน ขอบพระคุณมากๆ ครับ”

โอกาสที่จะกลับมาเป็นครอบครัวแบบเดิมอีกครั้ง?
“คงไม่ได้ครับ เพราะว่าผมได้แสดงเกี่ยวกับเรื่องของเอกสารที่ชัดเจนระบุไว้ตั้งแต่ 20 ม.ค. แล้ว”

เราจะให้อภัยในสิ่งที่เขาทำผิดพลาดไปมั้ย?
“ผมไม่พูดถึงดีกว่าครับ”

เรื่องครอบครัวให้ทนายเป็นคนจัดการอย่างเดียว?
“ก็ให้ทนายเป็นคนประสานเพราะอย่างที่ผมบอกว่าผมไม่ว่าง ผมถ่ายละครเกือบทุกวัน (เป็นแค่การตกลงกัน ไม่ได้เป็นคดีความอะไร หาข้อตกลงร่วมกัน?) ใช่ครับ ก็แค่ประสานว่าลักษณะของการเจอลูกว่าผมว่างวันไหน อะไรยังไง”

เราเป็นคนเลี้ยงน้องวีจิคนเดียว?
“ตรงนี้ยังหาข้อสรุปกันไม่ได้ เพียงแต่ว่าติ๊กประสานกลับมาแค่ว่าเราระบุวันเวลาที่มาเจอกัน แล้วมาคุยกันว่าลักษณะที่เราจะดูลูกจะเป็นยังไง”

ก็คือติดต่อผ่านทนายอย่างเดียว?
“ก็คุยกับผมนี่แหละครับ ผมก็ลงไอจีสตอรี่ไปแล้วว่ามีการคุยกับผม ก็บอกว่าเจอลูกได้ แต่ว่าให้ติดต่อทางพี่ที่ผมให้ประสานมา”

แสดงว่าตอนนี้ติ๊กได้มาเจอลูกแล้ว?
“ยังครับ ยังไม่ได้เจอ เพราะว่าผมยังไม่ได้มีเวลาเจอครับ”

แบบนี้ใช้คำว่าคุณพ่อเลี้ยงเดี่ยวได้มั้ย เพราะในแฮชแท็กเราเขียนว่าซามูไรพ่อลูกอ่อน?
“(หัวเราะ) ก็ใช้คำว่าซามูไรพ่อลูกอ่อนดีกว่า คุณพ่อเลี้ยงเดี่ยวน่าจะใช้กันเยอะแล้วครับ”

เหนื่อยไหมเลี้ยงลูกคนเดียว แล้วเขาอยู่ในช่วงกำลังโต?
“อย่างที่เรียนไปในเบื้องต้นครับว่า ทุกสิ่งทุกอย่างมันจะต้องไม่ใช่ความรู้สึกนึกคิดของเรา มันจะต้องเป็นสิ่งที่เอาเขาเป็นที่ตั้งที่สำคัญสุด เพราะฉะนั้นเราต้องปรับตามเขา เราต้องทำเพื่อเขาครับ”

ช่วงนี้มีงานอะไรก็รับหมดเลย?
“ตอนนี้มันไม่ใช่รับหมดเลยครับ เพราะว่าที่ถ่ายค้างอยู่มี 2 เรื่อง คือเรื่องเพลิงภริยา ช่อง 8 จะออนแอร์สิ้นเดือนหน้า และก็บังเกิดเกล้า ออนแอร์ทางช่องอมรินทร์ทีวี ต้น พ.ย.นี้ครับ”

ไม่เหนื่อยเกินไปใช่มั้ย?
“ผมต้องเลี้ยงวีจิจนโตครับ (ยอมทำงานหนักเพื่อลูก?) คือรู้ว่าตั้งแต่มีเขา เราก็มีสัญชาตญาณความเป็นพ่ออยู่แล้วครับ”.

อ่านเพิ่มเติม…

ดูข่าวต้นฉบับ

ที่มา : https://www.thairath.co.th/entertain/news/1932619
ขอขอบคุณ : https://www.thairath.co.th/entertain/news/1932619