นนกุล เจอพิษโควิด จีนห้ามนักแสดงต่างชาติเข้าประเทศ
นนกุล เจอพิษโควิด จีนห้ามนักแสดงต่างชาติเข้าประเทศ
เรียกว่าได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 ไปเต็มๆ สำหรับดาราหนุ่ม นนกุล ชานน สันตินธรกุล ที่ก่อนหน้าเจ้าตัวไปปักหลักทำงานที่จีนเป็นหลัก แต่ด้วยสถานการณ์ดังกล่าวทำให้ดาราหนุ่มยังไม่สามารถเดินทางกลับไปทำงานที่จีนได้
นนกุล
ล่าสุดวันที่ 23 ก.ย. มีโอกาสได้เจอ นนกุล ในงาน Xtraordinary 2021 LINEUP ที่ โรงภาพยนตร์สยามภาวลัย ชั้น 6 ศูนย์การค้าสยามพารากอน จึงสอบถามถึงผลกระทบที่เกิดขึ้น รวมถึงอัพเดตแพลนการทำงานในช่วงนี้
ก่อนหน้านี้ทางการทำงานของเราอยู่ที่จีน พอเจอสถานการณ์โควิด-19 กระทบเยอะไหม?
“กระทบหนักเลยครับ(หัวเราะ) ตอนนี้คืออยู่ที่ไทยยาวเลย ไม่มีกำหนดว่าจะได้กลับไปเมื่อไหร่ ถามว่าต้องแคนเซิลไปกี่งาน จริงๆ ผมไม่ทราบเหมือนกัน แต่ว่ามันมี 2 เรื่องที่กำลังจะได้ถ่ายแต่ว่าช่วงนั้นบินกลับมาไทยปุ๊บแล้วมันมีโควิดพอดีก็เลยต้องเบรกไปเลย”
ทางจีนว่ายังไงบ้าง?
“จริงๆ ส่วนตัวผมยังเป็นฟรีแลนซ์อยู่ที่โน่น ยังรับเป็นจ๊อบๆ อยู่ เลยไม่ได้มีตารางงานชัดเจนว่าจะเป็นอย่างนี้นะ”
แล้วกับเรื่องที่ค้างอยู่ได้เซ็นสัญญาไปเรียบร้อยไหมว่า ถ้าหมดโควิดยังจะสามารถกลับไปเล่นได้แน่ๆ?
“ประเด็นคือยัง เลยยังไม่แน่ใจว่าเอ๊ะ! หลังจากนี้จะเป็นยังไง เท่าที่ทราบที่โน่นผมได้ยินมาว่าเหมือนบางเรื่องจะเปิดกองถ่ายทำบ้างแล้ว แต่ว่าตอนนี้เขายังไม่อนุญาตให้นักแสดงต่างชาติบินกลับเข้าไปในประเทศ อันนี้คือเท่าที่ผมได้ยินมาแต่ว่าผมไม่รู้ตื้นลึกหนาบางมาก”
น่ารัก
ส่วนตัวมีความกังวลไหม ถ้าเกิดว่าสถานการณ์มันยังหยุดเยอะไปกว่านี้ ตัวเราอาจจะไม่ได้งาน?
“กังวลบ้างครับ แต่ว่าสุดท้ายแล้วก็มันทำอะไรไม่ได้ เดี๋ยวต้องดูอีกที”
แล้วอย่างนี้มีวิธีการรักษาฐานแฟนคลับที่จีนยังไงบ้าง?
“ตอนนี้ก็ต้องขยันลงเหว่ยป๋อหรือว่ามีไลฟ์บ้าง มันเป็นวิธีเดียวที่เราจะสื่อสารกับแฟนคลับที่นู่นได้”
มีแผนสำรองไหมว่าถ้าเกิดงานที่โน่นได้รับผลกระทบมาก อาจจะต้องเปลี่ยนมารับงานที่เมืองไทยไหม?
“จริงๆ ตั้งแต่ตอนที่ทำงานที่โน่นเราก็มีบินกลับมาไทยประมาณหนึ่งอยู่แล้วครับ แล้วเราค่อนข้างมีเอเจนซี่ใดใด แต่ว่าก็ยังไม่ได้เซ็นสัญญากับที่ไหนนะครับ ซึ่งพอเรามีคอนแท็กต์ตรงนี้ไว้แล้วส่วนตัวก็ค่อนข้างวางใจประมาณหนึ่งว่า หลังจากที่สถานการณ์มันคลี่คลายแล้วเนี่ยเราน่าจะยังกลับไปได้”
การตัดสินใจทำงานที่เมืองไทยมันยากขึ้นไหม เช่นถ้าเกิดว่าเราตัดสินใจรับงานไปแล้ว แล้วที่โน่นบังเอิญเกิดเปิดประเทศขึ้นมา?
“ยากนิดนึงครับ ตรงนี้เป็นปัญหาเหมือนกันประเด็นหลักๆ ที่ผมรับละครไทยไม่ค่อยได้ เพราะว่าไทม์ไลน์ที่ถ่ายที่โน่นกับที่นี่มันต่างกันมาก ประเทศไทยจะถ่ายพฤหัส-ศุกร์-เสาร์-อาทิตย์ หรือว่าจันทร์-อังคาร-พุธ แต่ที่โน่นเขาจะถ่าย 7 วันเลยสามสี่เดือน เพราะฉะนั้นมันเหมือนกับไม่สามารถทำให้มันลงล็อกกันได้”
ผลงานในจีน
แสดงว่าไม่สามารถรับงานยาวๆ ที่เมืองไทยได้เลย?
“ใช่ แต่ว่าสถานการณ์ตอนนี้ก็รับได้นะครับผม ติดต่อมาได้(หัวเราะ)”
แบบนี้จะไม่เป็นการเสียโอกาสใช่ไหม พอเราลังเลว่าถ้ารับแล้วจะไปซ้อนกับทางโน้นหรือเปล่า?
“จริงๆ เราดูว่าอะไรติดต่อเข้ามาก่อน แล้วเราสนใจ แล้วเราเซ็นสัญญาเรียบร้อย อันนี้ก็ยึดตามงาน เราก็เลยไม่ได้กังวลขนาดนั้นว่ามันจะเป็นการเสียโอกาสอะไรหรือเปล่า”
จริงๆ พอจะมีแนวโน้มระยะเวลาไหม ว่าจะได้กลับไปทำงานที่จีนอีกทีเมื่อไหร่?
“ไม่มีเลยครับ แต่ถ้าจากที่ฟังข่าวใดใดคิดว่าอาจจะเป็นกลางปีหน้าเลย”
การเป็นฟรีแลนซ์มันลำบากไหมกับการที่ต้องหางานเอง?
“ลำบากครับ ลำบากตรงที่ว่าพอเราไม่ได้อยู่ในสังกัดเขา บางที่อาจจะทำให้เขารู้สึกว่าเขาจะทุ่มทุนกับศิลปินคนนี้ขนาดไหน จริงๆ อันนี้ผมคิดเอง แต่เราก็คิดว่าอาจจะเป็นอย่างนั้นเหมือนกัน”
แพลนระยะสั้นกับการทำงานในเมืองไทยช่วงนี้มีอะไรบ้าง?
“มีซีรีส์ 2 เรื่องครับที่จะเริ่มถ่ายทำตุลาคมนี้ สำหรับปีนี้ก็จะมีแค่ 2 เรื่องนี้ซึ่งผมเล่นเป็นตัวหลักเลย เรื่องหนึ่งก็จะเป็นของจีเอ็มเอ็ม แนวรักคอมเมดี้ ส่วนของอีกที่หนึ่งอาจจะยังบอกไม่ได้ครับ แต่เป็นแนวทริลเลอร์ ซึ่งน่าจะได้ชมกันปีหน้าครับ”
ค่าตัวจะมีการเปลี่ยนแปลงไหม อยู่จีนน่าจะเป็นระดับหนึ่ง ส่วนไทยก็น่าจะระดับหนึ่งหรือเปล่า?
“ประมาณหนึ่งครับ แต่ก็ไม่ได้ถึงขั้นโอ้โห! เว้อวังมาก”
พอมันเกิดวิกฤตนี้รายได้มันหดหายไปเยอะไหม?
“กระทบเยอะอยู่แล้วครับ แทบจะเรียกว่าครึ่งปีที่ผ่านมาก็คือเหมือนกับไม่มีรายได้เลย ดีที่เราเก็บออมไว้(หัวเราะ)”
ขอบคุณรูปจากไอจี : nonkul
ดูข่าวต้นฉบับ
ที่มา : https://www.khaosod.co.th/entertainment/news_4972893
ขอขอบคุณ : https://www.khaosod.co.th/entertainment/news_4972893
