ฮือฮาสนั่นโลกออนไลน์มาหลายวันแล้ว กับหนังโปรเจกต์ใหม่ น่าจะไฉไล กระแสตอบรับเรียกว่าแรงๆ แรงเกินคาด กับแฮชแท็กทางทวิตเตอร์ #เราคือนายทุน #ภาพยนตร์ของประชาชน เตรียมสร้างโดย ต้อม ยุทธเลิศ สิปปภาค

ล่าสุดหนังโดนแบน เรื่อง ราชิดา หรือ ปิตุภูมิ พรมแดนแห่งรัก Fatherland ผลงานกำกับของ ต้อม ยุทธเลิศ นำโดยดาวดังเยอะแยะ เช่น ใหม่ ดาวิกา, อนันดา เอเวอร์ริ่งแฮม, เวียร์ ศุกลวัฒน์, เบลล่า ราณี ได้ฉายรอบพิเศษไปแล้ว ที่ห้องประชุม อนุสรณ์สถาน 14 ตุลา สี่แยกคอกวัว เมื่อค่ำวันเสาร์ที่ 19 กันยายน หลังจากหนังโดนแบน! นานมากกว่า 7 ปี

ซึ่งไม่กี่วันหลังจากการเปิดรับบรรดานายทุนในทวิตเตอร์ โดยการติด #เราคือนายทุน #ภาพยนตร์ของประชาชน ด้านมารีญาก็ได้ทวิตข้อความนี้บนทวิตเตอร์ส่วนตัว จนเกิดเป็นประเด็นร้อนขึ้นมา

มารีญา ได้ทวีตบอกเลยว่า “ขอชี้แจงเรื่อง #ภาพยนตร์ของประชาชน ที่ประกาศระดมทุนอยู่ตอนนี้นะคะ ว่ามารีญายังไม่ได้รับการติดต่อ และทาบทามให้แสดงหนังเรื่องนี้ ขอให้ทุกคนพิจารณาและอ่านรายละเอียดให้ดี ก่อนตัดสินใจสมทบทุนนะคะ”

บันเทิงไทยรัฐออนไลน์ ได้สอบถามไปที่ ต้อม ยุทธเลิศ ก็ได้คำตอบกลับมาว่า “คงเป็นการเข้าใจผิดกันน่ะครับ โครงการนายทุน100บาทสร้างหนัง100ล้านเป็นโครงการของเราจริง แต่ต้นความคิดที่จะเอามารีญามาเล่นนั้นไม่ใช่ความคิดของเรา มันเป็นความคิดของทวิตเตอร์อันนึงที่พูดเรื่องหนังระดมทุนขึ้นมา โดยมีสี่ภาพนักแสดง ที่เค้าอยากเห็นในหนังโดยขอว่า คนเป็นผู้กำกับต้องเป็น ต้อม ยุทธเลิศ

“เราคิดว่า ที่มันเป็นประเด็นขึ้นมา คงเพราะน้องคงไปเห็นที่สื่อเอาภาพนักแสดงทั้งสี่ ซึ่งในนั้นมีภาพมารีญามารวม พร้อมกับการระดมทุน เลยดูเหมือนเราเอาน้องมาอ้างโดยทางเรายังไม่ติดต่อ จริงๆ เราก็ยังไม่ได้ติดต่อใคร แต่ทรายกับแอมมี่รู้จักกัน ก็เลยรู้ว่าถ้าทำจริงคงติดต่อมาเองแหละ

“นี่อาจจะไม่ใช่เข้าใจผิด แต่อาจเป็นเพราะมารีญาคงไม่รู้จักเรา เค้าก็เลยเป็นห่วงเรื่องการโอนเงินกลัวถูกโกงมากกว่า พวกทรายกะแอมมีรู้จักกัน เลยไม่สนใจจะเอามาเป็นประเด็น ซึ่งจริงๆ แล้วทางเราตั้งใจว่า ถ้าเราหานายทุนได้หมื่นคนแรก เราถึงจะเริ่มทาบทามนักแสดง ซึ่งเราก็จะติดต่อน้องไปนะ เพราะจากทวิตเตอร์ตัวนั้นคนสนใจเยอะมาก ตอนนี้เรามีนายทุนแน่ๆ แล้วประมาณเกือบ 3 พันคน ครบหมื่นเมื่อไหร่ เราก็จะรีบดำเนินการทันที”

ถ้า ต้อม ยุทธเลิศ สามารถหานายทุนได้ถึงล้านคน หนังเรื่องนี้จะกลายเป็นหนังที่มีทุนสร้างถึง 100 ล้านบาท จากนายทุนที่เป็นประชาชนคนธรรมดา ลงเงินกันเพียงคนละ 100 บาท จะเป็นอีกหน้าหนึ่งของประวัติศาสตร์หนังไทยได้เลย เพราะปกตินายทุนที่สร้างหนัง ส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มทุนมหาเศรษฐีต่างๆ ไม่ใช่ประชาชนเป็นหลัก ที่ร่วมระดมทุนกันสร้างหนังเอง.