ลีเดีย เล่าความรู้สึกหลังตรวจซ้ำ พบถุงลมในปอดยังเป็นแผล หมอตอบไม่ได้หายขาดเมื่อไหร่


ให้คะแนน


แชร์

ลีเดีย เล่าความรู้สึกหลังตรวจซ้ำ พบถุงลมในปอดยังเป็นแผล หมอตอบไม่ได้หายขาดเมื่อไหร่

หลังจาก ลีเดีย ศรัณย์รัชต์ กับสามี แมทธิว ดีน ยกครอบครัว พาลูกๆ น้องดีแลน-น้องเดมี่ ไปตรวจร่างกายอย่างละเอียดอีกครั้ง หลังหายป่วยโควิดมา 6 เดือน ซึ่งผลบอกว่า แมทธิว หายแล้ว 100% ส่วน ลีเดีย ปอดทำงานแค่ 60%

ล่าสุด วันที่ 15 ต.ค ทั้งคู่พาลูกๆ มาร่วมงานเปิดโซน EMJOY : Empower The Youth’s Nextperience ศูนย์การเรียนรู้สู่อนาคตของเยาวชนยุคดิจิทัลแห่งใหม่ใจกลางสุขุมวิท ที่โซน EMJOY ชั้น 2 อาคาร C ศูนย์การค้า ดิ เอ็มควอเทียร์ และให้สัมภาษณ์ถึงผลการไปเช็กอัพร่างกายในครั้งนี้

ถามถึงสุขภาพลีเดียหน่อย
ลีเดีย: “สุขภาพจริงๆตอนนี้ก็ปกติดี เพียงแต่ว่าล่าสุดมันไปเช็กอัพ เพราะว่ามันผ่านมา5-6เดือน ก็ไปเช็กฟังชั่นการทำงานปอด และก็จริงๆตัวเองรู้สึกปกติค่ะ แต่พอไปเช็กแล้ว ผลที่มันออกมาบอกว่ายังไม่ค่อยปกตินะ แต่จริงๆ ก็ไม่ได้รู้สึกแบบเหนื่อย ไม่ได้รู้สึกหอบ หมอบอกว่าก็ใช้ชีวิตได้ตามปกติ เพียงแต่ว่าไปวิ่งมาราธอนอาจจะไม่ไหว”

ตกใจไหม
ลีเดีย: ตกใจไหมเหรอ ก็นิดนึงนะ เพราะเราเองก็รู้สึกว่าเราแข็งแรงดี แต่ของพี่แมทก็หายแล้ว 100% แต่มันก็ออกมานิดหนึ่งที่ไม่ค่อยปกติเท่าไหร่ คือเค้าบอกว่าถุงลมในปอดอาจจะเป็นแผลอยู่ คุณหมอก็อธิบายให้ง่ายๆ เหมือนตอนเวลาเป็นสิวมันหายแล้วล่ะ แต่รอยดำรอยแดงอาจจะยังอยู่ ก็อาจจะยังทำงานไม่เต็ม 100% ค่ะ”

แล้วเวลาออกกำลังกายเรื่องของการหายใจ หอบไหม
ลีเดีย: “ก็มีบ้าง ถ้าเวลาวิ่ง เดียจะรู้สึกว่าเดียเหนื่อยเร็วกว่าคนอื่น เพราะว่าอาจจะต้องใช้ออกซิเจนเยอะ เวลาช่วงวิ่งก็อาจจะหายใจเร็วกว่าปกติค่ะ แต่ก็ไม่ได้รู้สึกว่าไม่ไหว ก็ยังใช้ชีวิตได้ค่อนข้างปกติเลย”

หมอได้บอกไหมว่าอีกนานแค่ไหนจะกลับมา 100%
ลีเดีย: “ก็ไม่รู้เลย คุณหมอบอกว่าต้องใช้เวลา เพราะเขาบอกว่าโควิด-19 มันเป็นโรคที่เพิ่งเกิดขึ้นในโลก ก็เลยยังไม่มีข้อมูลอะไรเยอะ ว่ามันจะหายมา100%เหมือนเดิมไหม หรือถ้าหายจะใช้เวลานานขนาดไหน คือมันยังไม่มีสถิติของที่ผ่านมา มาโชว์ได้ เพราะเราก็เป็นหนึ่งคนแรกๆที่เป็น ก็เรียกว่าเป็นเคสเรียนรู้ไปด้วย”

แล้วการรักษาคือต้องทำยังไง
ลีเดีย: “หมอบอกไม่มีการรักษา ต้องให้ร่างกายรักษามันไปเอง ออกกำลังกายเพิ่ม ก็ไม่ได้ช่วยอะไร ก็ต้องรอให้ร่างกายฟื้นฟูตัวเอง”
แมทธิว: “ถ้าเกิดเรากินอาหารดีๆหรือว่าดูแลตัวเอง ตรงนั้นมันก็เป็นสิ่งที่ไม่เสียหายอยู่แล้ว มันก็จะช่วยเราได้ แต่ถ้าบอกว่ามีวิธีการรักษาที่ชัดเจนไหม ก็ยังไม่มี ก็ต้องปล่อยให้ร่างกายเป็นธรรมชาติของมัน”

แล้วอาการของพี่แมทเป็นยังไงบ้าง
แมทธิว:”ของตัวผมโอเคค่อนข้างจะดี ของเดียก็ยังแปลกใจว่ายังมีติดค้างอยู่นิดหนึ่ง ซึ่งมันยังหายไม่ 100% ก็คอยติดตามครับ คอยไปอัปเดตเช็คกับคุณหมอเรื่อยๆว่าดีขึ้นขนาดไหนแล้ว เมื่อไหร่จะถึง 100% เราก็จะสบายใจตอนนั้น ตอนนี้ก็ยังต้องระวัง”

แล้วพี่แมทออกกำลังกายแข็งแรงปกติดีไหม
ลีเดีย: “โอ้ย ฟิตกว่าเดิมอีกตอนนี้ ออกกำลังกายคือแข็งแรงกว่าเดิม คือช่วงนี้เรากลับมาดูแลในเรื่องของสุขภาพให้เต็มที่ เรื่องอาหารการกิน การอยู่ ทุกอย่าง ออกกำลังกายคือให้เต็มที่ไว้ก่อน ให้สุขภาพเราดีที่สุด เท่าที่จะเป็นไปได้ ของพี่แมทก็เลยฟิตกว่าเดิมก่อนที่จะเป็นโควิด-19 อีก”

ของพี่เดียต้องระวังเรื่องของงานไหม
ลีเดีย:”เรื่องของงาน คุณหมอบอกไม่กระทบ เดียก็ไม่รู้สึกว่ามันกระทบ”

แล้วร้องเพลงต้องใช้พลังเสียงเยอะ แล้วเรื่องของปอดมันจะไม่กระทบหรือ
ลีเดีย:”มันอาจจะไม่หนักขนาดนั้น คุณหมอบอกว่ามันจะหนักถ้าเป็นมาราธอนไตรกีฬาที่มันจะต้องใช้ออกซิเจนเยอะจริงๆ หนักจริงๆ แต่ว่าเป็นถ้าเป็นการร้องเพลงไม่น่าจะขนาดนั้น ยกเว้นจะตีลังการ้องเพลงไปด้วยเล่นหนักๆอันนั้นอาจจะเป็นไปได้ แต่ว่าก็คงไม่ได้หนักขนาดนั้น”

แล้วโอกาสเสี่ยงของการติดเชื้ออีกรอบ
ลีเดีย: “อีกรอบหนึ่งอันนี้ก็ไม่มีข้อมูล เพราะว่าเราไม่รู้ว่าเรายังมีภูมิในเลือดยังอยู่ไหม หรือถ้าเป็นอีกรอบหนึ่งจะกำจัดมันได้หรือจะเป็นแย่กว่าเดิม ก็ยังไม่มีข้อมูลตรงนี้ ก็หวังว่าจะไม่มีมาอีกรอบหนึ่ง”

เรียกง่ายๆ ตอนนี้ในตัวเราไม่ได้มีเชื้อ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือผลของอาการ
ลีเดีย:”ใช่ ถ้าเรื่องของเชื้อหมดแล้ว เพียงแต่ว่าความเสียหายที่มันทำกับปอดมันยังหายไม่สนิท แต่มันก็ไม่ใช่ว่าเป็นแผลเยอะมากเพราะว่าตอนนี้เอ็กซเรย์ทุกอย่างปกติ ถ้าเอาเอ็กซเรย์ของเราไปให้หมอที่ไหนดู ถ้าเค้าไม่ได้รู้ว่าเราเป็นใคร เค้าก็จะบอกว่าเป็นปอดปกติ เฮลตี้100% แต่เราไปตรวจฟังชั่นของการทำงานที่ไปเป่าเครื่องมันก็เลยรู้ว่า แก๊สที่เราจะต้องเอาคาร์บอนไดออกไซด์ออกมาแลกกับออกซิเจนมันยังไม่ 100%”

แล้วตอนนี้ปอดทำงานแค่ 60%
ลีเดีย: “ใช่ แต่คนปกติก็จะประมาณ 70- 80% ขึ้นไป แต่ของเรา 60 เราก็ไม่ได้แย่ขนาดนั้นแต่มันก็ยังไม่ปกติมันแค่ลดลงมานิดหน่อย”

ต้องปรับการใช้ชีวิตไหม
ลีเดีย : “ก็ไม่ต้องปรับอะไรเราก็ใช้ชีวิตปกติมันก็ไม่ได้กระทบขนาดนั้น เพราะเดียก็ไม่ใช่นักวิ่งมาราธอน ก็ออกกำลังกายแบบพอเหมาะพอควรไม่ได้หนักมากค่ะ”

อย่างของพี่แมทบริจาคพลาสมาไม่ได้แล้ว เพราะเห็นว่าภูมิมันลดลง
แมทธิว:”ภูมิจะลดลงฮะ คือมันจะมีภูมิตัวหนึ่งที่เวลาไม่สบายหรือเป็นโควิด-19 มันจะขึ้นสูงเพื่อที่จะต่อต้านไวรัสในช่วงที่เราเป็น พอเราหายแล้ว ไม่ได้อยู่ในตัวแล้วมันก็จะค่อยๆลดลงมาอยู่ในระดับปกติ เพราะฉะนั้นผมก็กลับมาอยู่ในระดับปกติเหมือนทุกคน แต่ว่าภูมิที่เหมือนจะเป็นสิ่งที่ร่างกายเราจะจำว่าเราเคยติดตัวนี้มาแล้ว เวลาถ้าเกิดมันมาหาเราอีก มันก็จะสามารถต่อต้านได้เร็วขึ้น ตัวนั้นอะยังอยู่”

อย่างก่อนหน้านี้ที่บริจาคไปก็เอาไปวิจัย ทดลอง
แมทธิว:”ใช่ครับ คืออย่างบริจาคพลาสมา เค้าจะสามารถเอาพลาสมาที่มีภูมิที่สูงๆอยู่กับตัวเรา ตัวนั้นจะไปช่วยคนไข้คนอื่นได้ แต่พอกลับมาอยู่ในระดับปกติแล้วก็คือบริจาคไปก็เท่านั้น ก็ไม่สามารถเอาไปทำอะไรได้”

ล่าสุด น้องดีแลนร้องไห้เป็นเพลง คิดถึงหม่ามี้
ลีเดีย: “ใช่ คุณครูบอกว่า อยู่ๆเค้าก็เดินมา เด็กปกติก็จะบอกว่าคิดถึงคุณพ่อ คุณแม่ แต่ดีแลนร้องออกมาเป็นเพลง มีเมโลดี้ด้วย ครูก็บอกว่าตั้งแต่สอนมาไม่เคยเจอ(หัวเราะ) ก็ไม่รู้ว่าจะภูมิใจหรือว่าจะเศร้าดี เนื้อเพลงมันเศร้ามากแล้วลูกหน้าตาก็ดูเศร้า แต่ว่าลูกสามารถแต่งเมโลดี้ขึ้นมาเป็นเพลง บอกความรู้สึกออกมาเป็นเพลง”

ปกติน้องเค้าร้องเพลงอยู่แล้วไหม
ลีเดีย: “เค้าก็จะร้องของเค้า เค้าก็จะชอบจำเมโลดี้”
แมทธิว: “เค้าจะชอบจำเมโลดี้จากเมอรี่คริสมาสอะไรอย่างเนี่ย แล้วก็เอามาแต่งเนื้อของเค้าเอง ก็เหมือนกับเอาเพลงคริสมาสมาร้องเป็นเนื้อหิวข้าว อะไรประมาณนี้(หัวเราะ) ก็แปลกเหมือนกัน”

ได้เลือดคุณพ่อคุณแม่มาเต็มๆ
ลีเดีย: “ก็น่าจะซึมซับไปประมาณหนึ่ง เค้าทำออกมาเอง คือเป็นธรรมชาติของเค้า”
แมทธิว:”น่าจะได้มาจากพ่อตอนนี้ เพราะว่าผมชอบร้องอะไรแบบแปลกๆมั่วๆไป แต่ถ้าดีๆก็จะได้แบบคนนี้” (ชี้ไปทางลีเดีย) (หัวเราะ)
ลีเดีย:​”ค่ะ ก็แปลกใจ ไม่รู้ว่าแม่ควรจะเศร้าหรือควรจะดีใจดี แบบสองความรู้สึก”

ดูข่าวต้นฉบับ

ที่มา : https://www.khaosod.co.th/entertainment/news_5119582
ขอขอบคุณ : https://www.khaosod.co.th/entertainment/news_5119582