ต่าย สายธาร มั่นในสัจจะ รับปากจะดูแล แม่สีดา แทน อ๊อฟ อภิชาติ


ให้คะแนน


แชร์

ดาราสาว ต่าย สายธาร ยึดสัจจะคำไหนคำนั้น รับปากจะดูแล แม่สีดา แทน อ๊อฟ อภิชาติ เผยชีวิตการทำงานหน่วยกู้ชีพ ที่ต้องเจอกับความตายตลอดเวลา

ห่างหายจากวงการบันเทิงไปนาน เพราะไปลุยงานด้านจิตอาสากับมูลนิธิร่วมกตัญญู ล่าสุดอดีตนางเอกสาว ต่าย สายธาร นิยมการณ์ มาเปิดใจในรายการ ต้มยำอมรินทร์ ผลิตโดย CHANGE2561 ว่ารักในงานการทำงานของหน่วยกู้ชีพที่ต้องอยู่กับความเป็นความตายตลอดเวลา เพราะอยากตอบแทนประชาชน

กดติดตามไลน์ ข่าวสด official account ได้ที่นี่
เพิ่มเพื่อน

นอกจากเรื่องจิตอาสาแล้ว ต่าย สายธาร ยังเปิดใจถึงเรื่องที่คอยดูแล แม่สีดา พัวพิมล คุณแม่ของอ๊อฟ อภิชาติ อดีตพระเอกคนสนิทมาด้วยว่าจะดูแลกันไปเรื่อยๆ อย่างดี

รหัส 18 นี้คืออะไร?

“อย่างพี่ท็อป พี่ไทด์จะเป็น 1-2 ใช่มั้ยคะ แล้วก็ พี่ต้น อธิวัฒน์ ก็จะเป็นดารา 4 ต่าย ก็จะเป็น 18 รหัสดาราอย่างเนี้ย เราศิลปินอย่าง พี่ท็อป พี่ไทด์ เขาจะดูแลอยู่ ณ ส่วนตรงนี้ ของต่าย จะอยู่ในส่วนของประชาสัมพันธ์มูลนิธิ ช่วยในเรื่องของการประชาสัมพันธ์ แต่ตัวต่ายเองก็จะเป็นคนที่แบบลงปฏิบัติงานค่ะ เขาเรียกวอ 4 คือปฏิบัติหน้าที่ แล้วอย่างมูลนิธิหลายๆ คนจะงงว่า เอ๊ะ! ทำไมมีชุดหลายสี คือถ้าเป็นชุดอย่างนี้สีเขียวเนี่ย จะเรียกว่าชุดอาสา อาสาคือสามารถไปช่วยยกแบกน้ำท่วมอะไรอย่างพี่ท็อปพี่ไทด์ที่ทำ”

“แล้วก็อย่างต่ายใส่ชุดสีขาวกู้ชีพก็จะอยู่ในส่วนของรถพยาบาล โดยที่คุณจะต้องไม่ยุ่งกับศพ คุณอยู่ในส่วนของรถพยาบาลคุณทำคลอดได้ ถ้าเป็นชุดสีเหลืองก็จะเป็นเจ้าหน้าที่ที่สำหรับเก็บศพโดยเฉพาะ จริงๆ แล้วการใส่ชุดที่แตกต่างกันเนี่ย เวลาที่ลงปฏิบัติหน้าที่เนี่ย มันก็จะเป็นในเรื่องของกฎหมายด้วยแล้วก็เป็นในเรื่องของการแยกแยะแยกประเภท”

แล้วเห็นเขาบอกว่าอย่างชุดขาวที่ต่าย ใส่ เป็นดาราเพียงคนเดียวในประเทศไทยเลยที่จบหลักสูตรกู้ชีพนี้?

“คิดว่าน่าจะใช่นะคะ เป็น EMT-B emergency medical technician basic คือเรียน110 ชั่วโมง น่าจะเป็นเดือนๆ เลยค่ะ แต่ขาดไม่ได้เลยนะคะ จำได้ว่าตอนขึ้นไปเรียนต่ายยังให้น้ำเกลืออยู่ด้วยเพราะห้ามขาดเลยแม้แต่นาทีเดียว เราต้องไปอบรมต้องไปเรียนทุกวันด้วยความกดดัน แต่ภูมิใจที่เราทำได้ แล้วการที่หลายคนมองเห็นว่าการใส่ชุดแล้วมันเท่ มันไม่ได้เท่ตรงชุดหรอกค่ะ มันเท่ตรงนี้มากกว่า(ชี้ที่ศีรษะ) ถ้าเราไปเรียนได้”

ก่อนที่มาเป็น ต่าย สายธาร ในวันนี้ เมื่อก่อนได้รับฉายา แหม่ม จินตหรา 2 ด้วย?

“ต้องบอกว่าได้รับใบบุญจาก พี่แหม่ม มาก เพราะว่าในช่วงนั้นต่ายได้เข้ามาเล่น อนึ่งคิดถึงพอสังเขป เรื่องแรกของอาบัณฑิต ฤทธิ์ถกล และพี่สมเกียรติ ไฟว์สตาร์ ตอนนั้นไฟว์สตาร์เนี่ยเขามีเซ็นสัญญาก็เรียกมา ต่ายเป็นเด็กเชียงใหม่ เรียกมาแคสต์แล้วก็ให้เล่นเป็นพี่แหม่มตอนเด็ก เราเกิดจากพี่แหม่มเลยค่ะ เพราะตอนนั้นก็จะมีผมม้าใช่มั้ยคะมีบางมุมที่คล้ายพี่แหม่ม อันนี้ก็ต้องขอบคุณพี่แหม่ม แล้วก็ขอบคุณสื่อด้วยขอบคุณค่ะ”

ตอนนั้น ต่าย สายธาร ถือว่าเป็นดาราวัยรุ่นที่ดังมาก เป็นแบบตัวท็อปเลย แล้ววันนั้นที่เราตัดสินใจมาเป็นจิตอาสาเนี่ยแรงบันดาลใจมันคืออะไร?

“คือพอเรามาทำตรงนี้ เรียกว่าแรงบันดาลใจ อันนี้ต้องขอบคุณคุณอ๊อฟ อภิชาติ เขาเป็นคนที่ชักชวนต่ายมาทำตรงนี้”

อ๊อฟเข้าไปก่อน?

“ใช่ค่ะ อ๊อฟทำก่อนในช่วงนู้นที่สนิทกันนะคะ แล้วพอเข้ามาทำต่ายมีความรู้สึกว่า คือสัญชาตญาณของมนุษย์ต่อให้ปากหลายๆ คน ต่ายเชื่อเลยค่ะ ต่ายเจอมาหลายคนแล้วที่พูดว่ากลัวเลือดกลัวไม่กล้าทำ แต่พอไปถึงเวลาจริงๆ บอกช่วยหยิบอันนี้ให้ต่ายหน่อยสิ มันต้องทำอยู่ๆ มันจะทำเองโดยอัตโนมัติ เพราะนั่นคือสัญชาตญาณของมนุษย์ที่อยากจะช่วยคน”

“แต่บางคนอยากช่วยก็ไม่รู้ว่าจะช่วยวิธีไหนอย่างถูกต้อง เพราะฉะนั้นเนี่ยพอได้เข้ามาทำแล้วบวกกับการที่ผู้ใหญ่ทางร่วมกตัญญูเมตตาเรา แล้วส่งเรามาเรียนอบรมเป็นกู้ชีพจบมาแล้วก็ต้องถามตัวเองว่าไปเรียนมาแล้ว แล้วยังไงต่อ จะเก็บไว้เป็นกบอยู่ในกะลาแทนที่คุณจะเอาความรู้ที่มีมาเนี่ยไปเผยแพร่ให้กับคนรุ่นหลัง แล้วก็ให้เขาไปต่อยอด”

“ไม่ว่าจะเป็นวิทยากรไม่ว่าจะเป็นการไปสอนเด็กๆ CPR ไปทำอะไรก็ได้สำหรับคนที่เขาอยู่ห่างไกลความเจริญและเราไปช่วยตรงนั้นก็เลยคิดว่าเอาความที่เราเป็นนักแสดงหรือเป็นดาราเนี่ยมาทำตรงนี้มันก็เป็นใบเบิกทางอย่างหนึ่ง แต่สิ่งสำคัญที่อยากทำมากที่สุดก็คือการได้ตอบแทนประชาชนของพระราชา”

เคยรู้สึกว่าไม่สนุกเลยไม่ทำแล้ว เคยท้อเคยเหนื่อยบ้างไหม?

“มันมีแต่น้อยมากเพราะว่าบอกเลยว่าการทำงานตรงนี้เราทำงานภายใต้แรงกดดัน บางทีการไปเจอเคสไทยมุงที่มามุงเมื่อก่อนเนอะ ทำไมไม่รีบทำ ทำไมไม่รีบช่วยหรือนั่นนู่นนี่นั่น แต่จริงๆ แล้วการช่วยเหลือผู้ที่ได้รับบาดเจ็บมันมีขั้นตอนของมัน”

เคสสึนามิเป็นยังไงบ้าง?

“สึนามินี่ไปถึงภาพแรกคือลงเครื่อง C130 ไปเนี่ย เห็นเลยอยู่บนหลังคาอยู่แบบ…นึกออกใช่มั้ยคะ จำได้ว่าไปในโรงแรมที่หาดป่าตองเพื่อไปเอาศพแล้วไปเจอศพเด็ก แล้วตัวต่ายเองเจอคนญี่ปุ่น 2 คนตามหาลูก เขาไม่ได้กินน้ำไม่ได้กินข้าว 2 วันนะ แล้วเด็กอ่ะลูกเขา 5 ขวบ 1 คน 2 ขวบ 1 คน ทีนี้เขาก็บอกว่าให้ตามหาลูกเขา เราไปเจอลูกเขา 1 คน 5 ขวบ แต่เสียชีวิตแล้ว แต่เขาก็ยังมีความหวังว่าจะเจอลูกเขาอีกคนก็เจอค่ะ 2 ขวบก็เสียชีวิตเหมือนกัน”

“เขาก็ตีทุบเราใหญ่เลย แต่เราเข้าใจไงการสูญเสียพ่อกับแม่เองก็แย่เพราะว่าอยู่ในป่าแล้วก็ไม่ได้ทานน้ำ ซึ่งมันเป็นเหตุการณ์ที่มันคิดว่าคงไม่ใช่ว่าต่ายรู้สึกแย่คนเดียว หลายๆ คนก็รู้สึกหดหู่ แต่ตรงนั้นเนี่ยมันก็ย้อนกลับมาว่าเราดีใจนะที่เราได้เป็นส่วนหนึ่งที่ได้เข้าไปช่วย ณ เหตุการณ์นี้”

เห็นขนาดนั้นไปถ่ายรูปขนาดนั้นน่ะ เขามีตามมาที่บ้านหรือมีอะไรแปลกๆ บ้างไหม?

“คือเคสที่ถ่ายรูปเนี่ยไม่อยากพูดแล้วนะคะ คือตอนนั้นเนี่ยต่ายชวนเพื่อนมานอนที่ห้อง สมัยก่อนเรียนสแตมฟอร์ดใช่มั้ยคะ ที่ต่ายมีความรู้สึกว่าต่ายเห็นน่ะ คือเอารูปเขาไว้ในห้อง รูปหน้าชัดมากมันก็มีความรู้สึกว่า 2-3 วันนะคะเห็นหน้าเขา ทำไมมันฝันเดิมๆ หน้าเขามาอย่างเนี้ย(เข้ามาใกล้ๆ)”

“พอมาอีกวันทำไมมันฝันอีกแล้ว แต่รอบนี้หน้าเขามาติดเราเลยไม่ไหวแล้วไปวัดลาดพร้าวเลย เราเคาะแบบเรียกท่านเจ้าอาวาสตอนนั้นนะคะ รดน้ำมนต์ตอนนั้นเลย อันนี้คือเหตุการณ์แรกๆ สมัยแรกค่ะ”

“แต่การที่เรามาทำหน้าที่ตรงนี้ มันทำให้เราปลงด้วย แล้วอีกอย่างคือเวลาที่เราปลง บางทีต่ายจะคิดเสมอว่าถ้าเราไม่ทำใครจะทำ มีคนมาทำมั้ย ถ้ามีคนมาทำก็จะไม่ทำ แต่ก็ไม่มีคนทำแล้วก็ต้องทำต่อแล้ว อีกอย่างนึงเราก็อยากจะเอาสิ่งเหล่านี้ที่มันเป็นความรู้ มันเป็นสิ่งที่นึงที่เป็นทรัพย์ในตัวที่เราสามารถมอบให้เขาได้ เรามีแก้วแหวนเงินทองไม่ต้องมีเงินเยอะแยะมากมายที่จะให้เขา”

“อย่างทุกวันนี้ต่ายมีทีมงานจิตอาสาต่ายสายธารอย่างนี้ค่ะ ซึ่งเป็นทีมงาน 20-30 คน แต่เป็นทีมงานที่ทำงานภายใต้องค์กรของมูลนิธิร่วมกตัญญู แล้วก็มีทีมงานจากพี่ท็อปพี่ไทด์มาช่วย เวลาที่ต่ายลงพื้นที่ลงเคสแจกอาหารหรือไปช่วยคนหรือเคสเร่งด่วนอะไร ไม่ได้แตกแยกออกมาจากมูลนิธิ ต้องให้เข้าใจด้วยก็ยังอยู่ที่ร่วมกตัญญูเหมือนเดิม ทำงานรับใช้มูลนิธิเหมือนเดิม”

ความน่ารักของ ต่าย สายธาร นอกจากเป็นคนที่ตอบแทนประชาชนแล้ว ยังดูแล แม่สีดา ซึ่งเป็นแม่ของอ๊อฟ ดูแลเหมือนคุณแม่ของตัวเองเลย?

“คำว่าสัจจะ สัจจะให้ไปแล้วก็ต้องทำ แล้วอีกอย่างนึงคือต่ายไม่ได้แบบว่าจะมาพูดเพื่อให้คนเห็นว่าฉันเป็นคนดีนะ แต่เราอยากทำให้เห็นว่าเนี่ยคือความว่าสัจจะที่แท้จริง แล้วอีกอย่างนึงคือต่ายมีความรู้สึกว่าคือถ้าด้วยวัยขนาดนี้ ถ้าเป็นแม่ต่ายก็อยากให้เขาสบาย อยากให้เขาอยู่บ้าน”

“แต่หมายถึงคุณแม่สีดายังแข็งแรงอยู่นะคะ แล้วก็ทางน้องของคุณอ๊อฟเขาก็ยังดูแลอยู่ หลายคนอาจจะคิดว่าน้องไม่ดูแลเหรอ น้องยังดูแลอยู่ เพียงแต่ว่าเขาก็จะต้องมีภาระในส่วนของเขา แต่ว่าในเรื่องส่วนตัวของแม่สีดาเนี่ย ต่ายเองเรียนตรงๆ ว่าก็ไม่ได้ก้าวก่ายไม่ได้ทราบอะไรมาก”

พาไปทานข้าวไปเจอกัน?

“ใช่ๆ ไปทานข้าวร่วมกันอะไรอย่างนี้ อันนี้คือสิ่งที่ต่ายทำได้ แล้วก็ไปให้กำลังใจ บางทีก็โทรถามตลอด บางที่แม่ทักไลน์มาหรืออะไรอย่างนี้ ต่ายก็อาจจะไม่ได้ตอบ แต่แม่จะรู้ คือเป็นอย่างนี้ตลอดค่ะ ดูแลกันไปเท่าที่ทำได้”

สามารถรับชมรายการ ต้มยำอมรินทร์ ผลิตโดย CHANGE2561 ย้อนหลังได้ที่นี่

ดูข่าวต้นฉบับ

ที่มา : https://www.khaosod.co.th/entertainment/news_5126364
ขอขอบคุณ : https://www.khaosod.co.th/entertainment/news_5126364